สมเด็จพระจักรพรรดินีโคจุน
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
พระบรมนามาภิไธย | เจ้าหญิงคุนิ นะงะโกะ |
พระปรมาภิไธย | สมเด็จพระจักรพรรดินีโคจุน |
พระอิสริยยศ | สมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งญี่ปุ่น พระจักรพรรดินี พระพันปีหลวง |
ราชวงศ์ | ราชวงศ์ญี่ปุ่น |
ระยะครองราชย์ | 25 ธันวาคม พ.ศ. 2469 - 7 มกราคม พ.ศ. 2532 (63 ปี) |
รัชกาลก่อนหน้า | สมเด็จพระจักรพรรดินีเทเม |
รัชกาลถัดไป | สมเด็จพระจักรพรรดินีมิจิโกะ |
พระราชสมภพ | 6 มีนาคม พ.ศ. 2446 กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น |
สวรรคต | 16 มิถุนายน พ.ศ. 2543 กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น (พระชนมายุ 97 พรรษา) |
พระราชบิดา | เจ้าชายคุนิ คุนิโยชิ |
พระราชมารดา | เจ้าหญิงชิกะโกะ ชิมะสึ |
พระราชสวามี | สมเด็จพระจักรพรรดิโชวะ |
พระราชโอรส/ธิดา | ชิเงโกะ ฮิงะชิคุนิ เจ้าหญิงซะชิโกะ คะซุโกะ ทะคะสึคะซะ อัตสึโกะ อิเกะดะ สมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ เจ้าฟ้าชายมะซะฮิโตะ ฮิตะชิ ทะคะโกะ ชิมะสึ |
สมเด็จพระจักรพรรดินีโคจุน (ญี่ปุ่น: 香淳皇后 kōjun kōgō โคจุนโคโง ?) (6 มีนาคม 2446 - 16 มิถุนายน 2543) พระนามเดิม เจ้าหญิงนะงะโกะ คุนิ (ญี่ปุ่น: 良子女王 นะงะโกะ โจ ?) ทรงเป็นพระมเหสีในสมเด็จพระจักรพรรดิโชวะ (ฮิโรฮิโตะ) และพระราชมารดาในสมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ จักรพรรดิพระองค์ปัจจุบันของญี่ปุ่น สมเด็จพระจักรพรรดินีทรงดำรงพระอิศริยยศเป็นจักรพรรดินีแห่งญี่ปุ่นนานที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น[1] ทรงเริ่มดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2469 จนถึงวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2532 ระยะเวลารวม 63 ปีเต็ม
พระจักรพรรดินีโคจุนทรงเป็นจักรพรรดินีพระองค์แรกของญี่ปุ่นที่ไม่ได้มาจากตระกูลฟุจิวะระ โดยทั้งสมเด็จพระจักรพรรดินีโชเคน และสมเด็จพระจักรพรรดินีเทเม ล้วนมาจากตระกูลฟุจิวะระทั้งสิ้น เมื่อสมเด็จพระจักรพรรดินีนะงะโกะ พระพันปีหลวงเสด็จสวรรคต พระนางจึงได้รับการสถาปนาเป็น สมเด็จพระจักรพรรดินีโคจุน ซึ่งมีความหมายว่า ความบริสุทธิ์หอมหวาน[2]
เนื้อหา |
[แก้] ขณะทรงพระเยาว์
