ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

Princess Ubolratana (Cropped).jpg
ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี
พระนามเต็ม ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี
พระอิสริยยศ ทูลกระหม่อมหญิง
ฐานันดรศักดิ์ เจ้าฟ้า
ราชวงศ์ ราชวงศ์จักรี
พระราชวงศ์ไทย
Emblem of the House of Chakri.svg

ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงเป็นพระราชธิดาพระองค์ใหญ่ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถและทรงลาออกฐานันดรศักดิ์ เพื่อทรงสมรสกับปีเตอร์ เจนเซนและทรงประทับอยู่ประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อปี พ.ศ. 2541 และเสด็จนิวัติประเทศไทย เมื่อปี พ.ศ. 2544

ถือว่าทรงเป็นพระราชธิดาพระองค์ใหญ่พระองค์แรก ในบรรดาพระราชโอรส พระราชธิดาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถที่ได้ทรงลาออกฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์เป็นพระองค์และในรัชกาลปัจจุบัน

ทรงปฏิบัติพระกรณียกิจเกี่ยวกับการศึกษา การช่วยราษฎร์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ การรณรงค์การแก้ไขปัญหายาเสพติด เป็นต้น เพื่อประชาชาชาวไทยได้อยู่ร่วามกันอย่างสงบสุขและการอยู่ร่วมกันสามัคคีจนทั่วถึง

และนอกจากนี้ เมื่อปีพ.ศ. 2551ได้ทรงแสดงภาพยนตร์เรื่อง หนึ่งใจ... เดียวกัน เป็นภาพยนตร์ที่ทรงแสดงด้วยพระองค์เองอย่างมีพระอัจฉริยภาพจนทำให้ชาวต่างชาติต่างประเทศได้นำภาพยนตร์เรื่อง หนึ่งใจ... เดียวกัน นำไปฉายต่างประเทศจนทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้กลายเป็นภาพยนตร์นานาชาติ

เนื้อหา

[แก้] พระประวัติ

[แก้] วันประสูติ

ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงเป็นพระราชธิดาพระองค์ใหญ่ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ประสูติเมื่อ วันอาทิตย์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2494[1] ณ โรงพยาบาลมองชัวซีส์ เมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์และได้เสด็จนิวัติพระนคร แล้วประทับ ณ พระที่นั่งอัมพรสถานพระราชวังดุสิต

และเมื่อถึงงานพระราชพิธีสมโภชเดือนและขึ้นพระอู่แล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระอิสริยยศเมื่อประสูติ คือ "สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี" โดยพระนามของพระองค์มาจากพระนามและนามของพระประยูรญาติหลายพระองค์ อันได้แก่

นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงมีพระนามเล่นของพระองค์ว่า ลา ปูเป้ (La Poupée) ซึ่งเป็นคำมาจากภาษาฝรั่งเศส แปลว่า ตุ๊กตา ทูลกระหม่อมพ่อและสมเด็จแม่ของพระองค์ท่าน ทรงเรียกว่า "เป้" อีกด้วย

[แก้] การศึกษา

การศึกษาของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดีตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ ทรงเข้ารับการศึกษาจนสำเร็จการศึกษาขั้นต้นจากโรงเรียนจิตรลดา จนกระทั่งทรงสำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษา

แล้วต่อมาจึงได้เสด็จไปประทับ ณ ประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อทรงเข้ารับการศึกษาต่อจนจบสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี ณ สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์(MASSACHUSETTS INSTITUTE OF TECHNOLOGY) เมืองเคมบริดจ์ มลรัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกาในสาขาวิชาคณิตศาสตร์ และสาขาวิชาวิทยาศาสตร์ จากนั้นพระองค์ทรงเข้ารับการศึกษาต่อจนจบสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาโท ณ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแอนเจลิส (U.C.L.A) ณ ลอสแอนเจลิสประเทศสหรัฐอเมริกา ในสาขาวิชาสาธารณสุขศาสตร์ (STATISTICS AND PUBLIC HEALTH) จนสำเร็จในการศึกษา

[แก้] การอภิเษกสมรส

การประกาศลาออกจากฐานันดรศักดิของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา

เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2515 ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงลาออกจากฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์[2] เพื่อทรงเสกสมรสกับนายปีเตอร์ แลด เจนเซน ชาวอเมริกัน และทรงประทับอยู่ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นเวลา 26 ปี จนเมื่อ พ.ศ. 2541ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ได้ทรงประกาศทรงหย่ากับนายปีเตอร์ แลด เจนเซน ชาวอเมริกัน และ เสด็จกลับนิวัติประเทศไทยเป็นการถาวร เมื่อพ.ศ. 2544

[แก้] พระโอรส พระธิดา

ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เมื่อได้ทรงประทับขณะอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกากับปีเตอร์ เจนเซนพระองค์ทรงมีพระโอรสพระธิดา 3 พระองค์ ที่ได้ประสูติประเทศสหรัฐอเมริกาคือ

[แก้] ประทับประเทศสหรัฐอเมริกา

เมื่อทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ได้ประทับอยู่ประเทศสหรัฐอเมริกาอยู่นั้น บางปีสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และ พระบรมวงศานุวงศ์ ได้เสด็จมาเยี่ยมบ้าง และพระองค์ จะเสด็จนิวัติประเทศไทยเพื่อทรงเยี่ยมพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และได้ทรงร่วมงานพระราชพิธีต่างๆ พร้อมด้วยพระโอรสและพระธิดา

เมื่อปี พ.ศ. 2541 ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ได้ทรงประกาศหย่ากับนายปีเตอร์ แลด เจนเซน ชาวอเมริกัน และ เสด็จกลับนิวัติประเทศไทยเป็นการถาวร และได้รับพระราชทานพระอิศริยยศเป็นทูลกระหม่อมหญิง แต่พระโอรสและพระธิดาอีก 3 พระองค์ ยังทรงศึกษาต่ออยู่ต่างประเทศ และบางปีพระโอรสและพระธิดาก็จะเสด็จนัวัติประเทศไทยเพื่อทรงเยี่ยมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี และทรงร่วมงานพระราชพิธีหรือพิธีต่าง ๆ

[แก้] การเสด็จนิวัติประเทศไทย

เมื่อที่ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เมื่อได้ทรงประทับขณะอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาพระองค์ก็จะเสด็จนิวัติประเทศไทยหลายครั้ง เพื่อทรงร่วมงานพระราชพิธีและพิธีต่างๆ และทรงเยี่ยมพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถและพระบรมวงศานุวงศ์เป็นประจำ มีดังนี้

การเสด็จนิวัติประเทศไทยครั้งที่ 1 เพื่อทรงเยี่ยมพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถและพระบรมวงศานุวงศ์การเสด็จนิวัติประเทศไทยครั้งที่ 2 เพื่อทรงร่วมงานพระราชพิธีอภิเษกสมรสสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารีและ นาวาอากาศเอกวีระยุทธ ดิษยะศรินขณะยังมียศทหารอากาศเป็น เรืออากาศโท เมื่อ พ.ศ. 2525 การเสด็จนิวัติประเทศไทยครั้งที่ 3 เพื่อทรงงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2530 การเสด็จนิวัติประเทศไทยครั้งที่ 4 เพื่อทรงงาน พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2535 การเสด็จนิวัติประเทศไทยครั้งที่ 5 เพื่อทรงร่วมงาน พระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เมื่อพ.ศ. 2538 การเสด็จนิวัติประเทศไทยครั้งที่ 6 เพื่อทรงร่วมงาน พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เมื่อพ.ศ. 2539 การเสด็จนิวัติประเทศไทยครั้งที่ 7 เพื่อทรงร่วมงาน พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2542

และเมื่อหลังประกาศทรงหย่ากับนายปีเตอร์ แลด เจนเซน ชาวอเมริกัน เมื่อพ.ศ. 2541 ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดีเสด็จนิวัติประเทศไทยเป็นการถาวร เมื่อพ.ศ. 2544

[แก้] พระกรณียกิจ

[แก้] ด้านการส่งเสริมและช่วยเหลือ

ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาฯ ในงานสโมสรสันนิบาต เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดีทรงปฏิบัติพระกรณียกิจด้านการช่วยเหลือราษฎรใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข ทรงตั้งพระทัยแน่วแน่ที่จะพระราชทานความช่วยเหลือในการบรรเทาความเดือดร้อนทุกข์ยากดังกล่าว จึงทรงพระกรุณาพระราชทานกำเนิดมูลนิธิชีวิตสดใสให้เป็นองค์การสาธารณกุศล โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ

  • ส่งเสริมการสังคมสงเคราะห์ การศึกษา การกีฬา สุขภาพอนามัย และการศาสนา
  • ส่งเสริมสนับสนุนและร่วมมือกับรัฐบาล เอกชน และองค์การการกุศลอื่น ๆ ในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนและความยากจนของประชาชน
  • ดำเนินกิจกรรมในการช่วยเหลือเด็ก เยาวชน และประชาชนในด้านเศรษฐกิจและสังคมให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถช่วยตัวเองและพึ่งตัวเองได้
  • ดำเนินกิจกรรมในการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ความเดือดร้อนและความยากจนของประชาชน
  • ไม่ดำเนินการเกี่ยวข้องกับการเมืองแต่ประการใด

จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ก่อตั้งมูลนิธิชีวิตสดใสขึ้นเพื่อดำเนินการความช่วยเหลือราษฎรษร์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขกลับมามีความร่วมกันสามัคคีและสงบสุขมากขึ้น โดยทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดีจะทรงทอดพระเนตรชีวิตความเป็นอยู่ของ3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และทรงช่วยเหลือช่วยเหลือราษฎรษร์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีความอยากลำบาก เพื่อให้ราษฎรษร์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีร่วมสุขและสามัคคีกันจนทั่วถึง

[แก้] ด้านการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ

เมื่อปี พ.ศ. 2549 ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี มีพระดำรัสให้ครอบครัวผู้ประสบภัยสึนามิ มีพลังใจเข้มแข็งต่อสู้ชีวิต พร้อมขอบคุณรัฐบาลที่ช่วยให้เห็นถึงความมีน้ำใจของคนไทย ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี มีพระดำรัสหลังเป็นประธานเปิดงานพิธีรำลึก 2 ปี สึนามิ ณ บริเวณหาดบางเนียง ตำบลคึกคัก อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ว่า ในปี 2549 ถือเป็นปีที่ 2 ของการจัดงานรำลึกถึงผู้ที่สูญเสียที่ซึ่งเป็นที่รักจากภัยพิบัติสึนามิ ทั้งนี้ งานดังกล่าวได้มีการเชิญผู้ที่ประสบด้วยตนเอง และครอบครัวของผู้สูญเสียเข้าร่วมรำลึกถึงเหตุการณ์ด้วย โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้ยังมีส่วนนำพาให้ชีวิตของคุณพุ่ม เจนเซ่น โอรสทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ซึ่งเป็นที่รักของปวงชนชาวไทยต้องจากไป จึงทำให้เข้าใจถึงความรู้สึกสูญเสียดังกล่าว ดังนั้น จึงขอให้ผู้ที่ประสบภัยรวมทั้งครอบครัวของผู้ที่สูญเสียบุคคลซึ่งเป็นที่รัก นำเอาความสูญเสียและความทรงจำในอดีต เก็บไว้เพียงแต่สิ่งที่ดีเพื่อเป็นพลังใจอันเข้มแข็งต่อสู้ดำเนินชีวิตต่อไป

นอกจากนี้ ต้องขอขอบคุณรัฐบาลที่ช่วยจัดงาน ซึ่งนอกจากจะมีส่วนช่วยแสดงให้เห็นถึงความช่วยเหลือเกื้อกูลและความไม่ทอดทิ้งกันแล้ว ยังแสดงถึงการมีน้ำใจของคนไทยที่ให้แก่กันด้วยส่วนที่จังหวัดภูเก็ตได้มีนักท่องเที่ยวและประชาชนจำนวนมากมาร่วมงาน Light Up Phuket ซึ่งจัดโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้เขต 4 และเทศบาลเมืองป่าตอง โดยทุกคนได้ร่วมกันวางพวงหรีดไว้อาลัยถึงผู้ที่จากไปจากเหตุการณ์สึนามิ จุดเทียนในหลุมทรายริมหาดป่าตองจำนวน 2หมื่นหลุม และปล่อยโคมลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า เพื่อรำลึกถึงผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สึนามิครบรอบ 2 ปีด้วย

