ทีโอที
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) (TOT Public Company Limited) เป็นรัฐวิสาหกิจประเภทสื่อสารโทรคมนาคม และถือว่าเป็นกิจการโทรศัพท์แห่งชาติของไทย ดำเนินกิจการเกี่ยวกับโทรศัพท์และการสื่อสาร แปรรูปมาจากองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย ซึ่งก่อตั้งในปี พ.ศ. 2497 ปัจจุบันยังคงมีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจในสังกัดของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยมีกระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นร้อยละ 100
ทำหน้าที่ให้บริการสื่อสารโทรคมนาคมทุกประเภททั้งในและระหว่างประเทศ ผ่านบริการต่างๆ ทั้งทางสายโทรศัพท์ อินเทอร์เน็ต โทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งประกอบด้วยใบอนุญาตแบบที่ 3 (ที่มีโครงข่ายของตนเองเพื่อให้เช่าใช้) เดิมเป็นองค์กรที่ทั้งควบคุมการให้บริการโทรคมนาคม และเป็นผู้ให้บริการ แต่ในปัจจุบัน หน้าที่กำกับดูแลได้ถูกโอนไปยัง คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.)
เนื้อหา |
[แก้] ประวัติ
[แก้] องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย
เดิมเป็นหน่วยงานหนึ่งของกรมไปรษณีย์โทรเลข ใช้ชื่อว่ากองช่างโทรศัพท์ โดยได้เปลี่ยนมาเป็น องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย (ท.ศ.ท.) (Telephone Organization of Thailand) เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2497 ในช่วงแรกรับผิดชอบเฉพาะการวางชุมสายโทรศัพท์ในเขตนครหลวง แต่ในภายหลังได้ดูแลกิจการโทรศัพท์ของทั้งประเทศ โดยโอนความรับผิดชอบมาจากกรมไปรษณีย์โทรเลข
[แก้] บริษัท ทศท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
วันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2545 องค์การโทรศัพท์ในประเทศไทย ได้แปรรูปแต่ยังคงสถานะรัฐวิสาหกิจในรูปแบบ บริษัทมหาชนจำกัด ใช้ชื่อว่า บริษัท ทศท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (TOT Corporation Public Company Limited) เมื่อมีการปรับปรุงโครงสร้างราชการ บมจ. ทศท คอร์ปอเรชั่น ได้ย้ายมาสังกัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
[แก้] บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน)
ชื่อบริษัท ทศท ได้เปลี่ยนแปลงอีกครั้ง โดยจดทะเบียนเป็นบริษัท จำกัด มหาชน ใช้ชื่อว่า บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) (TOT Public Company Limited) เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2548 นัยว่าเพื่อให้เป็นชื่อที่ตรงกันทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ พร้อมเปลี่ยนตราสัญญลักษณ์เหลือเพียงเครื่องหมาย ทีโอที
[แก้] เกม เทลส์รันเนอร์
เกม เทลส์รันเนอร์ ในเครือทีโอที
[แก้] เกม We Dancing Online
เกม We Dancing Online ในเครือทีโอที
[แก้] เกม H.A.V.E. Online
เกม H.A.V.E. Online ในเครือทีโอที
[แก้] บริษัทคู่ค้าและคู่กรณี
- บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ชื่อเดิม เทเลคอมเอเชีย (ทีเอ)
- รับสัมปทานการให้บริการโทรศัพท์ประจำที่ในเขตนครหลวง แต่เป็นบริษัทที่จะฟ้องร้องคดีความต่าง ๆ กับทีโอที มีมูลค่ามากที่สุดถึง 23,065 ล้านบาท [ต้องการอ้างอิง] โดยคดีความที่มีปัญหามากที่สุดคือ ทรูตีความว่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นบริการเสริมของโทรศัพท์ประจำที่ ซึ่งแตกต่างจากการตีความของสหพันธ์โทรคมนาคมนานาชาติ (International Telecommunications Union) ซึ่งเป็นหน่วยงานสากลเช่นเดียวกับสหประชาชาติ [ต้องการอ้างอิง]
- บริษัท ทีทีแอนด์ที จำกัด (มหาชน) ชื่อเดิม ไทยเทเลโฟน แอนด์ เทเลคอมมูนิเกชั่น (ทีทีแอนด์ที)
- รับสัมปทานการให้บริการโทรศัพท์ประจำที่ในเขตภูมิภาค แต่เป็นบริษัทที่จะฟ้องร้องคดีความต่าง ๆ กับทีโอทีเช่นเดียวกัน มีมูลค่า 28,753 ล้านบาท [ต้องการอ้างอิง] ทีทีแอนด์ที ได้ละเมิดทรัพย์สินของทีโอที ให้บริษัทลูก (ทริปเปิ้ลทรี บรอดแบนด์) ไปให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงโดยไม่ได้รับอนุญาต [ต้องการอ้างอิง]
- บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส
- รับสัมปทานการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ในระบบ GSM 900 และ GSM 1800 จนถึงปัจจุบันเป็นบริษัทที่มีความร่วมมือกันในการให้บริการต่าง ๆ ด้วยดีตลอดมา นับเป็นบริษัทมีความสัมพันธ์อันดีกับทีโอที
[แก้] กิจการร่วมค้า ไทย-โมบาย
จากนโยบายของรัฐบาลในสมัยนั้นที่ต้องการให้ หน่วยงานของรัฐให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แข่งกับเอกชนเพื่อลดราคา จึงได้ให้รัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงคมนาคม (ในขณะนั้น) โดย ทีโอที กสท และ บจก. วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จัดตั้งบริษัท เอซีที โมบาย จำกัด ชื่อบริษัทมาจากอักษรตัวแรกของทั้ง 3 หน่วยงาน ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ใน ระบบ GSM1900 ภายใต้ชื่อ THAImobile ต่อมา บจก. วิทยุการบินแห่งประเทศไทย ได้ถอนหุ้นไปในปัจจุบัน คงเหลือเพียง ทีโอที : กสท ที่ยังคงดำรงหุ้นในอัตราส่วน 58: 42 ต่อมาในวันที่ 30 กันยายน พ.ศ.2551 ทีโอที ได้ทำการซื้อหุ้นในส่วนของ กสท. เพื่อมาบริหารทั้งหมด พร้อมทั้งได้สิทธิ์การให้บริการ 3G และสิทธิ์การใช้คลื่นความถี่วิทยุ 1900 MHz แต่เพียงผู้เดียว เพื่อเตรียมนำไปให้บริการ 3G
[แก้] ดูเพิ่ม
[แก้] อ้างอิง
[แก้] แหล่งข้อมูลอื่น
|