เจ้าหญิงคุนิ นะงะโกะ ประสูติ ณ กรุงโตเกียวเมื่อวันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2446 ทรงเป็นพระธิดาคนที่ 3 จาก 6 พระองค์ ในเจ้าชายคุนิ คุนิโยชิ (久邇宮邦彦王) กับ เจ้าหญิงชิกะโกะ ชิมะสึ (พระธิดาพระองค์ที่ 7 ในเจ้าชายชิมะสึ ทะดะโยชิ อดีตเจ้าผู้ครองแคว้นซัตสึมะ) พระองค์มีพระเชษฐา 2 พระองค์ พระขนิษฐา 2 พระองค์ และพระอนุชา 1 พระองค์ โดยในช่วงที่พระนางประสูติ เป็นช่วงที่วัฒนธรรมจากตะวันตกไหลบ่าเข้ามาในญี่ปุ่น เจ้าชายคุนิ คุนิโยชิ พระบิดา ยังทรงเลี้ยงดูเจ้าหญิงนะงะโกะตามจารีตดั้งเดิมมาโดยตลอด โดยพระบิดาของเจ้าหญิงนะงะโกะ สืบเชื้อสายมาจากคุนิ ซึ่งไม่ได้มาจากตระกูลฟุจิวะระ (มีตระกูลย่อย ได้แก่ ตระกูลโคโนะเอะ, อิชิโจ, นิโจ, คะซะสึคะซะ และคุโจ) ส่วนพระมารดาสืบเชื้อสายมาจากไดเมียว ทำให้เจ้าหญิงนะงะโกะ เป็นพระจักรพรรดินีพระองค์แรก ที่ไม่ได้มาจากตระกูลฟุจิวะระ[3]
หลังจากที่เจ้าหญิงนะงะโกะสำเร็จในระดับประถมศึกษา เจ้าหญิงทรงเข้าศึกษาต่อในโรงเรียนกะคุชูอิน (学習院) ซึ่งเป็นโรงเรียนของสตรีชั้นสูงของญี่ปุ่นในระดับนั้น มีสูงสุดถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยเจ้าหญิงนะงะโกะได้เข้ารับการศึกษาร่วมกับเจ้าหญิงมะซะโกะ นะชิโมะโตะ ซึ่งเป็นพระญาติ (ต่อมาเจ้าหญิงมะซะโกะ นะชิโมะโตะ ได้รับการสถาปนาเป็น เจ้าหญิงบังจา มกุฎราชกุมารีแห่งเกาหลี)
ระหว่างที่เจ้าหญิงนะงะโกะทรงศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มกุฎราชมารฮิโระฮิโตะ ได้เสด็จประทับรถม้ามายังโรงเรียนกะคุชูอิน เพื่อหาสตรีชั้นสูงที่มาจากราชสกุลเป็นพระวรกัญญาปทาน (พระคู่หมั้น) ซึ่งในเวลานั้นเจ้าหญิงนะงะโกะ ถือเป็นสตรีที่ถือว่ามีพระสิริโฉมพระองค์หนึ่ง แม้พระองค์จะสวมฉลองพระองค์เป็นกิโนโม และกระโปรงฮากามะ ซึ่งเป็นกระโปรงจับจีบแบบญี่ปุ่น รวบพระเกศาด้วยริบบิ้นสีขาว และถุงพระบาทสีดำ เมื่อมกุฎราชกุมารฮิโระฮิโตะทอดพระเนตรเห็น และให้ความสนพระทัยเจ้าหญิงนะงะโกะ[1] พระองค์ก็ตัดสินพระทัยที่จะเลือกมาเป็นพระคู่หมั้น[4] ซึ่งก่อนหน้านี้มกุฎราชกุมารฮิโระฮิโตะเคยรู้จักคุ้นเคยกับเจ้าหญิงนะงะโกะมาก่อนในสมัยอนุบาล ในสมัยประถมทั้งสองพระองค์ก็เคยเสวยพระกระยาหารกลางวันด้วยกัน แม้ในสมัยมัธยมโรงเรียนกะคุชูอินจะแยกเป็นฝ่ายชาย และฝ่ายหญิงก็ตาม
[แก้] ทรงหมั้น
พิธีหมั้นได้จัดขึ้นในเดือนมกราคม ค.ศ. 1919 เมื่อเจ้าหญิงนะงะโกะมีพระชนมายุ 14 พรรษา และศึกษาอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หลังจากนั้นเจ้าหญิงนะงะโกะต้องพักการเรียน เพื่อเข้ารับการศึกษา และรับการอบรมในการเตรียมสำหรับการอบรมที่มี ได้แก่ เรื่องกิริยามารยาท การวางพระองค์ในตำแหน่งสมเด็จพระจักรพรรดินี รวมไปถึงการจัดการดูแลภายในพระราชวัง และเรียนรู้ศิลปะต่างๆ เช่น การเล่นโกโตะ ทรงเปียโน การเต้นรำ เล่นเทนนิส และการใช้ดาบญี่ปุ่น หรือนางินาตะ สำหรับด้านวิชาการก็มีในด้านภาษา เช่น ภาษาญี่ปุ่น ภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส คณิตศาสตร์ และวิชาการทหาร
