รัตนพล ส.วรพิน
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
 |
||
| ข้อมูลส่วนตัว | ||
|---|---|---|
| ชื่อจริง | อนุชา โพธิ์ทอง (อดีต) ปรีชา จรัลธาดา (ปัจจุบัน) |
|
| ฉายา | เขาทรายน้อย | |
| วันเกิด | 6 มิถุนายน พ.ศ. 2517 | |
| สถานที่เกิด |  อำเภอด่านขุนทดจังหวัดนครราชสีมา |
|
| รุ่น | มินิฟลายเวท จูเนียร์ฟลายเวท ฟลายเวท |
|
| ผู้จัดการ | พ.อ.(พิเศษ) บรรจุ อ่องแสงคุณ สุชาติ เกิดเมฆ วรพิน รังษีกุลพิพัฒน์ ก่อเกียรติ พณิชยารมย์ |
|
| เทรนเนอร์ | เดชสุพรรณ ฮอลลีวู้ด พิศ เมืองขุนแผน |
|
| สถิติ | ||
| ชก | 49 | |
| ชนะ | 41 | |
| ชนะน็อก | 36 | |
| แพ้ | 7 | |
| เสมอ | 1 | |
รัตนพล ส.วรพิน มีชื่อจริงแต่เดิมว่า อนุชา โพธิ์ทอง เกิดเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2517 ที่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา โดยเป็นบุตรของนายสมใจ และนางสมจิต โพธิ์ทอง รัตนพล เป็นนักมวยรุ่นเล็กที่รูปร่างใหญ่ หมัดหนัก แม้จะไม่มีชั้นเชิงมากนัก มีช่วงชกยาว จึงชอบค้ำต่อย จึงได้รับฉายาจากแฟนมวยว่า "เขาทรายน้อย" แต่มีชื่อที่เรียกกันเล่น ๆ จนติดปากว่า "ไอ้โบ้" โดยย่อมาจากแรมโบ้ ซึ่งเป็นฉายาเมื่อสมัยยังชกมวยไทย รัตนพลมีเอกลักษณ์ประจำตัว เมื่อเพลงชาติบรรเลงจบก่อนการชกป้องกันตำแหน่งครั้งใด จะตะโกนว่า "ไชโย ๆ ย่าโมออกศึก" ทุกครั้ง
เนื้อหา |
[แก้] วัยเด็ก
ครอบครัวของรัตนพลมีอาชีพทำนา ฐานะทางบ้านยากจนมาก เมื่อตอนเด็กเคยเก็บเงินเพื่อที่จะกินก๋วยเตี๋ยวเพราะเกิดมาไม่เคยกินมาก่อน กับน้องชายคือ รัตนชัย ส.วรพิน โดยแบ่งกันกิน 2 คนเพียงชามเดียว จึงต้องชกมวยด้วยความยากจน โดยเริ่มจากมวยไทยใช้ชื่อที่เป็นการประชดชีวิตตนเองว่า "ทนเอาหน่อย ต่อยใช้หนี้" จากนั้นจึงได้เข้ามาอยู่ในสังกัดค่าย "ส.วรพิน" ของนางวรพิน รังษีกุลพิพัฒน์ หรือ เจ๊วรพิน และจากชกมวยไทยในเวทีเมืองกรุงแล้ว ก็หันมาชกมวยสากล
[แก้] แชมป์โลกคนที่ 17
จนกระทั่ง ฟ้าลั่น ลูกมิ่งขวัญ เสียแชมป์ไปในกลางปี พ.ศ. 2535 ด้วยเรื่องหัวหน้าคณะของฟ้าลั่นขัดใจเรื่องผลประโยชน์กับผู้จัดการ รัตนพลจึงได้มีโอกาสชิงแชมป์แทนในปลายปี โดยมี พ.อ.