นักศึกษาวิชาทหาร
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
นักศึกษาวิชาทหาร (นศท.) หรือนิยมเรียกว่า รด. (ย่อจาก "รักษาดินแดน") เป็นกำลังสำรองของกองทัพไทยที่ฝึกหัดจากเยาวชนที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป ภายใต้การควบคุมของหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (นรด.)
ภายหลังจากการยกเลิกการฝึกยุวชนทหารในปี พ.ศ. 2490 ในปีถัดมา พลโท หลวงชาตินักรบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในสมัยนั้น ได้พิจารณาเห็นว่า การสงครามในอนาคตนั้น พลเมืองทุกคนไม่จำกัดเพศและวัย ย่อมจะต้องมีส่วนร่วมในสงครามด้วยกันทั้งสิ้น จึงมีความจำเป็นต้องขยายโครงสร้างของกองทัพ พร้อมกับพัฒนาระบบกำลังสำรองควบคู่กันไป
กระทรวงกลาโหมจึงจัดตั้งกรมการรักษาดินแดนขึ้น ตามพระราชบัญญัติจัดระเบียบป้องกันราชอาณาจักร พุทธศักราช 2491 และคำสั่งทหารที่ 54/2477 ลงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2491 เพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ดังกล่าว กิจการนักศึกษาวิชาทหารจึงเริ่มมีขึ้นนับแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
ในปีการศึกษา 2492 ได้เริ่มมีการฝึก นักศึกษาวิชาทหารเป็นปีแรก โดยเริ่มในกรุงเทพมหานคร แล้วจึงกระจายไปตามหัวเมืองในต่างจังหวัด
หลังดำเนินการฝึกเป็นเวลา 5 ปี (2492 - 2496) ในปี 2497 ได้มีพิธีประดับยศ ว่าที่ร้อยตรี เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 พ.ค. 2497
ในปีการศึกษา 2528 ได้เริ่มมีการฝึกนักศึกษาวิชาทหารหญิงเป็นครั้งแรก พร้อมกับการฝึกนักศึกษาวิชาทหารชั้นปีที่ 4 ในส่วนของกองทัพเรือ ส่วนการเริ่มเปิดฝึก นักศึกษาวิชาทหารชั้นปีที่ 1 ในส่วนของกองทัพเรือเป็นครั้งแรกเกิดขึ้นในปีการศึกษา 2552 ซึ่งจะขยายการฝึกจนครบชั้นปีที่ 3 เช่นเดียวกับนักศึกษาวิชาทหารในส่วนของกองทัพบกในปีการศึกษา 2554 แต่ยังคงรับ นศท.ที่สำเร็จการฝึกชั้นปีที่ 3 ในส่วนของกองทัพบกที่มีความประสงค์โอนย้ายมาฝึก นศท.ชั้นปีที่ 4 ในส่วนของกองทัพเรือไปจนถึงปีการศึกษา 2554 หลังจากนั้นเป็นการรับ นศท. ในส่วนของกองทัพเรือ โดยในปีการศึกษา 2556 จะเป็น นศท.ในส่วนของกองทัพเรือที่มาจากการฝึก นศท.ในส่วนของทหารเรือทั้งสิ้น จึงกล่าวได้ว่า นศท. ชั้นปีที่ 5 ที่ฝึกในปีการศึกษา 2556 ในส่วนของกองทัพเรือเป็นลูกหม้อที่มาจากการฝึก นศท. ของกองทัพเรือแต่เพียงผู้เดียว
ปี 2544 กองทัพบกปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ โดยให้รวมกรมการรักษาดินแดนกับกรมการกำลังสำรองทหารบก ใช้ชื่อว่า หน่วยบัญชาการกำลังสำรอง (นสร.)