ในระหว่างการอบรม ได้มีการตรวจพบว่า พระเชษฐาของพระองค์เป็นตาบอดสี ทำให้เกิดเสียงคัดค้านในหมู่พระราชวงศ์ และชนชั้นสูง ถึงกับมีการกราบทูลให้สมเด็จพระจักรพรรดิไทโช พระราชบิดาในมกุฎราชกุมารให้เปลี่ยนตัวพระคู่หมั้นเสียใหม่ ทำให้เจ้าหญิงนะงะโกะต้องได้รับการอบรมยาวนานเพิ่มอีกถึง 4 ปี ขณะที่พระองค์อื่นๆ อบรมเพียง 2 ปีเท่านั้น แต่สมเด็จพระจักรพรรดิไทโชหาได้ทรงเชื่อในคำกราบทูลเหล่านั้น รวมไปถึงสมเด็จพระจักรพรรดินีเทเม พระราชมารดาในมกุฎราชกุมาร ซึ่งมีความโปรดปรานในตัวของเจ้าหญิงนะงะโกะมาก ก็แสดงพระองค์ปกป้องพระคู่หมั้นของพระโอรสอย่างแข็งขัน จนเสียงคัดค้านจึงหมดสิ้นไป แต่อย่างไรก็ตามเจ้าหญิงนะงะโกะต้องใช้เวลาถึง 6 ปี สำหรับการเตรียมตัวเป็นสมเด็จพระจักรพรรดินี[1]
[แก้] อภิเษกสมรส
ในที่สุด สำนักพระราชวังก็ประกาศกฎหมายเรื่องการอภิเษกสมรสระหว่างมกุฎราชกุมารฮิโระฮิโตะ กับเจ้าหญิงนะงะโกะ ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 27 พฤศจิกายน ค.ศ. 1923 นับจากวันที่มีประกาศจากสำนักพระราชวังซึ่งมีขึ้นตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1921 และผ่านมาด้วยความเรียบร้อยมากว่าสองปี โดยเหลือเวลาเพียงสองเดือนก็จะถึงวันอภิเษกสมรส ขณะนั้นได้เกิดแผ่นดินไหวในแถบคันโต สร้างความเสียหายแก่ประชาชนชาวญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก ทำให้ประชาชนไร้ที่อยู่อาศัยหลายล้านคน เพื่อเป็นการไว้อาลัยในเหตุการณ์ครั้งนี้ สำนักพระราชวังจึงได้เลื่อนกำหนดการอภิเษกสมรส เป็นวันที่ 26 มกราคม ค.ศ. 1924 หรืออีกประมาณหนึ่งเดือนเศษ ซึงการอภิเษกสมรสเป็นไปได้อย่างราบรื่น และมกุฎราชกุมารฮิโระฮิโตะได้ประกาศยกเลิกระบบนางห้ามที่อนุญาตให้ชนชั้นสูงมีพระสนมได้หลายคน โดยมกุฎราชกุมารได้ปลดปล่อยพระสนม 39 พระองค์ โดยที่จะมีพระมเหสีเพียงพระองค์เดียว และเจ้าหญิงนะงะโกะ ได้รับการสถาปนาเป็น มกุฎราชกุมารีนะงะโกะ[2]
[แก้] พระราชโอรส-ธิดา
สมเด็จพระจักรพรรดินีนะงะโกะ ได้ทรงให้การประสูติกาลเจ้าหญิงหลายพระองค์ตลอดเวลากว่า 10 ปี ในการครองคู่กับสมเด็จพระจักรพรรดิโชวะ ทำให้เกิดเสียงซุบซิบนินทาเกี่ยวกับการสืบทอดราชบัลลังก์ จนในปี พ.ศ. 2476 สมเด็จพระจักรพรรดินีนะงะโกะได้ให้พระประสูติกาลพระโอรสพระองค์แรกคือมกุฎราชกุมารอะกิฮิโตะ[1]
