สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร กรมพระยาดำรงราชานุภาพ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร กรมพระยาดำรงราชานุภาพ |
||||||||||||||||||
|
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร กรมพระยาดำรงราชานุภาพ (21 มิถุนายน พ.ศ. 2405 - 1 ธันวาคม พ.ศ. 2486) ทรงเป็นพระราชโอรสองค์ที่ 57 ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาชุ่ม เมื่อวันเสาร์ แรม 9 ค่ำ เดือน 7 ปีจอ ตรงกับวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2405 พระองค์ยังทรงเป็นต้นราชสกุลดิศกุล
เนื้อหา |
[แก้] พระประวัติ
[แก้] ประสูติ
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 57 ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาชุ่ม ภายในพระบรมมหาราชวัง เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2405 พระองค์ได้รับพระราชทานพระนามจากสมเด็จพระบรมชนกนาถเมื่อวันสมโภชเดือน โดยมีรายละเอียดว่า[1]
"สมเด็จพระปรเมนทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าแผ่นดินสยามผู้พระบิดา ขอตั้งนามกุมารบุตรที่เกิดแต่ชุ่มเล็กเป็นมารดานั้น และซึ่งคลอดในวันเสาร์ แรม 9 ค่ำ เดือน 7 ปีจอจัตวาศกนั้น ว่าดังนี้ พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร นาคนาม ขอจงเจริญชนมายุ วรรณ สุข พล ปฏิภาณ สรรพสิริสวัสดิพิพัฒนมงคลทุกประการ สิ้นกาลนานต่อไป เทอญ"
ชาววังโดยทั่วไป เรียกกันว่า "พระองค์ดิศ" โดยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงนำเอานามของพระอัพภันตริกามาตย์ (ดิศ โรจนดิศ) ซึ่งเป็นบิดาของเจ้าจอมมารดาชุ่มมาตั้งพระราชทาน เนื่องจากทรงพระราชดำริว่าท่านเป็นคนซื่อตรง[2]
[แก้] ทรงศึกษา
พระองค์ทรงเริ่มเรียนหนังสือไทยชั้นต้นจากสำนักคุณแสงและคุณปาน ราชนิกุล ในพระบรมมหาราชวัง ทรงศึกษาภาษาอังกฤษในโรงเรียนหลวง ซึ่งมีมิสเตอร์ ฟรานซิส ยอร์ช แพตเตอร์สัน เป็นพระอาจารย์
- พ.ศ. ๒๔๑๘ เมื่อมีพระชนม์ได้ 13 พรรษา ได้ทรงผนวชเป็นสามเณรที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม สมเด็จกรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ทรงเป็น พระอุปัชฌาย์ และประทับจำพรรษาที่วัดบวรนิเวศวิหาร
- พ.ศ. ๒๔๒๐ ทรงสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยทหารบก ได้รับพระราชทานยศเป็นนายร้อยตรีทหารมหาดเล็ก บังคับกองแตรวง พระชนมายุได้ 15 ปี