ในปีการศึกษา 2549 ทางกรมกำลังพลทหารอากาศได้รับอนุมัติจากกองทัพอากาศ เปิดการฝึกนักศึกษาวิชาทหารชั้นปีที่ 1 และจะเปิดการฝึกครบทั้ง 5 ชั้นปี ในปีการศึกษา 2553
ในเดือนเมษายน 2552 หน่วยบัญชาการกำลังสำรอง เปลี่ยนชื่อเป็น หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน[1]
เนื้อหา |
[แก้] การคัดเลือก
ช่วงเดือนพฤษภาคมของทุกปี จะมีการคัดเลือกนักเรียนนักศึกษาในสถาบันการศึกษาต่าง ๆ เพื่อเข้าเป็นนักศึกษาวิชาทหาร โดยผู้เข้ารับการคัดเลือกจะต้องมีคุณลักษณะดังนี้
- เป็นชายหรือหญิงมีสัญชาติไทย
- อายุไม่เกิน 22 ปีบริบูรณ์ นับตามกฎหมายว่าด้วยการรับราชการทหาร และต้องได้รับ คำยินยอมจาก บิดา มารดา หรือผู้ปกครอง
- ไม่พิการ ทุพพลภาพ หรือมีโรค ซึ่งไม่สามารถจะรับราชการทหารได้ ตามกฎหมาย ว่าด้วยการรับราชการทหาร พ.ศ. 2497
- ไม่เป็นบุคคล ซึ่งไม่มีคุณวุฒิที่จะเป็นทหารได้เฉพาะบางท้องที่ ตามกฎหมาย ที่ออกตามความในมาตรา 13 (3) แห่งพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. 2497
- มีดัชนีความหนาของร่างกาย (BMI) อยู่ในเกณฑ์ปกติ และต้องไม่อยู่ในภาวะ โรคอ้วน ซึ่งมีดัชนีความหนาของร่างกาย ตั้งแต่ 30 กิโลกรัมต่อตารางเมตรขึ้นไป (BMI = น้ำหนักตัว (กก.) / ส่วนสูง² (ม.²) )
- มีน้ำหนัก ขนาดรอบตัว ขนาดส่วนสูง ตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้
นอกจากนี้ผู้สมัครจะต้องมีคุณสมบัติดังนี้
- กำลังศึกษาอยู่ในสถานศึกษาที่หน่วยบัญชาการรักษาดินแดนเปิดทำการฝึกวิชาทหาร
- สำเร็จการศึกษาตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หรือเทียบเท่าขึ้นไป และมีผลการศึกษาของชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หรือเทียบเท่า ตั้งแต่ 1.0 ขึ้นไป
- ผู้สมัครต้องผ่านการทดสอบร่างกาย ตามเกณฑ์ที่กำหนดในแต่ละปี ซึ่งเกณฑ์การทดสอบคัดเลือกนักศึกษาในปี พ.ศ. 2553 คือ วิ่ง 800 เมตร ใน 3 นาที 15 วินาที, ลุกนั่ง (ซิดอัป) 34 ครั้ง ใน 2 นาที , ดันพื้น (วิดพื้น) 22 ครั้ง ใน 2 นาที
[แก้] หลักสูตรและการเรียนการสอน
หลักสูตรนักศึกษาวิชาทหารแบ่งการเรียนเป็น 5 ชั้นปี มีวัตถุประสงค์ดังนี้
- นศท. ชั้นปีที่ 1 และ 2 ให้มีความรู้วิชาทหารเบื้องต้นในระดับลูกแถว เพื่อให้บังเกิดความมีระเบียบวินัยเสริมสร้างบุคลิกลักษณะทหาร สามารถใช้อาวุธประจำกายและทำการยิงอย่างได้ผล
- นศท. ชั้นปีที่ 3 ให้มีความรู้วิชาทหารในระดับผู้บังคับหมู่เพื่อให้มีความพร้อม ในการควบคุมบังคับบัญชาหน่วยในการปฏิบัติการรบในแบบ และการรบนอกแบบ
- นศท. ชั้นปีที่ 4 ให้มีความรู้วิชาทหารในระดับรองผู้บังคับหมวดเพื่อให้มีความพร้อม ในการควบคุมบังคับบัญชาหน่วยในการปฏิบัติการรบในแบบ และการรบนอกแบบ ตั้งแต่ระดับชั้นปี 4 ขึ้นไป จะมีการแบ่งนักศึกษาออกเป็นเหล่า 5 เหล่า คือ เหล่าทหารราบ, เหล่าทหารม้า, เหล่าทหารปืนใหญ่ เหล่าทหารสื่อสาร, เหล่าทหารช่าง