(พิเศษ) บรรจุ อ่องแสงคุณ เป็นผู้จัดการ ซึ่งก็สามารถทำได้โดยชนะคะแนน แมนนี่ เมลชอร์ นักมวยชาวฟิลิปปินส์ไปอย่างไม่เป้นเอกฉันท์ จากนั้นรัตนพลก็สามารถป้องกันตำแหน่งแชมป์ไว้ได้หลายต่อหลายครั้ง เนื่องจากชกป้องกันตำแหน่งในเมืองไทยตลอด แม้รูปร่างจะแลดูใหญ่เกินนักมวยรุ่นเดียวกันในพิกัด แต่ก็สามารถทำน้ำหนักผ่านมาได้ตลอด โดยเป็นที่รับรู้ทั่วกันของสื่อมวลชนและแฟนมวยว่า เป็นเพราะทางกรรมการจัดการแข่งขันแอบตั้งตาชั่งให้หย่อนมาตลอด จนกระทั่งการป้องกันตำแหน่งครั้งที่ 13 ในวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2539 รัตนพลกลับต้องตกตาชั่งเสียแชมป์ เนื่องจากไม่สามารถทำน้ำหนักได้ จึงทำสถิติป้องกันตำแหน่งไว้ได้เพียงแค่ 12 ครั้ง แต่ในปลายปีก็สามารถกลับมาเป็นแชมป์โลกได้อีกครั้ง
ในการเป็นแชมป์โลกในสมัยที่ 2 รัตนพลสามารถป้องกันตำแหน่งไว้ได้ทั้งหมด 6 ครั้ง ก่อนที่จะเสียแชมป์ในปลายปี พ.ศ. 2540 ไปอย่างไม่มีใครคาดคิด เนื่องจากเป็นฝ่ายแพ้น็อก โซลานี เปเตโล นักมวยโนเนมชาวแอฟริกาใต้ไปในยกที่ 5
[แก้] ตกอับหลังเสียแชมป์
หลังจากนั้น รัตนพลก็พยายามชกมวยเพื่อที่จะกลับมาเป็นแชมป์โลกอีกครั้ง แต่ก็มีปัญหาเรื่องผลประโยชน์กับทางหัวหน้าคณะและผู้จัดการคือ นางวรพินมาโดยตลอด เนื่องจากนางวรพินถือสิทธิ์เป็นผู้จัดการไปด้วยหลังจาก พ.อ.(พิเศษ)บรรจุ อ่องแสงคุณ เสียชีวิตไปหลังจากรัตนพลได้แชมป์โลกในสมัยแรกไม่นาน โดยรัตนพลเคยหนีออกจากค่ายหลายครั้ง รวมทั้งชวนน้องชายคือ รัตนชัย หนีไปด้วย และได้พยายามย้ายสังกัดไปเป็นอิสระหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ได้มีการขอขมาและเคลียร์เรื่องราวกันในที่สุด
รัตนพลมีโอกาสชิงแชมป์โลกอีกครั้ง ในปี พ.ศ. 2541โดยขยับขึ้นไปชกในรุ่นไลท์ฟลายเวท แต่ก้เป้นฝ่ายแพ้คะแนน วิลล์ กริ๊กส์บี้ย์ นักมวยชาวอเมริกัน ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากนั้นยังแพ้น็อค ยูรา ดิม่าร์ นักมวยชาวมองโกเลีย ชิงแชมป์ไลต์ฟลายเวต พาบ้า ที่ว่างไม่ได้อีก ในปี พ.ศ. 2542 ก่อนที่จะได้มีโอกาสชิงแชมปืโลกอีกครั้งในปี พ.ศ. 2543 ที่สหรัฐอเมริกา แต่ก็เป็นฝ่ายแพ้น็อกยกที่ 3 ริคาร์โด้ โลเปซ ไปอย่างสู้ไม่ได้ จึงแขวนนวมไป
หลังจากแขวนนวม ฐานะของรัตนพลลำบากมาก ทรัพย์สินที่ได้จากการชกมวยมาทั้งหมด ก็มีไม่เหลือเท่าไหร่ ต้องไปขายบะหมี่เกี๊ยวรถเข็น โดยมีภรรยาเป็นผู้ช่วย ที่ย่านบางโพ และได้เปลี่ยนชื่อเปลี่ยนนามสกุลเป็น "ปรีชา จรัลธาดา" สื่อมวลชนได้นำเสนอเรื่องราวชีวิตส่วนนี้ของรัตนพลจนเป็นที่รับรู้โดยทั่วไปของสังคมอยู่ช่วงหนึ่ง แต่ในปี พ.ศ. 2549 รัตนพลก็กลับมาชกมวยอีกครั้ง ภายใต้การจัดของก่อเกียรติ พณิชยารมย์
[แก้] บทบาทด้านการเมือง