[แก้] สิ้นพระชนม์
เมื่อวันที่ ๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๘๖ ที่วังวรดิศ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ สิ้นพระชนม์ สิริรวมพระชนม์มายุได้ ๘๑ พรรษา ได้ทรงประกอบพระกรณียกิจด้านต่าง ๆ ซึ่งล้วนแต่เป็นงานใหญ่ และงานสำคัญอย่างยิ่ง ของบ้านเมือง ทรงเป็นกำลังสำคัญในการบริหารประเทศหลายด้าน และทรงเป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัยในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นอย่างสูง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เคยตรัสชมพระองค์ เปรียบเทียบว่าเป็นเสมือน "เพชรประดับพระมหาพิชัยมงกุฎ" ผลงานด้านต่าง ๆ ของพระองค์แสดงให้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพอันสูง เป็นที่ประจักษ์แก่มหาชนทุกยุคทุกสมัย
[แก้] พระกรณียกิจ
- พ.ศ. ๒๔๒๒ ได้รับพระราชทานยศเป็นนายร้อยโท ผู้บังคับการทหารม้า ในกรมทหารมหาดเล็กและในปีเดียวกันนี้ได้รับพระราชทานยศเป็น นายร้อยเอก ราชองค์รักษ์ประจำพระองค์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระชนมายุได้ 17 ปี
- พ.ศ. ๒๔๒๓ ได้รับพระราชทานยศเลื่อนเป็นนายพันตรี ผู้สนองพระบรมราชโองการ ว่าการกรมทหารมหาดเล็ก
- พ.ศ. ๒๔๒๔ โปรดเกล้าฯ ให้ย้ายไปสังกัดกรมทหารปืนใหญ่ ซึ่งเรียกกันในสมัยนั้นว่า "กรมกองแก้วจินดา" ทรงจัดตั้งโรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ
- พ.ศ. ๒๔๒๕ ทรงผนวชเป็นพระภิกษุ ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ทรงเป็นพระ อุปัชฌาย์ และประทับจำพรรษาที่วัดนิเวศธรรมประวัติ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
- พ.ศ. ๒๔๒๘ โปรดเกล้าฯ ให้ย้ายไปเป็นผู้บังคับการทหารมหาดเล็ก และได้รับพระราชทานยศเป็นนายพันโท
- พ.ศ. ๒๔๒๙ โปรดเกล้าฯ พระราชทานพระสุพรรณบัฎ และทรงประกาศแต่งตั้งให้ดำรงพระอิสริยยศ เป็น "กรมหมื่นดำรงราชานุภาพ"
- พ.ศ. ๒๔๓๐ โปรดเกล้าฯ ให้เป็นผู้บัญชาการทหารบก
- พ.ศ. ๒๔๓๑ ได้รับพระราชทานยศเป็นนายพลตรี
- พ.ศ. ๒๔๓๒ โปรดเกล้าฯ ให้ย้ายจากงานฝ่ายทหารไปปฏิบัติงานทางพลเรือน ทรงเป็นผู้กำกับ กรมธรรมการ
- พ.ศ. ๒๔๓๓ โปรดเกล้าฯ ให้เลื่อนขึ้นเป็นอธิบดีกรม ศึกษาธิการ
- พ.ศ. ๒๔๓๕- ๕๘ โปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งเสนาบดี กระทรวงมหาดไทย
- พ.ศ. ๒๔๔๒ โปรดเกล้าฯ ให้เลื่อนพระอิสริยยศเป็น "กรมหลวงดำรงราชานุภาพ"