[แก้] ด้านศาสนา

ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดีทรงปฏิบัติพระกรณียกิจทางศาสนา หลายครั้ง ตามคำกราบบังคมทูลเชิญของคณะบุคคลต่างๆ หรือส่วนพระองค์ อยู่เป็นประจำ อาทิเช่นงานพระราชทานเพลิงศพจากบุคลคลสำคัญที่เสียชีวิตลง พิธีมหาพุทธาพิเษก งานเททองหล่อพระพุทธรูป พิธีตัดหวายลูกนิมิต พระอุโบสถ ของวัดต่างๆ การบำเพ็ญพระกุศลถวายแด่ คุณพุ่ม เจนเซน ณ พระอุโบสถวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ถนนอัษฏางค์ เนื่องในวันเกิดและวันถึงแก่อนิจกรรม เป็นประจำ

และพระองค์ทรงมีพระกรุณาธิคุณได้เด็จทรงร่วมงานพิธีหล่อเทียนพรรษา และงานบำเพ็ญกุศลเนื่องในวันเทศกาลเข้าพรรษาและวันอาสาฬหบูชาเป็นบางปี และงานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพร เนื่องในวันพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เป็นประจำทุกปี

[แก้] ด้านการศึกษา

ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงปฏิบัติพระกรณียกิจทางการศึกษา เป็นประจำทุกปี ตามคำกราบบังคมทูลเชิญของคณะบุคคลต่างๆหรือเสด็จเป็นการส่วนพระองค์ เช่น

การพระราชทานปริญญาบัตรจากมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยชื่อดังอาทิ เช่น วิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพและประกาศนียบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนสยามบริหารธุรกิจ(SBAC) โรงเรียนในเครือ THAI-TECH และพระราชทานต่อมาอีกหลายสถาบันเช่น ม.ปทุมธานี ม.ศรีปทุม ม.ธุรกิจบัณฑิต ม.นอร์ท-เชียงใหม่ เป็นต้น ซึ่งจะเสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีนี้เป็นประจำทุกๆปี

การทอดพระเนตรงานนิทรรศการเกี่ยวกับการส่งเสริมให้เยาวชนต้านภัยจากยาเสพติดของนักเรียนนักศึกษาในแต่ละโรงเรียนและสถาบันที่ร่วม โครงการและการดำเนินงานของโครงการทูบีนัมเบอร์วัน และการเสด็จเป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์เพื่อนใจวัยรุ่นและการทอดพระเนตรการดำเนินงานของโครงการทูบีนัมเบอร์วันของนักเรียนเป็นประจำทุกปี เพื่อเยาวชนของไทยได้รู้โทษของยาเสพติด

การพระราชทานเงินคุณพุ่มของมูลนิธิคุณพุ่มเพื่อไว้สำหรับเป็นทุนการศึกษาของเด็กออทิสติกและเด็กผู้ที่พิการมากำเนิดสามารถได้เรยีนเท่ากับคนอื่นได้

[แก้] ด้านการรณรงค์การแก้ไขปัญหายาเสพติด

ดูบทความหลักที่ โครงการทูบีนัมเบอร์วัน
สัญลักษณ์ประจำโครงการทูบีนัมเบอร์วัน

ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงมีความห่วงใยต่อประชาชนชาวไทยเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน อายุระหว่าง 6-25 ปี จำนวน 21 ล้านคน ซึ่งถือเป็นกลุ่ม เสี่ยงสูง ดังนั้นพระองค์จึงทรงก่อตั้งและทรงรับเป็นองค์ประธานโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดหรือโครงการทูบีนัมเบอร์วันประกอบด้วย 3 ยุทธศาสตร์ ได้แก่

  • การรณรงค์ปลุกจิตสำนึกและสร้างกระแสที่เอื้อต่อการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด
  • การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตให้แก่เยาวชนในชุมชน
  • การสร้างและพัฒนาเครือข่าย

เพื่อให้เยาวชนสามารถปลดปล่อยและห่างไกลจากยาเสพติดและเพื่อให้การรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดภายในประเทศดำเนินไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ โดยความร่วมมือ และรวมพลังจากภาครัฐและเอกชน กระตุ้นและปลุกจิตสำนึกของปวงชนในชาติให้มีความรู้ ความเข้าใจ และตระหนักว่าการที่จะเอาชนะปัญหายาเสพติดมิใช่หน้าที่ของบุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือองค์กรใดองค์กรหนึ่ง แต่ทุกคนในชาติจะร่วมแรงร่วมใจกันเป็นพลังของแผ่นดินที่จะต่อสู้และเอาชนะปัญหา ยาเสพติดให้ได้โดยเร็ว

