สมเด็จพระจักรพรรดินีโคจุน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

17-large1.jpg
สมเด็จพระจักรพรรดินีโคจุน
พระบรมนามาภิไธย เจ้าหญิงคุนิ นะงะโกะ
พระปรมาภิไธย สมเด็จพระจักรพรรดินีโคจุน
พระอิสริยยศ สมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งญี่ปุ่น
พระจักรพรรดินี พระพันปีหลวง
ราชวงศ์ ราชวงศ์ญี่ปุ่น
ระยะครองราชย์ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2469 - 7 มกราคม พ.ศ. 2532 (63 ปี)
รัชกาลก่อนหน้า สมเด็จพระจักรพรรดินีเทเม
รัชกาลถัดไป สมเด็จพระจักรพรรดินีมิจิโกะ

สมเด็จพระจักรพรรดินีโคจุน (ญี่ปุ่น: 香淳皇后 kōjun kōgō โคจุนโคโง ?) (6 มีนาคม 2446 - 16 มิถุนายน 2543) พระนามเดิม เจ้าหญิงนะงะโกะ คุนิ (ญี่ปุ่น: 良子女王 นะงะโกะ โจ ?) ทรงเป็นพระมเหสีในสมเด็จพระจักรพรรดิโชวะ (ฮิโรฮิโตะ) และพระราชมารดาในสมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ จักรพรรดิพระองค์ปัจจุบันของญี่ปุ่น สมเด็จพระจักรพรรดินีทรงดำรงพระอิศริยยศเป็นจักรพรรดินีแห่งญี่ปุ่นนานที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น[1] ทรงเริ่มดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2469 จนถึงวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2532 ระยะเวลารวม 63 ปีเต็ม

พระจักรพรรดินีโคจุนทรงเป็นจักรพรรดินีพระองค์แรกของญี่ปุ่นที่ไม่ได้มาจากตระกูลฟุจิวะระ โดยทั้งสมเด็จพระจักรพรรดินีโชเคน และสมเด็จพระจักรพรรดินีเทเม ล้วนมาจากตระกูลฟุจิวะระทั้งสิ้น เมื่อสมเด็จพระจักรพรรดินีนะงะโกะ พระพันปีหลวงเสด็จสวรรคต พระนางจึงได้รับการสถาปนาเป็น สมเด็จพระจักรพรรดินีโคจุน ซึ่งมีความหมายว่า ความบริสุทธิ์หอมหวาน[2]

เนื้อหา

[แก้] ขณะทรงพระเยาว์

ขณะยังทรงพระเยาว์
จักรพรรดินีนางาโกะ

เจ้าหญิงคุนิ นะงะโกะ ประสูติ ณ กรุงโตเกียวเมื่อวันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2446 ทรงเป็นพระธิดาคนที่ 3 จาก 6 พระองค์ ในเจ้าชายคุนิ คุนิโยชิ (久邇宮邦彦王) กับ เจ้าหญิงชิกะโกะ ชิมะสึ (พระธิดาพระองค์ที่ 7 ในเจ้าชายชิมะสึ ทะดะโยชิ อดีตเจ้าผู้ครองแคว้นซัตสึมะ) พระองค์มีพระเชษฐา 2 พระองค์ พระขนิษฐา 2 พระองค์ และพระอนุชา 1 พระองค์ โดยในช่วงที่พระนางประสูติ เป็นช่วงที่วัฒนธรรมจากตะวันตกไหลบ่าเข้ามาในญี่ปุ่น เจ้าชายคุนิ คุนิโยชิ พระบิดา ยังทรงเลี้ยงดูเจ้าหญิงนะงะโกะตามจารีตดั้งเดิมมาโดยตลอด โดยพระบิดาของเจ้าหญิงนะงะโกะ สืบเชื้อสายมาจากคุนิ ซึ่งไม่ได้มาจากตระกูลฟุจิวะระ (มีตระกูลย่อย ได้แก่ ตระกูลโคโนะเอะ, อิชิโจ, นิโจ, คะซะสึคะซะ และคุโจ) ส่วนพระมารดาสืบเชื้อสายมาจากไดเมียว ทำให้เจ้าหญิงนะงะโกะ เป็นพระจักรพรรดินีพระองค์แรก ที่ไม่ได้มาจากตระกูลฟุจิวะระ[3]

