มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2539 โดย มูลนิธิฮั้วเคี้ยวป่อเต็กเซี่ยงตึ๊ง ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลจีนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยชื่อของมหาวิทยาลัย "หัวเฉียว" หมายถึง ชาวจีนโพ้นทะเล และเป็นชื่อที่มูลนิธิใช้เป็นชื่อของโรงพยาบาลและวิทยาลัยของมูลนิธิอยู่แล้ว
เนื้อหา |
[แก้] ประวัติ
ย้อนไป 15 ปีที่แล้ว ผู้ที่ผ่านไปผ่านมาแถวถนนบางนา-ตราด อำเภอบางพลี สมุทรปราการ จะแลเห็นธรรมชาติของท้องทุ่งที่เขียวขจีไปด้วยนาข้าว สวนผลไม้ แต่ปัจจุบันทำเลแห่งนี้ถูกพลิกฟื้นให้เป็นเมืองใหม่ของกรุงเทพฯที่อุดมไปด้วยความเจริญในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นศูนย์กลางการบินนานาชาติ แหล่งธุรกิจอุตสาหกรรมการลงทุน [และบนถนนบางนา-ตราดแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ตั้งสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำ ในนาม “มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ” เมืองมหาวิทยาลัยแห่งภาคตะวันออก ที่ตั้งเด่นตระหง่านบนเนื้อที่ 150 ไร่ ภายในเรียงรายไปด้วยหมู่ตึกสีแดง สะดุดตาผู้ที่ผ่านไปมา และหากได้เข้าไปสัมผัสธรรมชาติและบรรยากาศการเรียนการสอนของที่มี ก็จะต้องบอกเป็นเสียงเดียวกันว่ามหาวิทยาลัยแห่งนี้เหมาะแก่การเป็น “แคมปัส”หรือแหล่งเรียนรู้ในระดับอุดมศึกษาอย่างแท้จริง
“หัวเฉียว” เป็นชื่อที่คุ้นหูคนไทยมานานกว่า 65 ปี โดยเฉพาะผู้ที่อยู่แวดวงการแพทย์-พยาบาล แต่ชื่อนี้ไปเชื่อมโยงกับการกำเนิดของ “มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ” อย่างไร เป็นประวัติที่น่าสนใจยิ่ง ดังนั้น ก่อนจะไปดูการจัดการเรียนการสอน และรู้จักกับหลักสูตรต่าง ๆ ที่จะนำไปสู่เป้าหมายในการผลิตบัณฑิต ตลอดจนบทบาทหน้าที่ในฐานะที่เป็นสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำของประเทศ ควรต้องย้อนไปดูประวัติของ “มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ” ก่อน เพื่อจะได้รู้จักมหาวิทยาลัยแห่งนี้มากขึ้น
“มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ” ก่อกำเนิดมากจาก “วิทยาลัยหัวเฉียว” ซึ่งมีรากฐานเติมโตมาจากโรงเรียนผดุงครรภ์อนามัยก่อตั้งโดยมูลนิธิป่อเต็มตึ๊ง ที่ก่อเกิดขึ้นจากพลังศรัทธาในคุณธรรมแห่ง “ไต้ฮงภิกขุ” ผู้ก่อตั้ง “คณะเก็บศพไต้ฮงกง” หรือ “มูลนิธิป่อเต็งตึ๊ง” ในปัจจุบัน โดยมีภารกิจในการบำเพ็ญทาน การสร้างสถานพยาบาลและบรรเทาสาธารณภัยเพื่อมวลชน รวมถึงการทำงานด้านการศึกษา โดยเปิดสอนหลักสูตรพยาบาล ในระดับปริญญาตรีเป็นหลักสูตรแรก ก่อนที่จะได้รับการยกสถานะเป็น “มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ” ในปัจจุบัน
ต่อมาในปี พ.ศ. 2533 ในวาระที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งมีวาระครบรอบ 80 ปี จึงได้ระดมทุนจากชาวไทยเชื่อสายจีนเพื่อใช้ในการก่อสร้าง เมื่อได้รับการอนุมัติจากทบวงมหาวิทยาลัยให้ยกสถานะเป็นมหาวิทยาลัย จึงเริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2535 โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า ““มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ” ทั้งยังได้เสด็จพระราชดำเนินมาเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดมหาวทิยาลัย เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2537 ยังความปลาบปลื้มและนับเป็นสิริมงคลอันใหญ่หลวงแก่ชาวมหาวิทยาลัย และชาวจีนโพ้นทะเลในดินแดนสยาม ที่ได้ร่วมมือกันก่อตั้งสถาบันการศึกษาแห่ง