[แก้] ด้านสาธารณสุข

เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2548 คุณพุ่ม เจนเซ่น ได้ถึงแก่กรรม โดยมีพระดำริเห็นว่าคุณพุ่ม เจนเซ่นซึ่งเป็นโรคออทิสติก ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดีทรงเห็นเด็กที่มีเป็นโรคออทิสติกเป็นบานกลางและไม่ได้เรียนหนังสือและศึกษาเล่าเรียน จนทำให้เป็นคนไม่ปกติ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ก่อตั้งมูลนิธิคุณพุ่มขึ้น เมื่อ พ.ศ. 2548

เพื่อทรงช่วยเหลือเด็กที่เป็นโรคออทิสติกนั้น ได้ฝึกให้เด็กที่เป็นโรคออทิสติก ได้ศึกษาเล่าเรียนและพัฒนาตนเองทางประสาทเพื่อให้เป็นคนปกติเหมือนคนทั่วไปได้ และบางปีพระองค์จะทรงพระราชทานเงินส่วนพระองค์ให้แก่เด็กที่เป็นโรคออทิสติก นำไปใช้จ่ายเป็นทุนการศึกษา เพื่อให้เด็กที่เป็นโรคออทิสติกได้พัฒนาตนเองสู่วัยปกติได้ต่อผู้อื่นและสังคมของเราได้ และนอกจากนี้ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ได้ทรงเป็นประธานในพิธีเปิดอาคารหรือพิธีวางศิลาฤกษ์ อาคารฝึกอบรมในเด็กออทิสติก และทอดพระเนตรการดำเนินการการฝึกอบรมของเด็กออทิสติกเพื่อให้คนที่เป็นเด็กโรคออทิสติก ได้เป็นคนปกติเหมือนคนทั่วไปในสังคมของเราให้ก้าวหน้าต่อไป

[แก้] ด้านอื่น

ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดีนอกจากจะทรงปฏิบัติพระกรณียกิจการช่วยเหลือประชาชน การส่งเสริมให้เยาวชนต้านภัยจากยาเสพติดแล้วทรงปฏิบัติพระกรณียกิจอื่นแล้วหลายครั้ง เช่น การวางศิลาฤกษ์ การเปิดอาคารของโครงการทูบีนัมเบอร์วัน การเปิดอาคารของมหาวิทยาลัยต่างๆ การประกวดการแข่งขันต่างๆ การเปิดงานที่เป็นการกุศล งานนิทรรศการ การแสดงโชว์เวทีต่างๆ เป็นต้น ตามคำกราบบังคมทูลเชิญเสด็จและเสด็จเป็นการส่วนพระองค์ ทุกครั้ง

[แก้] พระปรีชาสามารถ

[แก้] ด้านการแสดงละคร

เมื่อปีพ.ศ. 2546 ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ได้ทรงละครครั้งแรกของพระองค์ท่าน คือ "กษัตริยา" และ "มหาราชกู้แผ่นดิน" ตามคำกราบบังคมทูลเชิญแสดงละครของบริษัทกันตนาจำกัด โดยได้ออกทางโทรทัศน์ทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ เวลา 19.30 น. ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก และในปีพ.ศ. 2549ได้ทรงแสดงนำในละครเรื่อง "อนันตาลัย" ซึ่งได้ทรงประพันธ์เค้าโครงเรื่องด้วยพระองค์เองโดยใช้พระนามแฝงว่า " พลอยแกมเพชร"(จากบทประพันธ์ของกันตา) ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ไอทีวี โดยทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เป็นพระบรมวงศานุวงศ์พระองค์แรกซึ่งได้ทรงเป็นดาราและทรงเล่นละครด้วยพระองค์เอง

[แก้] การออกรายการโทรทัศน์

ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ได้เสด็จมาทรงถ่ายรายการโทรทัศน์ที่เกี่ยวกับพระองค์เป็นประจำ ตามคำกราบทูลเชิญคณะบุคคลต่างๆ เพื่อออกเผยแพร่ทางโทรทัศน์ โดยเฉพาะรายการที่พระองค์ทรงออกรายการทางโทรทัศน์อยู่เป็นประจำเป็นรายการที่มีความรู้และสาระต่างๆ ที่ประชาชนได้รับชมอยู่จนถึงปัจจุบัน มีทั้งหมด 2 รายการ มีดังนี่