ในเหตุการณ์การขับไล่ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ให้ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น รัตนพลเป็นบุคคลฝ่ายที่สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยในเช้าวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2549 ที่ทางพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้เคลื่อนย้ายที่ชุมนุมจากสนามหลวงไปที่ทำเนียบรัฐบาล รัตนพลได้สวมหมวกทรงสูงที่ทำเอง เขียนข้อความสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ มาวิ่งไปมาบริเวณที่ชุมนุมเพื่อเรียกความสนใจด้วย และต่อมาได้เข้าร่วมชุมนุมกับทางกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. อีกหลายต่อหลายครั้ง[1]
[แก้] เกียรติประวัติ
- แชมป์เงารุ่นมินิฟลายเวท IBF (2535)
- ชิง 14 มิถุนายน 2535 ชนะน็อค ฮุสนี เรย์ (อินโด) ยก 4 ที่เวทีราชดำเนิน
- ป้องกันแชมป์ครั้งที่ 1, 6 กันยายน 2535 ชนะน็อค อัล ทาราโซน่า (ฟิลิปปินส์) ยก 4 ที่ จ.สมุทรปราการ
- พฤศจิกายน 2535 สละแชมป์
- แชมป์โลกรุ่นมินิฟลายเวท IBF (2535 - 2539)
- ชิง 10 ธันวาคม 2535 ชนะคะแนน แมนนี่ เมลชอร์ (ฟิลิปปินส์) ที่ อินดอร์สเตเดียม หัวหมาก
- ป้องกันแชมป์ครั้งที่ 1, 14 มีนาคม 2536 ชนะน็อค นิกโก้ โธมัส (อินโด) ยก 7 ที่ จ.นครราชสีมา
- ป้องกันแชมป์ครั้งที่ 2, 27 มิถุนายน 2536 ชนะน็อค อลา วิลล่ามอร์ (ฟิลิปปินส์) ยก 7 ที่ อินดอร์สเตเดียม หัวหมาก
- ป้องกันแชมป์ครั้งที่ 3, 26 กันยายน 2536 ชนะแตก โดมิงกุส ซิวาเลตเต้ (อินโด) ยก 4 ที่ อินดอร์สเตเดียม หัวหมาก
- ป้องกันแชมป์ครั้งที่ 4, 10 ธันวาคม 2536 ชนะน็อค เฟลิกซ์ นารันโจ (โคลัมเบีย) ยก 2 ที่ จ.สุพรรณบุรี
- ป้องกันแชมป์ครั้งที่ 5, 27 กุมภาพันธ์ 2537 ชนะคะแนน รอนนี่ มากราโม (ฟิลิปปินส์) ที่ จ.พิจิตร
- ป้องกันแชมป์ครั้งที่ 6, 14 พฤษภาคม 2537 ชนะน็อค โรเจอร์ เอสปาโนรา (ฟิลิปปินส์) ยก 6 ที่ จ.สระบุรี
- ป้องกันแชมป์ครั้งที่ 7, 20 สิงหาคม 2537 ชนะน็อค มาร์เซลิโน โบลิวาร์ (เวเนฯ) ยก 4 ที่ จ.บุรีรัมย์
- ป้องกันแชมป์ครั้งที่ 8, 12 พฤศจิกายน 2537 ชนะน็อค คาร์ลอส อัลเบอร์โต โรดริเกวซ (เวเนฯ) ยก 3 ที่ จ.ขอนแก่น
- ป้องกันแชมป์ครั้งที่ 9, 25 กุมภาพันธ์ 2538 ชนะน็อค เจอรี่ ปาฮายาไฮ (ฟิลิปปินส์) ยก 3 ที่ จ.ปทุมธานี
- ป้องกันแชมป์ครั้งที่ 10, 20 พฤษภาคม 2538 ชนะน็อค ออสการ์ ฟลอเรส (โคลัมเบีย) ยก 2 ที่ จ.เชียงใหม่
- ป้องกันแชมป์ครั้งที่ 11, 29 ตุลาคม 2538 ชนะน็อค แจ๊ค รัสเซลล์ (ออสเตรเลีย) ยก 2 ที่ จ.สุพรรณบุรี
- ป้องกันแชมป์ครั้งที่ 12, 30 ธันวาคม 2538 ชนะน็อค ออสวัลโด เกร์เรโร (เม็กซิโก) ยก 6 ที่ จ.ลำพูน