- นศท. ชั้นปีที่ 5 ให้มีความรู้วิชาทหารในระดับผู้บังคับหมวดเพื่อให้มีความพร้อม ในการควบคุมบังคับบัญชาหน่วยในการปฏิบัติการรบในแบบ และการรบนอกแบบ การจัดแบ่งนั้น เหมือนกับชั้นปีที่ 4
การเรียนวิชาทหารดังกล่าว สามารถหยุดเรียนไม่เรียนในชั้นปีที่สูงกว่าหลังจบชั้นปีใดๆ ได้ โดยจะได้สิทธิตามที่กำหนดไว้ในระดับชั้นปีนั้นๆ โดยการเรียนการสอนนักศึกษาวิชาทหารแบ่งออกเป็นภาคที่ตั้งและภาคสนาม ในส่วนภาคที่ตั้งทำการเรียน 20 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ครั้งละ 4 ชั่วโมง ที่หน่วยฝึกนักศึกษาวิชาทหารในส่วนกลาง (นรด.) และส่วนภูมิภาค (มทบ. และ จทบ.) สำหรับส่วนภูมิภาคจะทำการฝึกในช่วงปิดภาคเรียนที่ 1 ส่วนการฝึกภาคสนามจะทำการฝึกเฉพาะนักศึกษาวิชาทหารชั้นปีที่ 2 ขึ้นไป โดย
- นักศึกษาวิชาทหารชายชั้นปีที่ 2 ทำการฝึกภาคสนาม ณ ค่ายฝึกตามที่ศูนย์ฝึกนักศึกษาวิชาทหารประจำ จทบ. มทบ. กำหนด ขั้นต่ำ 3 วัน 2 คืน (แล้วแต่งบประมาณที่มีในแต่ละปี)
- นักศึกษาวิชาทหารชายชั้นปีที่ 3 ทำการฝึกภาคสนาม ณ ค่ายฝึกตามที่ศูนย์ฝึกนักศึกษาวิชาทหารประจำ จทบ. มทบ. กำหนด ขั้นต่ำ 5 วัน 4 คืน
- นักศึกษาวิชาทหารชายชั้นปีที่ 4,5 ทำการฝึกภาคสนาม ณ ค่ายฝึกเขาชนไก่ จ.กาญจนบุรี ขั้นต่ำ 7 วัน 6 คืน
- นักศึกษาวิชาทหารหญิงชั้นปีที่ 2,3 ทำการฝึกภาคสนาม ณ ค่ายฝึกตามที่ศูนย์ฝึกนักศึกษาวิชาทหารประจำ จทบ. มทบ. กำหนด ขั้นต่ำ 3 วัน 2 คืน
- นักศึกษาวิชาทหารหญิงชั้นปีที่ 4,5 ทำการฝึกภาคสนาม ณ ค่ายฝึกเขาชนไก่ ขั้นต่ำ 5 วัน 4 คืน
นอกจากกองทัพบกได้เปิดทำการฝึกนักศึกษาวิชาทหารแล้ว ในส่วนของกองทัพเรือและกองทัพอากาศ ก็ได้เปิดการฝึก นักศึกษาวิชาทหารด้วย โดยมีรายละเอียดดังนี้
[แก้] นักศึกษาวิชาทหาร ในส่วนของกองทัพเรือ
นักศึกษาวิชาทหารในส่วนของกองทัพเรือนั้น เป็นนักศึกษาวิชาทหารที่กองทัพเรือร้องขอให้หน่วยบัญชาการรักษาดินแดนช่วยจัดหาให้ โดยแต่ละปีจะรับนึกศึกษาเพียงประมาณ 90 นาย โดยนักศึกษาเหล่านั้น จะต้องมีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ของกองทัพเรือเท่านั้น และจะเปิดรับตั้งแต่ชั้นปีที่ 4 จนถึงปีการศึกษา 2554 หลังจากนั้นจะเป็นการรับ นศท. ชั้นปีที่ 3 (ซึ่งสำเร็จการฝึกในปีการศึกษา 2554) ที่มาจากฝึกในส่วนของกองทัพเรือเข้าศึกษาต่อในชั้นปีที่ 4 แต่เพียงอย่างเดียว
นักศึกษาในส่วนของกองทัพเรือสามารถแบ่งออกได้ 3 เหล่าคือ
- นายทหารพรรคนาวิน สังกัดกองเรือยุทธการ เปิดรับทุกๆปี ปีละประมาณ 45 นาย
- นายทหารพรรคนาวิกโยธิน เปิดรับปีเว้นปี ปีละประมาณ 45 นาย
- นายทหารพรรคนาวิน เหล่าต่อสู้อากาศยาน ป้องกันและรักษาฝั่ง เปิดรับปีเว้นปี ปีละประมาณ 45 นาย
การฝึกภาคสนาม
- นักศึกษาชั้นปีที่ 4 จะเข้ารับการฝึกเป็นเวลา 7 วัน ที่กองการฝึก กองเรือยุทธการ[2]
- นักศึกษาชั้นปีที่ 5 จะแยกฝึกตามสังกัดของตัวเอง โดยใช้เวลาฝึก 17 วัน[2]