เมื่อปีพ.ศ. 2550ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ได้เสด็จมาทรงถ่ายรายการโทรทัศน์เป็นรายการแรก คือ รายการทูบีนัมเบอร์วัน วาไรตี้ เป็นรายการที่เน้นเกี่ยวกับสาระความรู้ จิตใจและการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ในการห่างไกลยาเสพติด ซึ่งผลิตโดย โครงการทูบีนัมเบอร์วันและกรมสุขภาพจิต ซึ่งพระองค์จะออกรายการทางโทรทัศน์ คือ ช่วง top to the princess หรือช่วงการตอบจดหมายของทางบ้าน ที่เกี่ยวกับเรื่องโครงการรณรงค์การแก้ไขและป้องกันปัญหายาเสพติดทุกครั้งที่เยาวชนได้เขียนจดหมายส่งไป โดยพระองค์จะทรงอ่าน เลือกจดหมายที่เยาวชนเขียนมา จะได้ออกทางโทรทัศน์และได้ทรงแนะนำเกี่ยวกับเรื่องการห่างไกลยาเสพติด ซึ่งรายการทูบีนัมเบอร์วัน วาไรตี้จะออกอากาศทุกวันเสาร์ เวลา 20.30 น.- 21.30 น. ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย

และเมื่อปีพ.ศ. 2551ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ได้ทรงถ่ายทำรายการโทรทัศน์เป็นรายการที่สอง คือ รายการPrincess Diary เป็นรายการสารคดีที่เกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของต่างประเทศนำมาฉายให้ประชาชนได้รับชมและนอกจากนี้ยังมีดารามารับเชิญร่วมถ่ายทำด้วย ในรายการ เพื่อที่ประชาชนที่ได้ดูรายการนี้จะได้ความรู้เกี่ยวกับสถานที่ที่สำคัญของและประเทศ ปัจจุบัน รายการนี้เปลี่ยนรูปแบบใหม่เป็นการสัมภาษณ์ดารารับเชิญในห้องส่ง ซึ่งจะออกอากาศทุกวันศุกร์ เวลา 23.05 - 24.00 น. ทาง โมเดิร์นไนน์ ทีวี

นอกจากที่พระองค์จะทรงออกรายการโทรทัศน์เป็นประจำอยู่แล้ว พระองค์ยังได้ทรงรับเชิญพิเศษออกรายการโทรทัศน์ และทรงรับเชิญมาทรงออกโฆษณาพิเศษมาแล้วด้วย

[แก้] การแสดงภาพยนตร์

ภาพงานแถลงข่าวเรื่อง หนึ่งใจ..เดียวกัน ที่เมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส

เมื่อปี พ.ศ. 2551 ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ได้ทรงถ่ายภาพยนตร์เรื่อง หนึ่งใจเดียวกัน เป็นภาพยนตร์ที่ทรงแสดงด้วยพระองค์เองอย่างมีพระอัจฉริยภาพ สำหรับภาพยนตร์ที่พระองค์ทรงแสดงนี้เป็น ภาพยนตร์แนวดราม่า สร้างสรรค์สังคม จากบทพระนิพนธ์ "เรื่องสั้นที่...ฉันคิด" ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ภาพยนตร์ทำรายได้ 50 ล้านบาท[3]

ต่อมาพระองค์ยังทรงแสดงในภาพยนตร์เรื่อง มายเบสต์บอดีการ์ด และ พระนางจามเทวี[4]

[แก้] ด้านการกีฬา

ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงมีพระปรีชาสามารถในกีฬา โดยเฉพาะกีฬาเรือใบ โดยทรงลงแข่งกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการทรงเรือ อย่างทรงพระสำราญอยู่เสมอ เมื่อทรงแปรพระราชฐานยังพระราชวังไกลกังวลอ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ในประเภท โอ.เค.ในฐานะนักกีฬาทีมชาติไทยคราวที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาแหลมทองครั้งที่ ๔ ในพุทธศักราช ๒๕๑๐

