สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส. เป็นตัวแทนของประชาชน ที่เข้าไปทำหน้าที่ ออกกฎหมาย และตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ร่วมกับสมาชิกวุฒิสภา
ตามรัฐธรรมนูญของประเทศไทยปัจจุบัน กำหนดให้สภาผู้แทนราษฎรของไทย มีส.ส.จำนวนทั้งสิ้น 480 คน
ส.ส. บางส่วนอาจต้องไปทำหน้าที่รัฐมนตรี กรณีนี้สมาชิกภาพของส.ส.ผู้นั้นก็จะหมดไป ทำให้ตำแหน่งส.ส.ในสภาว่างลง ในกรณีที่เป็น ส.ส. ระบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ก็ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งซ่อม หรือหากเป็น ส.ส. ระบบบัญชีรายชื่อ ก็ให้เลื่อนลำดับถัดไปในบัญชีรายชื่อพรรคขึ้นมาเป็นส.ส.แทน เพื่อให้จำนวนส.ส.ทั้งหมดครบ 480 คน
เนื้อหา |
[แก้] อำนาจ
- อำนาจนิติบัญญัติ
- อำนาจบริหาร (บางโอกาส เพราะผู้มีอำนาจบริหารอย่างแท้จริงคือ นายกรัฐมนตรีและ ค.ร.ม)
[แก้] หน้าที่
- ออกกฎหมาย
- ควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน
- เลือกตั้งและถอดถอนนายกรัฐมนตรี
- ถอดถอนรัฐมนตรี
[แก้] การเลือกเข้าไปทำงาน
- พรรคการเมืองลงสมัคร รับหมายเลขพรรค
- พรรคการเมืองจัด ส.ส. ลงแข่งขันในระบบเขต 400 เขต (แบ่งตามจำนวนประชากร) และแบบสัดส่วนไม่เกิน 80 คน (เดิมเป็นแบบบัญชีรายชื่อ ไม่เกิน 100 คน)
- คณะกรรมการการเลือกตั้ง คัด กลั่นกรองผู้สมัครถึงสิทธิ์การเป็น ส.ส.
- ประกาศการเลือกตั้งทั่วไปทั่วประเทศ
- ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งกา (X) บัตรสองใบ ใบละหมายเลข แล้วหย่อนในหีบบัตร
- ปิดหีบ นับคะแนน ผู้ชนะแบบแบ่งเขตแต่ละเขตเข้าสภา รวม 400 คน
- นับคะแนนบัญชีรายชื่อทั่วประเทศ คิดเป็นร้อยละ เช่น พรรค ก. ได้ 519,000 เสียง และ พรรค ข ได้ 317,000 พรรค ก. จะได้คนที่ส่งชื่อ 51 คนเรียงตามลำดับ และถ้าเศษของ % ของพรรคไหนมากที่สุดพรรคนั้นก็ได้ไป และพรรค ข จะได้เพียง 31 คนเท่านั้นเพราะเศษไม่ถึง
- ประกาศผลการเลือกตั้ง
- พรรคที่มี ส.ส. มากที่สุดได้เป็นรัฐบาล เลือกพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อเพิ่มอำนาจในสภา โดยหากฝ่ายค้านมีไม่ถึง 125 คนจะตั้งกระทู้ถามได้ยาก
- ส.ส. ใหม่เข้ารายงานตัว และเข้านั่งเป็นส.ส. ในสภา ดำรงตำแหน่งไปสี่ปีหรือจนกว่าจะประกาศยุบสภา
[แก้] ข้อมูลอื่นๆ
คุณสมบัติผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ม.106)
- มีสัญชาติไทยโดยการเกิด
- มีอายุไม่ต่ำกว่า 25 ปีบริบูรณ์ในวันเลือกตั้ง
- สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า เว้นแต่เคยเป็น ส.ส. หรือ ส.ว.
- เป็นสมาชิกพรรคการเมืองพรรคหนึ่งพรรคใดแต่เพียงพรรคเดียว นับถึงวันสมัครเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 90 วัน
- ผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขตรับเลือกตั้ง ต้องมีลักษณะหนึ่งลักษณะใด ดังต่อไปนี้
- มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในจังหวัดที่สมัครรับเลือกตั้งเป้นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 1 ปี นับถึงวันสมัคร
- เคยเป็น ส.ส. ของจังหวัดที่สมัครรับเลือกตั้ง หรือเคยเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นในจังหวัดนั้น
- เป็นบุคคลที่เกิดในจังหวัดนั้น
- เคยศึกษาในสถานศึกษาที่ตั้งอยู่ในจังหวัดที่สมัคร เป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 2 ปีการศึกษา
- เคยรับราชการหรือเคยมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในจังหวัดที่สมัคร เป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 2 ปี
ลักษณะต้องห้าม (ม.109)
- ติดยาเสพติดให้โทษ
- เป็นบุคคลล้มละลายซึ่งศาลยังไม่สั่งให้พ้นคดี
- เป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส. ตาม ม.106 คือ วิกลจริต หรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ เป็นภิกษุ สามเณร นักพรต นักบวช
- หรืออยู่ในระหว่างเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง
- ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล
- เคยต้องคำพิพากษาให้จำคุก ตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไปโดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึง 5 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง เว้นแต่ความผิดอันได้ทำโดยประมาท
- เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ เพราะทุจริตต่อหน้าที่ หรือถือว่ากระทำการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ
- เคยต้องคำพิพากษา หรือคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะร่ำรวยผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ
- เป็นข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำนอกจากข้าราชการการเมือง
- เป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น
- เป็นสมาชิกวุฒิสภา
- เป็นพนักงานหรือลูกจ้างหน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือของราชการส่วนท้องถิ่น
- เป็นกรรมการการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการศาลปกครอง กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน
- อยู่ในระหว่างต้องห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
- เคยถูกวุฒิสภามีมติให้ถอดถอนออกจากตำแหน่งและยังไม่พ้นกำหนด 5 ปี นับแต่วันที่วุฒิสภามีมติจนถึงวันเลือกตั้ง