หลังจากที่เจ้าหญิงนะงะโกะสำเร็จในระดับประถมศึกษา เจ้าหญิงทรงเข้าศึกษาต่อในโรงเรียนกะคุชูอิน (学習院) ซึ่งเป็นโรงเรียนของสตรีชั้นสูงของญี่ปุ่นในระดับนั้น มีสูงสุดถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยเจ้าหญิงนะงะโกะได้เข้ารับการศึกษาร่วมกับเจ้าหญิงมะซะโกะ นะชิโมะโตะ ซึ่งเป็นพระญาติ (ต่อมาเจ้าหญิงมะซะโกะ นะชิโมะโตะ ได้รับการสถาปนาเป็น เจ้าหญิงบังจา มกุฎราชกุมารีแห่งเกาหลี)

ระหว่างที่เจ้าหญิงนะงะโกะทรงศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มกุฎราชมารฮิโระฮิโตะ ได้เสด็จประทับรถม้ามายังโรงเรียนกะคุชูอิน เพื่อหาสตรีชั้นสูงที่มาจากราชสกุลเป็นพระวรกัญญาปทาน (พระคู่หมั้น) ซึ่งในเวลานั้นเจ้าหญิงนะงะโกะ ถือเป็นสตรีที่ถือว่ามีพระสิริโฉมพระองค์หนึ่ง แม้พระองค์จะสวมฉลองพระองค์เป็นกิโนโม และกระโปรงฮากามะ ซึ่งเป็นกระโปรงจับจีบแบบญี่ปุ่น รวบพระเกศาด้วยริบบิ้นสีขาว และถุงพระบาทสีดำ เมื่อมกุฎราชกุมารฮิโระฮิโตะทอดพระเนตรเห็น และให้ความสนพระทัยเจ้าหญิงนะงะโกะ[1] พระองค์ก็ตัดสินพระทัยที่จะเลือกมาเป็นพระคู่หมั้น[4] ซึ่งก่อนหน้านี้มกุฎราชกุมารฮิโระฮิโตะเคยรู้จักคุ้นเคยกับเจ้าหญิงนะงะโกะมาก่อนในสมัยอนุบาล ในสมัยประถมทั้งสองพระองค์ก็เคยเสวยพระกระยาหารกลางวันด้วยกัน แม้ในสมัยมัธยมโรงเรียนกะคุชูอินจะแยกเป็นฝ่ายชาย และฝ่ายหญิงก็ตาม

[แก้] ทรงหมั้น

พิธีหมั้นได้จัดขึ้นในเดือนมกราคม ค.ศ. 1919 เมื่อเจ้าหญิงนะงะโกะมีพระชนมายุ 14 พรรษา และศึกษาอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หลังจากนั้นเจ้าหญิงนะงะโกะต้องพักการเรียน เพื่อเข้ารับการศึกษา และรับการอบรมในการเตรียมสำหรับการอบรมที่มี ได้แก่ เรื่องกิริยามารยาท การวางพระองค์ในตำแหน่งสมเด็จพระจักรพรรดินี รวมไปถึงการจัดการดูแลภายในพระราชวัง และเรียนรู้ศิลปะต่างๆ เช่น การเล่นโกโตะ ทรงเปียโน การเต้นรำ เล่นเทนนิส และการใช้ดาบญี่ปุ่น หรือนางินาตะ สำหรับด้านวิชาการก็มีในด้านภาษา เช่น ภาษาญี่ปุ่น ภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส คณิตศาสตร์ และวิชาการทหาร

