ฟุตบอลทีมชาติไทย
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
- หน้านี้สำหรับทีมฟุตบอลชาย สำหรับทีมหญิงดูได้ที่ ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย
ฉายา | ช้างศึก | ||
---|---|---|---|
สมาคม | สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ | ||
สมาพันธ์ | เอเอฟซี (ทวีปเอเชีย) | ||
หัวหน้าผู้ฝึกสอน | ไบรอัน ร็อบสัน | ||
ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน | อรรถพล บุษปาคม | ||
กัปตัน | ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ | ||
ติดทีมชาติสูงสุด | เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง (130) by fifa | ||
ทำประตูสูงสุด | เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง (69) by fifa | ||
สนามเหย้า | ราชมังคลากีฬาสถาน | ||
รหัสฟีฟ่า | THA | ||
อันดับฟีฟ่า | 98 | ||
อันดับฟีฟ่าสูงสุด | 43 (กันยายน พ.ศ. 2541) | ||
อันดับฟีฟ่าต่ำสุด | 137 (ธันวาคม พ.ศ. 2549) | ||
อันดับอีแอลโอ | 92 | ||
อันดับอีแอลโอสูงสุด | 62 (มกราคม พ.ศ. 2544) | ||
อันดับอีแอลโอต่ำสุด | 137 (เมษายน พ.ศ. 2528) | ||
|
|||
เกมระดับนานาชาติครั้งแรก | |||
เวียดนามใต้ 3 - 1 ไทย (เวียดนามใต้; พ.ศ. 2499) |
|||
ชนะสูงสุด | |||
ไทย 10 - 0 บรูไน (กรุงเทพ, ไทย; 24 พฤษภาคม, พ.ศ. 2514) |
|||
แพ้สูงสุด | |||
อังกฤษสมัครเล่น 9 - 0 ไทย (เมลเบิร์น, ออสเตรเลีย; 26 พฤศจิกายน, พ.ศ. 2499) |
|||
เอเอฟซี เอเชียนคัพ | |||
เข้าร่วม | 6 (ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2515) | ||
ผลงานดีที่สุด | อันดับ 3, พ.ศ. 2515 |
ฟุตบอลทีมชาติไทย เป็นทีมฟุตบอลตัวแทนของประเทศไทยของทีมชาย ในการแข่งขันระดับนานาชาติ ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2458 บริหารทีมโดย สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยในปัจจุบัน ทีมชาติไทย ยังไม่มีผลงานที่โดดเด่นในระดับโลก ซึ่งทีมไทยยังไม่เคยได้เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลก แต่ได้เข้าร่วมแข่งในกีฬาโอลิมปิก 2 ครั้ง ส่วนในระดับทวีปเอเชียนั้น ทีมชาติไทย เคยได้อันดับสูงสุดคืออันดับที่ 3 ในเอเชียนคัพ 1972 ในปี พ.ศ. 2515 ที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพ และในเอเชียนเกมส์ ทีมไทยได้เข้าร่วม 4 ครั้ง โดยได้อันดับสูงสุดคือได้เข้าร่วมในรอบสี่ทีมสุดท้ายพ.ศ. 2541 โดยที่เอาชนะเกาหลีใต้2-1ได้จากเกียรติศักดิ์ เสนาเมืองและในน่อเวลาได้จากธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูลในนาทีที่95 ส่งผลให้เกาหลีใต้ตกรอบ ส่วนการแข่งขันในระดับภูมิภาคอาเซียนนั้น ทีมไทยเป็นแชมป์ซีเกมส์ 13 ครั้ง อาเซียนฟุตบอลแชมเปียนชิพ 3 ครั้ง และคิงส์คัพที่จัดขึ้นในประเทศไทย 12 ครั้ง
ล่าสุดทีมชาติไทยได้เหรียญทองในซีเกมส์ 2007 หลังจากชนะทีมชาติพม่า 2 ประตูต่อ 0 ส่วนในด้าน ฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก ทีมไทยผ่านเข้าสู่รอบที่ 3 โดยจับฉลากแข่งสายเดียวกับ ญี่ปุ่น โอมาน และ บาห์เรน