- หลักสูตรนายทหารใหม่ของกองทัพเรือ นักศึกษาเข้าเรียนเพื่อปรับความพร้อมขั้นสุดท้าย ก่อนที่จะเข้าประดับยศเป็นว่าที่เรือตรี ณ ศูนย์การฝึกหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน[3]
[แก้] นักศึกษาวิชาทหาร ในส่วนของกองทัพอากาศ
นักศึกษาวิชาทหารในส่วนของกองทัพอากาศนั้น เป็นนักศึกษาวิชาทหารที่กองทัพอากาศต้องการเฉพาะกำลังพลสำรองในส่วนช่างเทคนิค เพื่อชดเชยกำลังหลักในส่วนของช่างเทคนิคที่ขาดแคลน โดยจะคัดเลือกเฉพาะนักศึกษาวิชาทหารที่สถานศึกษามีที่ตั้งใกล้เคียงกับกองบัญชาการกองทัพอากาศกรุงเทพมหานคร และเปิดสอนในด้านช่างเทคนิค ซึ่งได้แก่ วิทยาลัยเทคนิคดอนเมือง วิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี โรงเรียนเซนต์จอห์นโปลิเทคนิค ซึ่งกองทัพอากาศได้เปิดการฝึกนักศึกษาวิชาทหารในปีการศึกษา 2549 โดยเริ่มจากชั้นปีที่ 1 เป็นปีแรก และเปิดเพิ่มชั้นละปีไปจนครบชั้นปีที่ 5 ในปีการศึกษา 2553 ซึ่งถือว่าเป็น นศท. ในส่วนของกองทัพอากาศที่สำเร็จการฝึกปีที่ 5 เป็นปีแรกและเป็นรุ่นที่ 1 ที่ฝึกโดยกองทัพอากาศ
[แก้] สิทธิพิเศษที่ นศท. จะได้รับ
- ผู้ที่สำเร็จการศึกษาวิชาทหารชั้นปีที่ 1 จะได้รับการแต่งตั้งยศเป็น สิบตรีกองประจำการ (Private First Class) และลดหย่อนวันเข้าประจำการทหารเมื่อถึงอายุเกณฑ์ทหาร
- ผู้ที่สำเร็จการศึกษาวิชาทหารชั้นปีที่ 2 จะได้รับการแต่งตั้งยศเป็น สิบโท (Corporal) และลดหย่อนวันเข้าประจำการทหารลงอีก
- ผู้ที่สำเร็จการศึกษาวิชาทหารชั้นปีที่ 3 จะได้รับการแต่งตั้งยศเป็น สิบเอก (Sergeant) และมีสิทธิ์ไม่เข้าประจำการเมื่อถึงอายุเกณฑ์ทหาร
- ผู้ที่สำเร็จการศึกษาวิชาทหารชั้นปีที่ 4 จะได้รับแต่งตั้งยศเทียบเท่า จ่าสิบเอก (Sergeant Major) พันจ่าอากาศเอก หรือ พันจ่าเอก (Chief Petty Officer First Class)
- ผู้ที่สำเร็จการศึกษาวิชาทหารชั้นปีที่ 5 และมีวุฒิการศึกษาไม่ต่ำกว่าระดับปริญญาวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) จะได้รับแต่งตั้งเป็น ว่าที่ร้อยตรี (Acting Second Lieutenant) ว่าที่เรืออากาศตรี (Acting Sub Lieutenant) หรือ ว่าที่เรือตรี (Acting Sub-Ensigned) [4]
[แก้] อ้างอิง
- ^ http://www.ruksadindan.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=4787&view=next
- ^ กองการกำลังพลสำรอง กองทัพเรือ, "การอบรมก่อนการแต่งตั้งยศ"
- ^ สำหรับคำว่า "ว่าที่" นั้น หมายถึงนายทหารสัญญาบัตรที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการลงพระปรมาภิไธยแต่งตั้ง ตามธรรมเนียมของกองทัพไทยจึงยังไม่ถือว่าเป็นนายทหารสัญญาบัตรที่สมบูรณ์
[แก้] ดูเพิ่ม
[แก้] แหล่งข้อมูลอื่น
- หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน
- ศูนย์การกำลังสำรอง หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน
- โรงเรียนรักษาดินแดน ศูนย์การกำลังสำรอง
- โรงเรียนการกำลังสำรอง ศูนย์การกำลังสำรอง
- กองการกำลังพลสำรอง กองทัพเรือ
|