ในระหว่างการอบรม ได้มีการตรวจพบว่า พระเชษฐาของพระองค์เป็นตาบอดสี ทำให้เกิดเสียงคัดค้านในหมู่พระราชวงศ์ และชนชั้นสูง ถึงกับมีการกราบทูลให้สมเด็จพระจักรพรรดิไทโช พระราชบิดาในมกุฎราชกุมารให้เปลี่ยนตัวพระคู่หมั้นเสียใหม่ ทำให้เจ้าหญิงนะงะโกะต้องได้รับการอบรมยาวนานเพิ่มอีกถึง 4 ปี ขณะที่พระองค์อื่นๆ อบรมเพียง 2 ปีเท่านั้น แต่สมเด็จพระจักรพรรดิไทโชหาได้ทรงเชื่อในคำกราบทูลเหล่านั้น รวมไปถึงสมเด็จพระจักรพรรดินีเทเม พระราชมารดาในมกุฎราชกุมาร ซึ่งมีความโปรดปรานในตัวของเจ้าหญิงนะงะโกะมาก ก็แสดงพระองค์ปกป้องพระคู่หมั้นของพระโอรสอย่างแข็งขัน จนเสียงคัดค้านจึงหมดสิ้นไป แต่อย่างไรก็ตามเจ้าหญิงนะงะโกะต้องใช้เวลาถึง 6 ปี สำหรับการเตรียมตัวเป็นสมเด็จพระจักรพรรดินี[1]

[แก้] อภิเษกสมรส

ในที่สุด สำนักพระราชวังก็ประกาศกฎหมายเรื่องการอภิเษกสมรสระหว่างมกุฎราชกุมารฮิโระฮิโตะ กับเจ้าหญิงนะงะโกะ ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 27 พฤศจิกายน ค.ศ. 1923 นับจากวันที่มีประกาศจากสำนักพระราชวังซึ่งมีขึ้นตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1921 และผ่านมาด้วยความเรียบร้อยมากว่าสองปี โดยเหลือเวลาเพียงสองเดือนก็จะถึงวันอภิเษกสมรส ขณะนั้นได้เกิดแผ่นดินไหวในแถบคันโต สร้างความเสียหายแก่ประชาชนชาวญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก ทำให้ประชาชนไร้ที่อยู่อาศัยหลายล้านคน เพื่อเป็นการไว้อาลัยในเหตุการณ์ครั้งนี้ สำนักพระราชวังจึงได้เลื่อนกำหนดการอภิเษกสมรส เป็นวันที่ 26 มกราคม ค.ศ. 1924 หรืออีกประมาณหนึ่งเดือนเศษ ซึงการอภิเษกสมรสเป็นไปได้อย่างราบรื่น และมกุฎราชกุมารฮิโระฮิโตะได้ประกาศยกเลิกระบบนางห้ามที่อนุญาตให้ชนชั้นสูงมีพระสนมได้หลายคน โดยมกุฎราชกุมารได้ปลดปล่อยพระสนม 39 พระองค์ โดยที่จะมีพระมเหสีเพียงพระองค์เดียว และเจ้าหญิงนะงะโกะ ได้รับการสถาปนาเป็น มกุฎราชกุมารีนะงะโกะ[2]

[แก้] พระราชโอรส-ธิดา

สมเด็จพระจักรพรรดินีนะงะโกะ และเจ้าชายอะกิฮิโตะ พระราชโอรสพระองค์แรกของพระองค์

สมเด็จพระจักรพรรดินีนะงะโกะ ได้ทรงให้การประสูติกาลเจ้าหญิงหลายพระองค์ตลอดเวลากว่า 10 ปี ในการครองคู่กับสมเด็จพระจักรพรรดิโชวะ ทำให้เกิดเสียงซุบซิบนินทาเกี่ยวกับการสืบทอดราชบัลลังก์ จนในปี พ.ศ. 2476 สมเด็จพระจักรพรรดินีนะงะโกะได้ให้พระประสูติกาลพระโอรสพระองค์แรกคือมกุฎราชกุมารอะกิฮิโตะ[1]

[แก้] สมเด็จพระจักรพรรดินี

สมเด็จพระจักรพรรดิโชวะ และสมเด็จพระจักรพรรดินีนะงะโกะ ขณะเสด็จประพาสสหรัฐอเมริกาหลังสงครามโลกครั้งที่ 2

สมเด็จพระจักรพรรดินีทรงเป็นพระจักรพรรดินีแห่งประเทศญี่ปุ่นพระองค์แรกที่เสด็จเยือนต่างประเทศ โดยได้เสด็จเยือนทวีปยุโรปเมื่อปี พ.ศ. 2514 เสด็จเยือนสหรัฐอเมริกาเมื่อปี พ.ศ. 2518