นับจากการสถาปนา จนถึงปัจจุบันนี้ เป็นเวลาร่วม 16 ปี ที่“มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ” ได้ทำหน้าที่ในฐานะสถาบันอุดมศึกษา ในการผลิตบัณฑิตออกไปรับใช้สังคมและประเทศชาติ โดยยึดกระแสพระราชดำรัชของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงดำรัสไว้ครั้งสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดมหาวิทยาลัยว่า “ขอให้ทำมหาวิทยาลัยแห่งนี้ให้ดี” เป็นกระแสพระราชดำรัสที่ยังความปลาบปลื้มแก่คณะผู้ก่อตั้ง คณะผู้บริหาร คณาจารย์ และบคลากรของมหาวิทยาลัย เป็นล้นพ้น และก่อให้เกิดความมุ่งมั่นที่จะพัฒนามหาวิทยาลัยแห่งนี้ให้บรรลุผลสำเร็จตามปณิธานที่ตั้งไว้ นั่นคือ “การกระจายโอกาส และสร้างความเสมอภาคในระดับอุดมศึกษา ส่งเสริมวัฒนธรรมอันดีงามตามพื้นฐานพระพุทธศาสนา และบูชาคุณธรรมบรรพชน เพื่อสร้างบัณฑิตที่รู้รอบ รู้ลึก และมีความชำนาญงาน โดยเน้นความเป็นเลิศทางวิชาการ เพื่อสร้างบัณฑิตผู้รู้จริง ปฏิบัติงานได้จริง ควบคู่กับการมีคุณธรรม พร้อมที่จะถ่ายทอดวิชา และอุทิศตนเพื่อรับใช้สังคมอย่างเต็มภาคภูมิ” เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามวิสัยทัศน์ที่วางไว้ นั่นคือ “มุ่งหวังให้เป็นมหาวิทยาลัยปวงชนที่มีมาตรฐานสากล ทันสมัย มีความพร้อมสำหรับการแข่งขัน และพึ่งตนเองได้"
[แก้] สัญลักษณ์
- ตัวอักษรกลางรูปวงกลม นำมาจากสัญลักษณ์ของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง อ่านว่า "เสียง" หมายถึง "คุณงามความดี บริสุทธิคุณ การกระทำความดี"
- ส่วนวงกลมชั้นนอก มีอักษรไทย/อังกฤษ บอกชื่อ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ ส่วนภาษาจีนใช้ภาษาแต้จิ๋ว อ่านว่า "หั่ว เคี้ยว ฉ่ง เสี่ย ไต่ฮัก" มีความหมายเดียวกัน
[แก้] หลักสูตร
“มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ” เปิดสอนระดับปริญญาตรี ภาคปกติ ปริญญาต่อเนื่อง 2 ปี ทั้งภาคปกติและภาคสมทบ (เรียนเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์) หลักสูตรนานาชาติ (International Program) เพื่อเพิ่มทักษะภาษาต่างประเทศ เพื่อใช้ในการประกอบอาชีพ และเพื่อเตรียมพร้อมเข้าศึกษาต่อต่างประเทศในระดับสูง พร้อมกับเปิดโอกาสให้นักศึกษาต่างชาติได้เข้ามาศึกษาในสาขาวิชาต่าง ๆ ควบคู่ไปกับวัฒนธรรมไทย และระดับบัณฑิตศึกษา เพื่อผลิตนักบริหารมืออาชีพสู่ภาคธุรกิจ อุตสาหกรรม และผู้นำทางสังคมในภาครัฐและเอกชน ภายใต้การจัดการเรียนการสอนของคณะต่าง ๆ รวม 13 คณะวิชา ได้แก่
- - คณะพยาบาลศาสตร์
- - คณะสังคมสงเคราะห์และสวัสดิการสังคม
- - คณะศิลปศาสตร์
- - คณะบริหารธุรกิจ
- - คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
- - คณะสาธารณสุขศาสตร์และสิ่งแวดล้อม
- - คณะนิเทศศาสตร์
- - คณะเภสัชศาสตร์
- - คณะเทคนิคการแพทย์
- - คณะกายภาพบำบัด
- - คณะการแพทย์แผนจีน
- - คณะนิติศาสตร์