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงแข่งขันกีฬาเรือใบในฐานะนักกีฬาทีม แล้วได้ทรงแข่งขันจนชนะเลิศการแข่งขันเรือใบชาติไทยและทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาฯก็ได้ทรงเข้าร่วมการแข่งขันด้วย ผลการแข่งขันปรากฏว่า ทรงทำคะแนนรวมได้เป็นที่ 1 เสมอด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และได้รับพระราชทานเหรียญทองจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จึงทรงครองเหรียญทองร่วมกันกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คราวใน งานกีฬาแหลมทองครั้งที่ ๔ ณ สนามศุภชลาศัย กรีฑาสถานแห่งชาติ เมื่อวันที่ ๑๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๐

อันแสดงถึงพระปรีชาสามารถในกีฬาเรือใบของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ให้เป็นที่ประจักษ์และยังคงเป็นที่กล่าวขวัญถึงจนทุกวันนี้

[แก้] ด้านการร้องเพลง

ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี

ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงมีพระปรีชาสามารถในด้านการร้องเพลง มีตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ ซึ่งได้ทรงขับร้องเพลงในประเภทเพลงพิเศษ

ปัจจุบันพระองค์ทรงร้องพิเศษ โดยได้ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เป็นผู้ถวายงานเบื้องหลังซึ่งได้ทรงขับร้องและทำนองแบบมิวสิคด้วยพระองค์เองซึ่งมีเพลงที่ขับร้องหลายเพลงอาทิ เช่น เพลงประจำโครงการทูบีนัมเบอร์วัน เพลงประกอบละคร และเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องหนึ่งใจ...เดียวกันซึ่งมีประชาชนได้รู้จักเพลงนี้เป็นอย่างดี และซึ่งเป็นพระบรมวงศานุวงศ์แห่งพระราชวงศ์จักรีวงศ์พระองค์แรกซึ่งทรงขับร้องเพลงและทำนองเพลงแบบมิวสิคด้วยพระองค์เอง

[แก้] พระเกียรติยศ

[แก้] เครื่องราชอิสริยาภรณ์

[แก้] เครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย

[แก้] เครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ

[แก้] พระอิสริยยศ

ในกาลปัจจุบันหมายบัตรราชการกำหนดให้ออกพระนามว่า ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เนื่องด้วยคำนำหน้าพระนาม ทูลกระหม่อม เป็นคำอย่างลำลองสำหรับออกพระนาม สมเด็จพระเจ้าพระเจ้าลูกเธอ และสมเด็จพระลูกยาเธอ ที่ประสูติสมเด็จพระอัครมเหสี และพระภรรยาเจ้าชั้นลูกหลวง อาทิ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ข้าทูลละอองพระบาท จะออกพระนาม ทูลกระหม่อมเล็ก เป็นต้น

[แก้] เครื่องอิสริยยศ

เมื่อที่ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ขณะพระยศเป็นสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าหญิง ได้ทรงมีเครื่องอิสริยยศประจำพระองค์ ทรงได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และภายหลังเมื่อทรงลาออกฐานันดรศักดิ์แห่งราชวงศ์ เป็นศักดิ์ ท่านผู้หญิง แล้วได้คืนเครื่องอิสริยยศประจำพระองค์ และจนกระทั่งเมื่อปี พ.ศ. 2544 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ พระราชทานอิสริยยศเป็น ทูลกระหม่อมหญิง แด่ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี และโปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องอิสริยยศประจำพระองค์ โดยอนุโลมตามราชประเพณี ในฐานะที่พระองค์ทรงเป็นพระราชธิดาพระองค์ใหญ่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และทรงเป็นเจ้าฟ้าฝ่ายใน และเครื่องอิสริยยศ ของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี มีดังต่อไปนี้