หลังจากสมเด็จพระจักรพรรดิโชวะเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2532 พระองค์ทรงดำรงพระอิสริยยศเป็น สมเด็จพระราชชนนี พระพันปีหลวง[2] ในงานพระราชพิธีพระบรมศพของพระราชสวามี สมเด็จพระจักรพรรดินีก็มิได้ทรงเสด็จไป เนื่องด้วยพระสุขภาพที่ไม่เอื้ออำนวย และหลังจากการปรากฏพระองค์ครั้งสุดของสมเด็จพระจักรพรรดินีเมื่อปี พ.ศ. 2531 พระองค์ก็มิได้เสด็จปรากฏพระองค์ที่ไหนอีกเลย ขณะที่พระองค์ก็ดำรงพระยศพระพันปีหลวงได้ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ ทำลายสถิติของสมเด็จพระจักรรดินีคันชิซึ่งสิ้นพระชนม์เมื่อ 873 ปีที่แล้ว[1]

สมเด็จพระจักรพรรดินีนะงะโกะ พระพันปีหลวง เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2543 สิริพระชนมายุได้ 97 พรรษา หลังจากพระราชพิธีพระบรมศพ สมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะได้ทรงอันเชิญพระศพไปที่ สวนฮะจิโอจิ กรุงโตเกียวเคียงข้างพระราชสวามีของพระองค์

หลังจากการสวรรคตของสมเด็จพระพันปีหลวง สมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะได้สถาปนาพระนามสมเด็จพระจักรพรรดินีนะงะโกะ พระพันปีหลวง ขึ้นเป็น สมเด็จพระจักรพรรดินีโคจุน โดยพระศพถูกเก็บไว้ที่สุสสานหลวงมุซะชิโนะ โนะ ฮิงะชิ โนะ มิซะซะงิ ใกล้สุสานหลวงมุซาชิโนะของพระราชสวามี[2]

[แก้] พระอิสริยยศ

  • พ.ศ. 2446 - พ.ศ. 2469 เจ้าหญิงนะงะโกะ คุนิ (久邇宮良子女王)
  • พ.ศ. 2467 - พ.ศ. 2469 เจ้าฟ้าหญิงนะงะโกะ มกุฎราชกุมารีแห่งญี่ปุ่น
  • พ.ศ. 2469 - พ.ศ. 2532 สมเด็จพระจักรพรรดินีนะงะโกะแห่งญี่ปุ่น (美智子皇后)
  • พ.ศ. 2532 - พ.ศ. 2543 สมเด็จพระจักรพรรดินีนะงะโกะ พระพันปีหลวง (皇太后)
  • พ.ศ. 2543 สมเด็จพระจักรพรรดินีโคจุน (香淳皇后) (หลังสวรรคต)

[แก้] ราชตระกูล

 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
เจ้าชายคุนิ ฟุชิมิ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
เจ้าชายคุนิ อะซาฮิโกะ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
เจ้าชายคุนิ คุนิโยชิ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
มะกิโกะ อิซุมิ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
สมเด็จพระจักรพรรดินีโคจุน
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ชิมะสึ โนะริโอะกิ
ไดเมียวคนที่ 27 แห่งแคว้นซัตสึมะ
 
 
 
 
 
 
 
ชิมะสึ ฮิซะมิตสึ
ไดเมียวคนที่ 28 แห่งแคว้นซัตสึมะ, โอซุมิ และเฮียวงะ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
พระสนมยูระ
 
 
 
 
 
 
 
ชิมะสึ ทะดะโยชิ
ไดเมียวคนที่ 29 แห่งแคว้นซัตสึมะ, โอซุมิ และเฮียวงะ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
เจ้าหญิงชิมะสึ ชิกะโกะ แห่งแคว้นซัตสึมะ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ซุมะโกะ ฮิโระ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

[แก้] อ้างอิง

[แก้] ดูเพิ่ม

[แก้] แหล่งข้อมูลอื่น

Commons
สมัยก่อนหน้า สมเด็จพระจักรพรรดินีโคจุน สมัยถัดไป
สมเด็จพระจักรพรรดินีเทเม 2leftarrow.png จักรพรรดินีแห่งญี่ปุ่น (ยุคใหม่)
(พ.ศ. 2469 - พ.ศ. 2532)
2rightarrow.png สมเด็จพระจักรพรรดินีมิจิโกะ