- - บัณฑิตวิทยาลัย
- รวม 33 สาขาวิชา ครอบคลุมทั้งด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์
- ด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ เปิดสอนสาขาดังนี้
- - สาขาพยาบาลศาสตร์
- - สาขาการแพทย์แผนจีน
- - สาขาเภสัชศาสตร์
- - สาขาเทคนิคการแพทย์
- - สาขากายภาพบำบัด
- - สาขาวิชาอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
- - สาขาอนามัยสิ่งแวดล้อม
- - สาขาการจัดการโรงพยาบาล
- ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
- - วิทยาการคอมพิวเตอร์
- - จุลชีววิทยาอุตสาหกรรม
- ด้านมนุษยศาสตร์
- - ภาษาจีน
- - ภาษาอังกฤษ
- - ภาษาและวัฒนธรรมไทย
- - ภาษาไทยเพื่อการสื่อสารสำหรับชาวต่างประเทศ
- - หลักสูตรเอกคู่ (Double-Major)
- ภาษาอังกฤษ-จีน - ภาษาอังกฤษ-ภาษาไทย
- ด้านสังคมศาสตร์
- - สังคมสงเคราะห์ศาสตร์
- - บริหารธุรกิจ (บัญชี การจัดการ การตลาด การเงิน ธุรกิจระหว่างประเทศ คอมพิวเตอร์ธุรกิจ เศรษฐศาสตร์ธุรกิจ การจัดการอุตสาหกรรม)
- - นิติศาสตร์
- - นิเทศศาสตร์ (วิทยุและโทรทัศน์ การออกแบบนิเทศศิลป์ ประชาสัมพันธ์ โฆษณาและการสื่อสารการตลาด ศิลปะการแสดง สื่อมัลติมีเดียและสื่อใหม่)
- - การท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมบริการเพื่อการท่องเที่ยว
สำหรับปริญญาโท การจัดการหลักสูตรเน้นที่คุณภาพมากกว่าปริมาณ โดยเลือกหลักสูตรที่เป็นจุดแข็งของมหาวิทยาลัย ทั้งด้นประสบการณ์และความพร้อม ได้แก่
- - พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการพยาบาลเวชปฏิบัติชุมชน
- - วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการจัดการระบบสุขภาพ
- - สังคมสงเคราะห์ศาสตรมหาบัณฑิต สาขาบูรณาการนโยบายสวัสดิการสังคม
- - บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต (MBA.)
- - การจัดการมหาบัณฑิต สาขาการจัดการอุตสาหกรรม
- - เภสัชศาสตรมหาบัณฑิต
- - วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาเครื่องสำอาง
- - ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวรรณคดีสมัยใหม่และร่วมสมัย (สอนเป็นภาษาจีน) ร่วมกับมหาวิทยาลัยหัวเฉียว (จีน)
[แก้] คณะ
- บัณฑิตวิทยาลัย
- คณะนิติศาสตร์
- คณะบริหารธุรกิจ
- คณะศิลปศาสตร์
- คณะเทคนิคการแพทย์
- คณะเภสัชศาสตร์
- คณะการแพทย์แผนจีน
- คณะกายภาพบำบัด
- คณะพยาบาลศาสตร์
- คณะสาธารณสุขศาสตร์และสิ่งแวดล้อม
- คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์และสวัสดิการสังคม
- คณะวิทยาศาสตร์์และเทคโนโลยี
- คณะนิเทศศาสตร์
[แก้] สถาบัน/ศูนย์และหน่วยงานในมหาวิทยาลัย
- สำนักทะเบียนและประมวลผล
- สำนักพัฒนาวิชาการ
- ศูนย์บรรณสารสนเทศ
- ศูนย์เทคโนโลยีการศึกษา
- สถาบันไทย-จีนศึกษา
- ศิลปวัฒนธรรม
- สำนักพัฒนานักศึกษา
[แก้] ชมรมต่าง ๆ ในมหาวิทยาลัย
- ชมรมวิทยุสมัครเล่น
- ชมรมเทควันโด
- ชมรมเปตอง
- ชมรมแบตมินตัน
- ชมรมฟุตบอล
- ชมรมมุสลิมศึกษา
- ชมรมพุทธศาสน์
- ชมรมคนใต้
- ชมรม R&DTC
- ชมรมกีฬายิงปืนและBB GUN
- ชมรมบาสเกตบอล
- ชมรมดนตรีสากล
- ชมรม HCU Band
- ชมรมขับร้องประสานเสียง
- ชมรมผู้นำเชียร์ประจำมหาวิทยาลัย
- ชมรมเชียร์
[แก้] แหล่งข้อมูลอื่น
|