- พ.ศ. ๒๔๕๔ โปรดเกล้าฯ ให้เลื่อนพระอิสริยยศ เป็น "กรมพระดำรงราชานุภาพ"
- พ.ศ. ๒๔๕๘ ดำรงตำแหน่งนายกหอพระสมุดสำหรับ พระนคร
- พ.ศ. ๒๔๖๖ ดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงมุรธาธร และเป็นนายพลเอก
- พ.ศ. ๒๔๖๘ ดำรงตำแหน่งอภิรัฐมนตรี
- พ.ศ. ๒๔๖๙ ดำรงตำแหน่งนายก ราชบัณฑิตยสภา
- พ.ศ. ๒๔๗๒ โปรดเกล้าฯ ให้เลื่อน พระอิสริยยศเป็น "สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ"
[แก้] พระอิสริยยศ
- พ.ศ. ๒๔๐๕ พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร
- พ.ศ. ๒๔๑๑ พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร
- พ.ศ. ๒๔๒๙ พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นดำรงราชานุภาพ (ทรงศักดินา ๑๕๐๐๐)[3]
- เจ้ากรม - หมื่นดำรงราชานุภาพ (ศักดินา ๖๐๐)
- ปลัดกรม - หมื่นปราบบรพล (ศักดินา ๔๐๐)
- สมุห์บาญชี - หมื่นสกลคณารักษ์ (ศักดินา ๓๐๐)
- พ.ศ. ๒๔๔๒ พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงดำรงราชานุภาพ (ทรงศักดินา ๑๕๐๐๐)
- เจ้ากรม - หลวงดำรงราชานุภาพ (ศักดินา ๖๐๐)
- ปลัดกรม - ขุนปราบบรพล (ศักดินา ๔๐๐)
- สมุห์บาญชี - หมื่นสกลคณารักษ์ (ศักดินา ๓๐๐)
- พ.ศ. ๒๔๕๔ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระดำรงราชานุภาพ อิสสริยลาภบดินทร์ สยามพิชิตินทรวโรปการ มโหฬารราชกฤตยานุสร อาทรประพาสการสวัสดิ์ วรรัตนปัญญาศึกษาพิเศษ นรินทราธิเบศบรมวงศ์อดิศัย ศรีรัตนตรัยคุณธาดา อุดมเดชานุภาพบพิตร(ทรงศักดินา ๑๕๐๐๐)[4]
- เจ้ากรม - พระดำรงราชานุภาพ (ศักดินา ๘๐๐)
- ปลัดกรม - หลวงปราบบรพล (ศักดินา ๖๐๐)
- สมุห์บาญชี - ขุนสกลคณารักษ์ (ศักดินา ๔๐๐)
- พ.ศ. ๒๔๗๒ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ อิสสริยลาภบดินทร สยามวิชิตินทรวโรปการ มโหฬารรัฐประศาสน์ ปิยมหาราชนรานุศิษย์ ไพศาลราชกฤตยการี โบราณคดีปวัติศาสตรโกศล คัมภีรพนธ์นิรุกติปฏิภาน ราชบัณฑิตวิธานนิติธรรมสมรรถ ศึกษาภิวัธปิยวาที ขันติสัตยตรีสุจริตธาดา วิมลรัตนปัญญาอาชวาศรัย พุทธาทิไตรสรณาทร พิเศษคุณาภรณ์ธรรมิกนาถบพิตร (ทรงศักดินา ๓๕๐๐๐)
- เจ้ากรม - พระยาดำรงราชานุภาพ (ศักดินา ๑๐๐๐)
- ปลัดกรม - พระปราบบรพล (ศักดินา ๘๐๐)
- สมุห์บาญชี - หลวงสกลคณารักษ์ (ศักดินา ๕๐๐)
[แก้] พระโอรสและพระธิดา
พระองค์ทรงมีพระโอรส-ธิดาทั้งหมด ๓๗ องค์ สิ้นชีพิตักษัยตั้งแต่ทรงพระเยาว์ก่อน ๑ ปี ๔ องค์ เหลือ ๓๓ องค์
[แก้] หม่อมเฉื่อย ยมาภัย