- 15 มีนาคม 2539 ถูกปลดเพราะชั่งน้ำหนักไม่ผ่าน แต่ขึ้นชกนอกรอบ ชนะน็อค ลี คัสติญโญ (นิคารากัว) ยก 11 ทำให้แชมป์ว่าง
- แชมป์โลกรุ่นมินิฟลายเวท IBF (2539 - 2540)
- ชิง 18 พฤษภาคม 2539 ชนะคะแนน จูน อาร์ลอส (ฟิลิปปินส์) ที่ จ.ยะลา
- ป้องกันแชมป์ครั้งที่ 1, 13 กรกฎาคม 2539 ชนะน็อค จูน ออร์ฮาลิซา (ฟิลิปปินส์) ยก 3 ที่ จ.เชียงใหม่
- ป้องกันแชมป์ครั้งที่ 2, 28 กันยายน 2539 ชนะน็อค ออสการ์ อันดราเด้ (เม็กซิโก) ยก 4 ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์
- ป้องกันแชมป์ครั้งที่ 3, 24 พฤศจิกายน 2539 ชนะน็อค กุสตาโว เวรา (เวเนฯ) ยก 2 ที่ จ.อุดรธานี
- ป้องกันแชมป์ครั้งที่ 4, 22 มีนาคม 2540 ชนะน็อค หลุยส์ โดเรีย (โคลัมเบีย) ยก 4 ที่ จ.สระบุรี
- ป้องกันแชมป์ครั้งที่ 5, 14 มิถุนายน 2540 ชนะคะแนน ฮวน เฮอร์รีรา (โคลัมเบีย) ที่ จ.นครราชสีมา
- ป้องกันแชมป์ครั้งที่ 6, 30 สิงหาคม 2540 ชนะน็อค เวลลิงตัน วิเซนเต้ (บราซิล) ยก 2 ที่ จ.หนองคาย
- เสียแชมป์ 27 ธันวาคม 2540 แพ้น็อค โซลานี่ เปเตโล (แอฟริกาใต้) ยก 4 ที่ จ.สงขลา
- แชมป์ PABA รุ่นฟลายเวท (2550 - 2551)
- ชิง 16 พฤศจิกายน 2550 ชนะน็อก อัลวี่ อันฮับซี่ (อินโดนีเซีย) ยกแรก ที่ จ.สุราษฎร์ธานี
- ป้องกันแชมป์ครั้งที่ 1, 14 กุมภาพันธ์ 2551 ชนะน็อค ปิงปิง เตปูรา ยก 2 ที่ มีนบุรี
- ป้องกันแชมป์ครั้งที่ 2, 15 เมษายน 2551 ชนะน็อค แซม เบอร์แดม ยก 3 (อินโด) ที่ นครพนม
- ป้องกันแชมป์ครั้งที่ 3, 23 พฤษภาคม 2551 ชนะน็อค จูฮารุม สิลาบัน (อินโด) ยก 2 ที่ กาฬสินธุ์
- เสียแชมป์ 3 ตุลาคม 2551 แพ้คะแนน ริชาร์ด กราเซีย (ฟิลิปปินส์) ที่ นครราชสีมา
- แชมป์ PABA รุ่นฟลายเวท (2552)
- ชิง 7 พฤษภาคม 2552 ชนะน็อค วิโด เปเรซ ยก 3 ที่ พัทลุง
- เสียแชมป์ 10 กรกฎาคม 2552 แพ้น็อก เรย์ มิเกย์โน่ (ฟิลิปปินส์) ยก 5 ที่ จ.ภูเก็ต
- เคยชิงแชมป์ต่อไปนี้แต่ไม่สำเร็จ
- ชิงแชมป์โลกรุ่นจูเนียร์ฟลายเวท IBF 18 ธันวาคม 2541 แพ้คะแนน วิลส์ กริกบี (สหรัฐ) ที่ ฟลอริดา สหรัฐ
- ชิงแชมป์โลกรุ่นจูเนียร์ฟลายเวท IBF 2 ธันวาคม 2543 แพ้น็อค ริคาร์โด โลเปซ (เม็กซิโก) ยก 3 ที่ สหรัฐ
- ชิงแชมป์ PABA รุ่นจูเนียร์ฟลายเวท เมื่อ 5 พ.ย. 2542 แพ้น็อค ยูรา ดิมาร์ (มองโกเลีย) ยก 2 ที่ จ.นครสวรรค์
[แก้] ชื่อในการชกมวยชื่ออื่น ๆ
- รัตนพล ดัทช์บอยยิม
- รัตนพล ก่อเกียรติยิม
[แก้] อ้างอิง
|
|||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