[แก้] ประวัติทีมชาติไทย
[แก้] เริ่มต้นทีมชาติไทย
ฟุตบอลทีมชาติไทยก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2458 ซึ่งในขณะนั้นทีมชาติถูกเรียกว่า คณะฟุตบอลสำหรับชาติสยาม โดยได้ทำการลงแข่งเป็นครั้งแรกกับทีมฝ่ายยุโรปในประเทศไทย เมื่อวันเสาร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2458 ที่ สนามราชกรีฑาสโมสร หลังจากนั้นหนึ่งปีต่อมา ปี 2459 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสถาปนา สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยขึ้นในชื่อ "สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศสยาม" ในปี 2473 ทีมชาติไทยได้ถูกเชิญไปเล่นที่อินโดจีนต้อนรับการเสด็จประพาสอินโดจีนของ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งนับเป็นการแข่งขันครั้งแรกของทีมชาติไทยในต่างประเทศ โดยได้แข่งขันทั้งหมด 4 นัด ระหว่างวันที่ 14-20 เมษายน โดยแข่งกับทีมที่ทางชาติอินโดจีนซึ่งเป็นทีมที่มีผู้เล่นผสมผสานระหว่างชาวเวียดนามกับชาวฝรั่งเศส
[แก้] เข้าสู่ระดับโลก
ปี | สมาคม |
---|---|
2459 | ก่อตั้ง |
2468 | ฟีฟ่า |
2500 | เอเอฟซี |
2537 | เอเอฟเอฟ |
ในปี พ.ศ. 2499 พล.ต. เผชิญ นิมิบุตร ซึ่งเป็นนายกสมาคม ได้มีการหาผู้เล่นจากหลายสโมสรเพื่อจัดตั้งทีมที่จะลงแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 16 ซึ่งถูกจัดขึ้นที่เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย โดยเป็นครั้งแรกของทางทีมที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมใน กีฬาโอลิมปิก ในการแข่งขันนั้นเป็นการแข่งขันแบบแพ้คัดออก ทีมไทยจับฉลากได้แข่งกับ ทีมชาติสหราชอาณาจักร (ซึ่งมักจะเข้าใจผิดว่าเป็นทีมชาติอังกฤษ) ใน วันที่ 26 พฤศจิกายน โดยทีมไทยพ่ายแพ้ไป 9 ประตูต่อ 0 ซึ่งเป็นสถิติแพ้สูงสุดของทีมไทยจวบจนปัจจุบันนี้ โดยในรอบที่สอง ทีมสหราชอาณาจักรก็พ่ายแพ้ให้กับทีมชาติบัลแกเรีย 6 ประตูต่อ 1 โดยทีมชาติบัลแกเรียได้เหรียญทองแดง ทีมชาติยูโกสลาเวีย ได้เหรียญเงิน และทีมชาติโซเวียตได้เหรียญทองไปครอง[1] ภายหลังจากการแข่งขัน หนังสือพิมพ์สยามนิกร ฉบับวันที่ 28 พฤศจิกายน ได้พาดหัวข่าวหน้ากีฬาว่า "ทีมชาติอังกฤษเฆี่ยนทีมชาติไทย 9 - 0" ซึ่งภายหลังจบการแข่งขัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงได้ส่ง พล.ต.ดร.สำเริง ไชยยงค์ นักฟุตบอลในชุดโอลิมปิกนั้น ไปศึกษาพื้นฐานการเล่นฟุตบอลจากประเทศเยอรมนีเพื่อให้กลับมาสอนการเล่นฟุตบอลให้แก่ทีมไทย