พระองค์ทรงมีพระโอรส-ธิดากับหม่อมเฉื่อยทั้งหมด ๑๐ องค์ คือ
- พันโทหม่อมเจ้าจุลดิศ ดิศกุล (พ.ศ. ๒๔๒๔-๒๔๙๐) เษกสมรสกับ หม่อมแช่ม เปาโรหิตย์
- หม่อมเจ้าอิทธิดำรง ดิศกุล (พ.ศ. ๒๔๒๙-๒๔๓๖)
- หม่อมเจ้าทรงวุฒิภาพ ดิศกุล (พ.ศ. ๒๔๓๒-๒๔๖๙) เษกสมรสกับ หม่อมราชวงศ์สอิ้ง สนิทวงศ์ และ หม่อมราชวงศ์หญิงสุทธิสอาด สนิทวงศ์
- หม่อมเจ้าหญิงแฝด
- หม่อมเจ้าหญิงแฝด
- หม่อมเจ้ารัชลาภจิรฐิษ ดิศกุล (พ.ศ. ๒๔๓๖-๒๔๔๓)
- หม่อมเจ้าหญิงพูนพิศมัย ดิศกุล(พ.ศ. ๒๔๓๘-๒๕๓๓)
- หม่อมเจ้าหญิงพิไลยเลขา ดิศกุล (พ.ศ. ๒๔๔๐-๒๕๒๘)
- หม่อมเจ้าบันดาลสวัสดี ดิศกุล (พ.ศ. ๒๔๔๒-๒๔๖๙) เษกสมรสกับ หม่อมเจ้าไตรทิพย์เทพสุต เทวกุล
- หม่อมเจ้าดิศศานุวัติ ดิศกุล (พ.ศ. ๒๔๔๕-๒๕๑๐) เษกสมรสกับ หม่อมเจ้าลุอิสาณ์ จักรพันธุ์
[แก้] หม่อมนวม โรจนดิศ
พระองค์ทรงมีพระโอรส-ธิดากับหม่อมนวมทั้งหมด ๕ องค์ คือ
- หม่อมเจ้าหญิงจงจิตรถนอม ดิศกุล(พ.ศ. ๒๔๒๙-๒๕๒๑)
- หม่อมเจ้าหญิงพร้อมเพราพรรณ ดิศกุล (พ.ศ. ๒๔๓๑-๒๔๖๗) เษกสมรสกับ กรมหลวงสิงหวิกรมเกรียงไกร
- หม่อมเจ้าหญิงสรรพสมบูรณ์ ดิศกุล (พ.ศ. ๒๔๓๖-๒๔๖๓)
- หม่อมเจ้าหญิงอีก ๒ องค์
[แก้] หม่อมลำดวน วสันต์สิงห์
พระองค์ทรงมีพระโอรส-ธิดากับหม่อมลำดวนทั้งหมด ๗ องค์ คือ
- หม่อมเจ้าพัฒนายุคุณวรรณ ดิศกุล (พ.ศ. ๒๔๔๐-๒๕๑๖)
- หม่อมเจ้าหญิงแฝด (พ.ศ. ๒๔๔๐)
- หม่อมเจ้าสิวลีวิลาศ ดิศกุล (พ.ศ. ๒๔๔๓-๒๕๓๕)
- หม่อมเจ้าทักษิณาธร ดิศกุล (พ.ศ. ๒๔๔๖-๒๕๑๕)
- หม่อมเจ้าพิศิษฐ์ดิศพงษ์ ดิศกุล (พ.ศ. ๒๔๔๘-๒๕๐๙ ท่านพ่อของ หม่อมราชวงศ์ปรียางศรี วัฒนคุณ) เษกสมรสกับ หม่อมสวาสดิ์ เกตุทัต
- หม่อมเจ้าสุมณีนงเยาว์ ดิศกุล (พ.ศ. ๒๔๕๑-ปัจจุบัน?) เษกสมรสกับ พ.อ.สุวัฒน์ วินิจฉัยกุล
- หม่อมเจ้าหญิง สิ้นชีพพิตักษัยเมื่อวันประสูติ
[แก้] หม่อมแสง ศตะรัตน์
พระองค์ทรงมีพระโอรส-ธิดากับหม่อมแสงทั้งหมด ๖ องค์ คือ
- หม่อมเจ้าหญิงมารยาตรกัญญา ดิศกุล (พ.ศ. ๒๔๔๕-๒๕๔๙) สิ้นชีพิตักษัย ๑๑ ธันวาคม ๒๕๔๙
- หม่อมเจ้าหญิงพรพิลาศ ดิศกุล (พ.ศ. ๒๔๔๗-๒๕๑๙) เษกสมรสกับ ชวน บุนนาค
- หม่อมเจ้าหญิงพวงมาศผกา ดิศกุล (พ.ศ. ๒๔๕๐-๒๕๒๖)
- หม่อมเจ้าศุกรวรรณดิศ ดิศกุล (พ.ศ. ๒๔๕๒-๒๕๑๙) เษกสมรสกับ หม่อมลดา อินทรกำแหง
- หม่อมเจ้าหญิงเราหิณาวดี ดิศกุล (พ.ศ. ๒๔๕๕-๒๔๒๗) เษกสมรสกับ หม่อมหลวงฉายชื่น กำภู
- หม่อมเจ้าหญิงกฤษณาพักตรพิมล ดิศกุล (พ.ศ. ๒๔๖๐-ปัจจุบัน?) เษกสมรสกับ หม่อมเจ้าประสพสุข ศุขสวัสดิ์
[แก้] หม่อมเจิม สนธิรัตน์