- เจ้าหญิงเทรุ (ญี่ปุ่น: 照宮成子 เทรุ-โนะ-มิยะ ชิเงโกะ ?) ประสูติเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2468 ต่อมาคือ เจ้าหญิงชิเงโกะ ฮิงะชิคุนิ เสกสมรสกับเจ้าชายโมริฮิโระ ฮิงะชิคุนิ ต่อมาพระสวามีของเจ้าหญิงชิเงโกะได้ถูกสหรัฐอเมริกาถอดพระยศเป็นสามัญชน เจ้าหญิงชิเงโกะจึงเป็นนางชิเงโกะ ฮิงะชิคุนิ (ญี่ปุ่น: 東久邇成子 Higashikuni Shigeko ?) มีพระโอรส-ธิดา 5 พระองค์ และสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2504
- เจ้าหญิงฮิซะ (ญี่ปุ่น: 久宮祐子 ฮิซะ-โนะ-มิยะ ซะชิโกะ ?) ประสูติ 10 กันยายน พ.ศ. 2470 พระราชธิดาองค์ที่สอง โดยต่อมาอีก 4 เดือนหลังจากพระประสูติกาล พระธิดาองค์น้อยนี้ก็มีพระอาการพระโลหิตเป็นพิษ โดยต่อมา 2 เดือน เจ้าหญิงซะชิโกะจึงสิ้นพระชนม์อย่างสงบ เมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2471
- เจ้าหญิงทากะ (ญี่ปุ่น: 孝宮和子 ทะกะ-โนะ-มิยะ คะซุโกะ ?) ประสูติเมื่อวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2472 ต่อมาเจ้าหญิงทากะได้เสกสมรสกับนายโทะชิมิชิ ทะคะสึตะซะ เจ้าหญิงทากะจึงลาออกจากฐานันดรศักดิ์ และใช้พระนามเป็นนางคะซุโกะ ทะคะสึคะซะ และสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2532
- เจ้าหญิงโยริ (ญี่ปุ่น: 順宮厚子 โยริ-โนะ-มิยะ อัตสึโกะ ?) ประสูติ 7 มีนาคม พ.ศ. 2474 เจ้าหญิงโยริได้เสกสมรสแล้วกับนายทะกะมะซะ อิเกะดะ เจ้าหญิงโยริจึงลาออกจากฐานันดรศักดิ์ และใช้พระนามเป็น นางอัตสึโกะ อิเกะดะ
- มกุฎราชกุมารอะกิฮิโตะ (ญี่ปุ่น: 継宮明仁 สึงุ-โนะ-มิยะ อะกิฮิโตะ ?) พระราชสมภพเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2476 ต่อมาพระองค์ได้เป็นสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่นองค์ปัจจุบัน มีพระนามว่า สมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ อภิเษกสมรสกับนางสาวโชดะ มิชิโกะ มีพระราชโอรส-ธิดา 3 พระองค์
- เจ้าชายโยชิ (ญี่ปุ่น: 義宮正仁 โยชิ-โนะ-มิยะ มะซะฮิโตะ ?) ประสูติเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2478 ปัจจุบันมีพระนามว่า เจ้าฟ้าชายมะซะฮิโตะ ฮิตะชิ (ญี่ปุ่น: 常陸宮正仁親王 ฮิตะชิ โนะ มิยะ มะซะฮิโตะ ชินโน ?) ปัจจุบันเสกสมรสกับนางสาวสึงะรุ ฮะนะโกะ แต่ไม่มีพระโอรส-ธิดาด้วยกัน
- เจ้าหญิงซุงะ (ญี่ปุ่น: 清宮貴子 ซุงะ-โนะ-มิยะ ทะคะโกะ ?) ประสูติเมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2482 ต่อมาเจ้าหญิงซุงะได้เสกสมรสกับนายฮิซะนะงะ ชิมะสึ เจ้าหญิงซุงะจึงลาออกจากฐานันดรศักดิ์เป็น นางทะคะโกะ ชิมะสึ มีพระโอรส 1 พระองค์
[แก้] สมเด็จพระจักรพรรดินี
สมเด็จพระจักรพรรดินีทรงเป็นพระจักรพรรดินีแห่งประเทศญี่ปุ่นพระองค์แรกที่เสด็จเยือนต่างประเทศ โดยได้เสด็จเยือนทวีปยุโรปเมื่อปี พ.ศ. 2514 เสด็จเยือนสหรัฐอเมริกาเมื่อปี พ.ศ. 2518