ในปี 2508 ทีมชาติไทยได้เหรียญทองในการแข่งขันฟุตบอลในกีฬาแหลมทอง (หรือซีเกมส์ในปัจจุบัน) เป็นครั้งแรก โดยการแข่งขันครั้งนั้นถูกจัดขึ้นที่ เมืองกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย และต่อมาไทยยังคงได้แชมป์ซีเกมส์อีกหลายครั้ง โดยรวมทังสิ้น 12 ครั้ง และอีกสามปีต่อมา ในปี 2511 ทีมไทยได้เข้าร่วมโอลิมปิกอีกครั้ง โดยเป็นโอลิมปิกครั้งที่ 19 ซึ่งจัดขึ้นที่ เมืองเม็กซิโกซิตี ประเทศเม็กซิโก ในคราวนี้เป็นการแข่งขันแบบจับกลุ่มกลุ่มละสี่ทีม ทีมไทยแพ้สามครั้งติดต่อกัน โดยแพ้ให้กับ ทีมชาติบัลแกเรีย 7 ประตูต่อ 0, ทีมชาติกัวเตมาลา 4 ประตูต่อ 1 และ ทีมชาติเช็กโกสโลวาเกีย 8 ประตูต่อ 0 ทำให้ทีมไทยตกรอบแรกในการแข่งขัน ซึ่งผู้ชนะในคราวนี้ คือทีมชาติฮังการี ได้เหรียญทองไปครอง
ในปี 2515 ประเทศไทยได้มีโอกาสเป็นเจ้าภาพการแข่งขันฟุตบอล เอเชียนคัพ 1972 ซึ่งเป็นการจัดการแข่งขันเอเชียนคัพครั้งที่ 5 โดยในการแข่งขันนี้ ทีมชาติไทยได้อันดับที่ 3 โดยยิงลูกโทษชนะทีมชาติกัมพูชา 5 ประตูต่อ 3 ภายหลังจากเสมอกัน 2 ต่อ 2 ซึ่งในการแข่งขันนี้ ทีมชาติอิหร่าน ชนะเลิศ และทีมชาติเกาหลีใต้ ได้รางวัลรองชนะเลิศตามลำดับ
ในปี 2519 ประเทศไทยได้แชมป์คิงส์คัพครั้งแรก โดยเป็นแชมป์ร่วมกับ ทีมชาติมาเลเซีย ภายหลังจากที่มีการเริ่มมีการจัดคิงส์คัพในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2511 โดยต่อมาทีมชาติไทยได้เป็นแชมป์คิงส์คัพอีกหลายครั้งรวมทั้งสิ้น 10 ครั้งด้วยกัน
สำหรับการแข่งขันในเอเชียนเกมส์ ทีมชาติไทยยังไม่สามารถที่จะชนะเลิศได้ โดยความสำเร็จสูงสุดคือเข้ารอบสี่ทีมสุดท้าย ในการแข่งขันเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 11 ที่จัดขึ้นที่ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ในปี พ.ศ. 2533 เช่นเดียวกับ เอเชียนเกมส์ครั้งที่ 13 ที่จัดขึ้นที่ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2541 และ เอเชียนเกมส์ครั้งที่ 14 ที่จัดขึ้นที่ ปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ ในปี พ.ศ. 2545และครั้งล่าสุดเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 15 ที่จัดขึ้นที่ โดฮา ในปี พ.ศ. 2549 ทีมชาติไทยก็เป็นทีมเดียวในย่านอาเซียนที่ผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ(8 ทีมสุดท้าย) ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมเข้ารอบโดยเป็นที่ 1 ของกลุ่มซี
ในปี 2537 ไทยได้ร่วมก่อตั้งสหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน กับอีก 9 ประเทศในภูมิภาคอาเซียน และนอกจากนี้ ประเทศไทยได้มีการเชิญสโมสรชั้นนำจากทั่วโลก มาแข่งขันกับในประเทศไทยหลายครั้ง ได้แก่ เอฟซีปอร์โต (2540) อินเตอร์มิลาน (2540) โบคาจูเนียร์ (2540) ลิเวอร์พูล (2544) นิวคาสเซิลยูไนเต็ด (2547) เอฟเวอร์ตัน (2548) โบลตันวันเดอร์เรอร์ (2548) แมนเชสเตอร์ซิตี (2548 ที่ไทย และ 2550 ที่อังกฤษ[2]) และสโมสรชั้นนำอื่น ๆ และในปี 2551 ไทยตกรอบฟุตบอลรอบคัดเลือก รอบ 20ทีมสุดท้าย โดยได้อยู่สายเดียวกับทีมอย่าง ญี่ปุ่น โอมาน บาห์เรน โดยไทยแข่ง6นัด ไม่ชนะใครเลย แพ้5เสมอ1 ทำให้ชาญวิทย์ ผลชีวิน ลาออกจากตำแหน่ง หลังจากนั้นไม่นาน ปีเตอร์ รีด อดีตนักเตะเอฟเวอร์ตันและทีมชาติอังกฤษ ก็เข้ามารับตำแหน่งแทนแต่ไทย ก็พลาดแชมป์ อาเซียน คัพ โดยการแพ้เวียดนามรวมผลสองนัด 3-2 และยังพลาดคิงส์ คัพ อีกรายการหนึ่งโดยดวลจุดโทษแพ้ เดนมาร์ก จนถึงช่วงเดือนกันยายน ปี 2552 ปีเตอร์ รีด ถูกปลดออกจากตำแหน่งเนื่องจากอนาคตที่ไม่แน่นอนในการคุมทีมชาติเพราะรีด มีข่าวว่าจะไปทำงานที่สโมสร สโต๊ค ซิตี้ โดยเป็นผู้ช่วยของ โทนี่ พูลิส ผู้จัดการทีมสโต๊ค ซิตี้