พระองค์ทรงมีพระโอรส-ธิดากับหม่อมเจิมทั้งหมด ๘ องค์ คือ
- หม่อมเจ้าบันลุศิริสาณต์ ดิศกุล (พ.ศ. ๒๔๔๑-๒๔๕๕)
- หม่อมเจ้าอัปภัศราภา ดิศกุล (พ.ศ. ๒๔๔๖-๒๕๒๔) เษกสมรสกับ หม่อมเจ้าอนันตนรไชย เทวกุล
- หม่อมเจ้านิพัทธ์พันธุดิศ ดิศกุล (พ.ศ. ๒๔๔๘-๒๕๐๙) เษกสมรสกับ หม่อมรำไพ กันตามระ
- หม่อมเจ้ารัชมาลินี ดิศกุล (พ.ศ. ๒๔๕๑-๒๕๒๘) เษกสมรสกับ หม่อมเจ้าธัญญลักษณ์ ศุขสวัสดิ์
- หม่อมเจ้าอาชวดิศ ดิศกุล (พ.ศ. ๒๔๕๕-๒๕๑๘) เษกสมรสกับ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศิริรัตนบุษบง
- หม่อมเจ้ากุมารีเฉลิมลักษณ์ ดิศกุล (พ.ศ. ๒๔๕๘-๒๕๔๔) เษกสมรสกับ หม่อมเจ้าเพลารถ จิตรพงศ์
- หม่อมเจ้าสุภัทรดิศ ดิศกุล (พ.ศ. ๒๔๖๖-๒๕๔๖) เษกสมรสกับ หม่อมอรพินท์ อินทรทูต
[แก้] หม่อมอบ สุขไพบูลย์
พระองค์ทรงมีพระโอรส-ธิดากับหม่อมอบเพียงองค์เดียว คือ
- หม่อมเจ้ากาฬวรรณดิศ ดิศกุล (พ.ศ. ๒๔๕๓-๒๕๒๗) เษกสมรสกับ หม่อมฉวีทิพย์ หงสนันท์
[แก้] หม่อมหลวงหญิงใหญ่ อิศรเสนา
พระองค์ทรงมีพระโอรส-ธิดากับหม่อมหลวงหญิงใหญ่ อิศรเสนา (บุตรีคนโตของหม่อมเทวาธิราช (หม่อมราชวงศ์แดง อิศรเสนา))เพียง ๒ องค์ คือ
- หม่อมเจ้าวีรดิศ ดิศกุล (พ.ศ. ๒๔๕๔-๒๔๘๙)
- หม่อมเจ้าพิริยดิศ ดิศกุล (พ.ศ. ๒๔๖๔-๒๕๔๓) เษกสมรสกับ หม่อมเจ้าหญิงภัทรลดา ฉัตรไชย พระธิดาใน พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน กับ เจ้าหญิงลดาคำ ณ เชียงใหม่
[แก้] หม่อมหยาด กลัมพากร
พระองค์ทรงมีพระโอรส-ธิดากับหม่อมอบเพียงองค์เดียว คือ
- หม่อมเจ้ากุมารดิศ ดิศกุล (พ.ศ. ๒๔๗๑-๒๕๓๒) เษกสมรสกับ หม่อมอุบลวรรณ เก่งธัญการ
นอกจากนั้นพระองค์ยังทรงมีหม่อมอีก 3 คน คือ หม่อมเป๋า หม่อมเยื้อน และ หม่อมเพิ่ม
[แก้] ราชตระกูล
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร กรมพระยาดำรงราชานุภาพ |
พระชนก: พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว |
พระอัยกาฝ่ายพระชนก: พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย |
พระปัยกาฝ่ายพระชนก: พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก |
พระปัยยิกาฝ่ายพระชนก: สมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี |
|||
พระอัยยิกาฝ่ายพระชนก: สมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี |
พระปัยกาฝ่ายพระชนก: เจ้าขรัวเงิน |
||
พระปัยยิกาฝ่ายพระชนก: สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระศรีสุดารักษ์ |