  • พระสุพรรณบัฎ พร้อมหีบทองคำลงยาราชาวดี ประดับตราพระปรมาภิไธยย่อ ภปร. ประดับเพชร
  • พานพระศรีทองคำลงยาราชาวดี พร้อมจอกทองคำลงยาราชาวดี ผอบทองคำลงยาราชาวดียอดปริกประดับเพชร ซองพลูทองคำขอบบนล่างประดับทับทิม และมีตลับภู่ประดับทับทิมกับเพชร ไม้ควักพระกรรณ ไม้แคะพระทนต์ และพระกรรบิดทองคำลงยาราชาวดีประดับทับทิม
  • หีบพระศรีทองคำลงยาราชาวดีประดับตราพระจุลมงกุฎ มีลูกหีบสามหีบ พร้อมพานรองลงยาราชาวดี
  • พระสุพรรณศรีทองคำลงยาราชาวดี
  • พระภิงคารทองคำลงยาราชาวดี พร้อมพานรองลงยาราชาวดี
  • ขันพระสุธารสทองคำลงยาราชาวดี ที่ขอบประดับทับทิม พร้อมพานรองลงยาราชาวดี กับจอกทองคำลงยาราชาวดี
  • ขันสรงพระพักตร์ทองคำลงยาราชาวดี พร้อมพานรองลงยาราชาวดีขอบประดับทับทิม กับคลุมปัก
  • ที่พระสุธารสชาทองคำสลักลาย ประกอบด้วย กาพระสุธารสชาทองคำสลักลาย ถ้วยพระสุธารสชาทำจากหยก มีถาดทองคำสลักลาย
  • กาพระสุธารสทองคำสลักลาย ทรงกระบอก พร้อมพานรอง ทองคำสลักลาย

[แก้] รางวัลสูงสุด

ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงได้รับรางวัลอันทรงสูงสุดต่อประเทศไทยและนานาชาติ ซึ่งรางวัลที่ทรงได้รับ ทำให้ประชาชนทุกหมู่เหล่าได้มีความปราบปรื้มปิติยินดีเป็นอย่างยิ่งที่พระองค์ทรงทำเพื่อประชาชน มีดังต่อไปนี้

[แก้] ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์

[แก้] สถานที่อันเนื่องด้วยพระนาม

[แก้] สถาบันการศึกษา

[แก้] มูลนิธิ

[แก้] การคมนาคม


[แก้] ศาสนสถาน

[แก้] สถานที่ท่องเที่ยว

[แก้] ราชตระกูล

พระราชตระกูลในสามรุ่นของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี

ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี
พระชนก:
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
พระอัยกาฝ่ายพระชนก:
สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก
พระปัยกาฝ่ายพระชนก:
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระปัยยิกาฝ่ายพระชนก:
สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า
พระอัยยิกาฝ่ายพระชนก:
สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
พระปัยกาฝ่ายพระชนก:
พระชนกชู
พระปัยยิกาฝ่ายพระชนก:
พระชนนีคำ
พระชนนี:
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
พระอัยกาฝ่ายพระชนนี:
พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้านักขัตรมงคล กรมหมื่นจันทบุรีสุรนาถ
พระปัยกาฝ่ายพระชนนี:
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ากิติยากรวรลักษณ์ กรมพระจันทบุรีนฤนาถ
พระปัยยิกาฝ่ายพระชนนี:
หม่อมเจ้าอัปสรสมาน เทวกุล
พระอัยยิกาฝ่ายพระชนนี:
หม่อมหลวงบัว กิติยากร
พระปัยกาฝ่ายพระชนนี:
เจ้าพระยาวงษานุประพัทธ
พระปัยยิกาฝ่ายพระชนนี:
ท้าววนิดาพิจาริณี

[แก้] อ้างอิง

  1. ^ ราชกิจจานุเบกษา, คำแถลงการณ์ประสูติ, เล่ม ๖๘, ตอน ๒๓ ง, ๑๐ เมษายน พ.ศ. ๒๔๙๔, หน้า ๑๖๓๕
  2. ^ ราชกิจจานุเบกษา,พระบรมราชโองการ ประกาศ ลาออกจากฐานันดรศักดิ์, เล่ม ๘๙, ตอน ๑๑๒ ก ฉบับพิเศษ, ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๑๕, หน้า ๑
  3. ^ มยุรี อำนวยพร, ที่สุดของหนังเด่น-หนังโดนแห่งปี dailynews.co.th
  4. ^ 4 หนังไทยใหม่เปิดตัวที่เมืองคานส์ thaicinema.org
  5. ^ ราชกิจจานุเบกษา,แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์มหาจักรีบรมราชวงศ์, เล่ม ๗๘, ตอน ๑๐๔ ง ฉบับพิเศษ, ๑๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๐๔, หน้า ๑๗
  6. ^ ราชกิจจานุเบกษา,ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๑๒๒, ตอน ๒๐ ข ฉบับทะเบียนฐานันดร, ๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๘, หน้า ๒

[แก้] ดูเพิ่ม