[แก้] การวิพากษ์วิจารณ์
ทีมชาติไทยเคยสร้างความอัปยศโดยพยายามแข่งกันแพ้กับทีมอินโดนีเซียในการแข่งขันไทเกอร์คัพ 1998 ที่โฮจิมินห์ซิตี ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2541 เนื่องจากทั้งสองทีมเข้ารอบรองชนะเลิศแน่นอนแล้ว แต่ผู้ชนะซึ่งจะเป็นที่หนึ่งของกลุ่ม A จะต้องเดินทางไปแข่งในรอบรองชนะเลิศกับทีมชาติเวียดนามที่ฮานอยในวันชาติเวียดนาม ครึ่งแรกต่างฝ่ายต่างพยายามไม่ยิงประตู แต่หลังจากมีการพูดคุยกันระหว่างกรรมการและโค้ช ครึ่งหลังจึงทำประตูได้ทีมละสองประตู จนกระทั่งใกล้หมดเวลา นักเตะของอินโดนีเซียยิงเข้าประตูตัวเอง ทีมชาติไทยจึงชนะไป 3 : 2 ประตู การแข่งขันนัดนี้ทำให้ทั้งสองทีมถูกปรับเป็นเงิน 40,000 ดอลลาร์สหรัฐ [3][4][5]
[แก้] สนามเหย้า
-
ดูบทความหลักที่ ราชมังคลากีฬาสถาน
ราชมังคลากีฬาสถานเป็นสนามกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ปัจจุบันมีความจุทั้งสิ้น 65,000 ตั้งอยู่ที่บางกะปิ กรุงเทพ สนามสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2541 เพื่อใช้ในการแข่งขันเอเชียนเกมส์ 1998 และ ใช้เป็นสนามเหย้าของฟุตบอลทีมชาติไทยจนถึงปัจจุบัน
สนามอื่นๆ ที่สามารถใช้งานได้
|
[แก้] ชุดที่ใช้สำหรับการแข่งขัน
ชุดฟุตบอลทีมชาติไทยเดิมประกอบด้วย เสื้อสีแดง, กางเกงสีแดง และ ถุงเท้าสีแดง โดยชุดอันดับสองประกอบด้วย เสื้อสีน้ำเงิน, กางเกงสีน้ำเงิน และ ถุงเท้าสีน้ำเงิน
จนกระทั่ง ตุลาคม พ.ศ. 2550 ทีมชาติไทยได้ใช้เสื้อสีเหลือง สื่อถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และ ใช้กางเกงและถุงเท้าสีเหลือง เป็นชุดอันดับแรก เพื่อเฉลิมพระเกียรติ มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๐
[แก้] กำหนดการแข่งขัน และ ผลการแข่งขัน
-
ดูบทความหลักที่ ผลการแข่งขันฟุตบอลทีมชาติไทย
[แก้] ประวัติในการแข่งขันฟุตบอลโลก
[แก้] ฟุตบอลโลก 2010
-
ดูบทความหลักที่ ฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก - เอเอฟซี รอบที่ 3
จากการจับฉลากสำหรับรอบที่ 1 และ รอบที่ 2 ในการแข่งขันรอบคัดเลือกโซนเอเชีย เพื่อหาตัวแทนไปแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ โดยในรอบที่ 1 ทีมชาติไทยสามารถเอาชนะมาเก๊า ด้วยผลประตูรวม 13-2 และต้องพบกับเยเมนในรอบที่ 2 โดยทีมชาติไทยสามารถเอาชนะด้วยผลประตูรวม 2-1 โดยทีมชาติไทยถูกจับสลากให้อยู่ในกลุ่มเดียวกับญี่ปุ่น, บาห์เรน, และ โอมาน ในรอบแบ่งกลุ่มรอบแรก
[แก้] เอเอฟซีรอบที่ 3 : กลุ่ม 2
|
|
[แก้] สถิติฟุตบอลโลก