หลังจากสมเด็จพระจักรพรรดิโชวะเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2532 พระองค์ทรงดำรงพระอิสริยยศเป็น สมเด็จพระราชชนนี พระพันปีหลวง[2] ในงานพระราชพิธีพระบรมศพของพระราชสวามี สมเด็จพระจักรพรรดินีก็มิได้ทรงเสด็จไป เนื่องด้วยพระสุขภาพที่ไม่เอื้ออำนวย และหลังจากการปรากฏพระองค์ครั้งสุดของสมเด็จพระจักรพรรดินีเมื่อปี พ.ศ. 2531 พระองค์ก็มิได้เสด็จปรากฏพระองค์ที่ไหนอีกเลย ขณะที่พระองค์ก็ดำรงพระยศพระพันปีหลวงได้ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ ทำลายสถิติของสมเด็จพระจักรรดินีคันชิซึ่งสิ้นพระชนม์เมื่อ 873 ปีที่แล้ว[1]
สมเด็จพระจักรพรรดินีนะงะโกะ พระพันปีหลวง เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2543 สิริพระชนมายุได้ 97 พรรษา หลังจากพระราชพิธีพระบรมศพ สมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะได้ทรงอันเชิญพระศพไปที่ สวนฮะจิโอจิ กรุงโตเกียวเคียงข้างพระราชสวามีของพระองค์
หลังจากการสวรรคตของสมเด็จพระพันปีหลวง สมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะได้สถาปนาพระนามสมเด็จพระจักรพรรดินีนะงะโกะ พระพันปีหลวง ขึ้นเป็น สมเด็จพระจักรพรรดินีโคจุน โดยพระศพถูกเก็บไว้ที่สุสสานหลวงมุซะชิโนะ โนะ ฮิงะชิ โนะ มิซะซะงิ ใกล้สุสานหลวงมุซาชิโนะของพระราชสวามี[2]
[แก้] พระอิสริยยศ
- พ.ศ. 2446 - พ.ศ. 2469 เจ้าหญิงนะงะโกะ คุนิ (久邇宮良子女王)
- พ.ศ. 2467 - พ.ศ. 2469 เจ้าฟ้าหญิงนะงะโกะ มกุฎราชกุมารีแห่งญี่ปุ่น
- พ.ศ. 2469 - พ.ศ. 2532 สมเด็จพระจักรพรรดินีนะงะโกะแห่งญี่ปุ่น (美智子皇后)
- พ.ศ. 2532 - พ.ศ. 2543 สมเด็จพระจักรพรรดินีนะงะโกะ พระพันปีหลวง (皇太后)
- พ.ศ. 2543 สมเด็จพระจักรพรรดินีโคจุน (香淳皇后) (หลังสวรรคต)
[แก้] ราชตระกูล
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
เจ้าชายคุนิ ฟุชิมิ |
|
||||||||||||||
|
||||||||||||||||
|
|
|
|
|
|
|
|
|||||||||
|
เจ้าชายคุนิ อะซาฮิโกะ |
|
||||||||||||||
|
||||||||||||||||
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
||||||
|
เจ้าชายคุนิ คุนิโยชิ |
|
||||||||||||||
|
||||||||||||||||
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|||
|
มะกิโกะ อิซุมิ |
|
||||||||||||||
|
||||||||||||||||
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
||||||
|
สมเด็จพระจักรพรรดินีโคจุน |
|
||||||||||||||
|
||||||||||||||||
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ชิมะสึ โนะริโอะกิ ไดเมียวคนที่ 27 แห่งแคว้นซัตสึมะ |