|||
พระชนนี: เจ้าจอมมารดาชุ่ม ในรัชกาลที่ 4 |
พระอัยกาฝ่ายพระชนนี: พระยาอัพภันตริกามาตย์ (ดิศ โรจนดิศ) |
พระปัยกาฝ่ายพระชนนี: ไม่ทราบ |
|
พระปัยยิกาฝ่ายพระชนนี: ไม่ทราบ |
|||
พระอัยยิกาฝ่ายพระชนนี: ขรัวยายคล้าย |
พระปัยกาฝ่ายพระชนนี: ไม่ทราบ |
||
พระปัยยิกาฝ่ายพระชนนี: ไม่ทราบ |
[แก้] อ้างอิง
- ^ จอมเกล้าเจ้าอยู่หัว, พระบาทสมเด็จพระ, คาถาพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระนามพระราชโอรสธิดา, โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร, พ.ศ. 2472
- ^ สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ, หน้า ๒-๓
- ^ ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ ตั้งกรม พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นดำรงค์ราชานุภาพ, เล่ม ๓, ตอน ๙, ๒๒ มิถุนายน พ.ศ. ๑๘๘๖, หน้า ๖๙
- ^ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศ เลื่อน แลตั้งกรม แลตั้งเจ้าพระยา, เล่ม ๒๘, ตอน ๐ ง, ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๕๔, หน้า ๑๗๓๕-๑๗๓๗
[แก้] หนังสือ
- Jeffy Finestone. 2542. สมุดพระรูป พระราชโอรส พระราชธิดา พระราชนัดดาใน พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว. ปรียนันทนา รังสิต,ม.ร.ว. โลมาโฮลดิ้ง
- สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ และ หม่อมเจ้าหญิง จงจิตรถนอม ดิศกุล. จดหมายถึงหญิงใหญ่ (ฉบับชำระใหม่). กรุงเทพ : สถาพรบุ๊คส์, 2551. ISBN 978-974-16-6535-8
- สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ, ความทรงจำ, สำนักพิมพ์สมาคมสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย, 12 พฤศจิกายน 2505
สมัยก่อนหน้า | สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร กรมพระยาดำรงราชานุภาพ | สมัยถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
นราธิปประพันธ์พงศ์ (กรมพระ) |
พระนามกรมพระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๔ ดำรงราชานุภาพ (กรมพระยา) |
พิทยลาภพฤฒิธาดา (กรมขุน) |
||
พระองค์แรก | เจ้าพนักงานใหญ่ ผู้ช่วยบัญชาการทหารบก (พ.ศ. 2432) |
จอมพล เจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี (เจิม แสง-ชูโต)
|
||
พระองค์แรก | เสนาบดีกระทรวงมหาดไทย (เมษายน พ.ศ. 2435 - สิงหาคม พ.ศ. 2458) |
เจ้าพระยาสุรสีห์วิสิษฐ์ศักดิ์ (เชย กัลยาณมิตร) |
|
|
|
|