|||||||||||||||
|
||||||||||||||||
|
|
|
|
|
||||||||||||
|
ชิมะสึ ฮิซะมิตสึ ไดเมียวคนที่ 28 แห่งแคว้นซัตสึมะ, โอซุมิ และเฮียวงะ |
|
||||||||||||||
|
||||||||||||||||
|
|
|
|
|
|
|
|
|||||||||
|
พระสนมยูระ | |||||||||||||||
|
||||||||||||||||
|
|
|
|
|
||||||||||||
|
ชิมะสึ ทะดะโยชิ ไดเมียวคนที่ 29 แห่งแคว้นซัตสึมะ, โอซุมิ และเฮียวงะ |
|
||||||||||||||
|
||||||||||||||||
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
||||||
|
เจ้าหญิงชิมะสึ ชิกะโกะ แห่งแคว้นซัตสึมะ |
|
||||||||||||||
|
||||||||||||||||
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|||
|
ซุมะโกะ ฮิโระ |
|
||||||||||||||
|
||||||||||||||||
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
||||||
[แก้] อ้างอิง
- ^ 1.0 1.1 1.2 1.3 1.4 Downer, Lesely. Obituary: "Nagako, Dowager Empress of Japan," The Guardian (London). 17 June 2000.
- ^ 2.0 2.1 2.2 2.3 Imperial Household Agency: Empress Kojun
- ^ Large, Stephen S. Emperor Hirohito and Shōwa Japan: Political Biography, pp. 25-26.
- ^ Connors, Leslie. (1987). The Emperor's Adviser: Saionji Kinmochi and Pre-war Japanese Politics, pp. 79-80.
[แก้] ดูเพิ่ม
- มานพ ถนอมศรี. ราชา-ราชินีที่โลกไม่ลืม. กรุงเทพฯ:ฐานบุ๊คส์, 2552. หน้า 351-365
- Connors, Leslie. (1987). The Emperor's Adviser: Saionji Kinmochi and Pre-war Japanese Politics. London: Routledge. 10-ISBN 0-709-93449-1; 13-ISBN 978-0-709-93449-3
- Koyama, Itoko. (1958). Nagako, Empress of Japan (translation of Kogo sama). New York: J. Day Co. OCLC 1251689
- Large, Stephen S. (1992). Emperor Hirohito and Shōwa Japan: Political Biography. London: Routledge. 10-ISBN 0-415-03203-2; 13-ISBN 978-0-415-03203-2
[แก้] แหล่งข้อมูลอื่น
- คอมมอนส์ มีภาพและสื่ออื่นๆ เกี่ยวกับ สมเด็จพระจักรพรรดินีโคจุน
- คุไนโจ สำนักพระราชวังญี่ปุ่น (อังกฤษ)
- BBC News: Japan mourns Empress Nagako
- BBC News: In pictures: Japan's imperial funeral
- Chicago Tribune: photo of Empress Nagako at White House during State Visit in 1975
สมัยก่อนหน้า | สมเด็จพระจักรพรรดินีโคจุน | สมัยถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
สมเด็จพระจักรพรรดินีเทเม | จักรพรรดินีแห่งญี่ปุ่น (ยุคใหม่) (พ.ศ. 2469 - พ.ศ. 2532) |
สมเด็จพระจักรพรรดินีมิจิโกะ |