[แก้] ประวัติในการแข่งขันฟุตบอลโอลิมปิค(ใช้ทีมเยาวชนอายุไม่เกิน 23 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2535)
[แก้] สถิติเอเอฟซี เอเชียนคัพ
[แก้] สถิติเอเชียนเกมส์(ใช้ทีมเยาวชนอายุไม่เกิน 23 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2545)
[แก้] ประวัติการแข่งขันในอาเซียน[แก้] สถิติอาเซียนฟุตบอลแชมเปียนชิพการแข่งขันนี้เป็นที่รู้จักกันในชื่อไทเกอร์คัพ
[แก้] สถิติซีเกมส์(ใช้ทีมเยาวชนอายุไม่เกิน 23 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2544)
[แก้] เกียรติยศอื่นๆ
[แก้] ผลงานทีมชาติชุดเยาวชน
[แก้] รายชื่อผู้ฝึกสอนทีมชาติตั้งแต่ (พ.ศ. 2503–ปัจจุบัน)
[แก้] กัปตัน
[แก้] ผู้ทำประตูสูงสุดสถิติ ณ วันที่ 20 กุมภาพันธ์พ.ศ. 2552 [6]
[แก้] ผู้เล่นฟุตบอลทีมชาติไทย
รายชื่อผู้เล่นทีมฟุตบอลชาย 19 คน ที่ถูกเรียกตัวเพื่อเข้าแข่งขันเอเชียนคัพ 2011 รอบคัดเลือก กลุ่ม อี พบกับ อิหร่าน ในวันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2553[7] [แก้] ผู้เล่นที่เคยถูกเรียกติดทีมชาติรายชื่อผู้เล่นที่เคยถูกเรียกติดทีมชาติในรอบ 12 เดือน:
ถอนตัวเนื่องจากมีอาการบาดเจ็บ [แก้] ผู้เล่นที่โดดเด่นในอดีต
[แก้] ผู้จัดการทีม และ ผู้ฝึกสอน
[แก้] ทีมชาติไทยในวัฒนธรรมสมัยนิยมในวัฒนธรรมสมัยนิยม ทีมชาติไทยได้มีการถูกอ้างถึงในหลายสื่อ เช่น ภาพยนตร์หมากเตะรีเทิร์นส, ในการ์ตูนญี่ปุ่นกัปตันซึบาสะ และการ์ตูนไทย มหาสนุก รวมไปถึงยังมีการดัดแปลงเป็นตัวละครในวีดีโอเกมชื่อดังหลาย ๆ เกม เช่น เกมชุดแชมเปียนชิพเมเนเจอร์ เกมชุดฟุตบอลเมเนเจอร์ เกมชุดฟีฟ่า และเกมวินนิงอีเลฟเวนภาค 2000 ยู-23 และล่าสุดกับเกมโปร อีโวลูชั่น ซ็อคเกอร์ 2009 นอกจากนั้นแล้ว โปรแกรมเมอร์ชาวไทยบางคนยังได้นำเกมบางเกมเหล่านี้ เช่น วินนิงอีเลฟเวน หรือแชมเปียนชิพเมเนเจอร์ มาดัดแปลงเพื่อเพิ่มทีมชาติไทย นักฟุตบอลไทย และรายการการแข่งขันที่เกี่ยวข้องกับทีมชาติไทยลงไปอีกด้วย [แก้] หมากเตะรีเทิร์นสในภาพยนตร์หมากเตะรีเทิร์นส เรื่องราวของพงศ์นรินทร์ผู้ฝึกสอนฟุตบอลชาวไทยที่มีฝีมือควบคุมทีมระดับสูงกับน้าสาวเจ๊มิ่งที่ถูกหวยรางวัลที่ 1 โดยทั้งสองคนต้องการพาทีมฟุตบอลไทยไปแข่งฟุตบอลโลกโดยพร้อมที่จะใช้ค่าใช้จ่าย 192 ล้านบาทที่ได้มาจากรางวัล แต่ปรากฏว่าหลังจากคุยกับทาง "สมาพันธ์ฟุตบอลไทย" ทางสมาพันธ์ไม่เห็นด้วยไม่ยอมให้พงศ์นรินทร์มาเป็นผู้ฝึกสอน โดยได้แต่งตั้งให้ผู้ฝึกสอนชาวบราซิลมาควบคุมทีมแทน เจ๊มิ่งกับหลานชายเลยโมโหและเดินทางไป "ราชรัฐอาวี" ประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แทน และสนับสนุนทีมฟุตบอลราชรัฐอาวีจนในที่สุดทีมฟุตบอลอาวีได้ชนะผ่านเข้ารอบจนถึงรอบสุดท้าย และต้องตัดสินกับทีมชาติไทยที่นำโดยผู้ฝึกสอนชาวบราซิล เพื่อจะชิงสิทธิที่จะไปร่วมแข่งขันในฟุตบอลโลก [แก้] กัปตันซึบาสะในการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่องกัปตันซึบาสะ ทีมเยาวชนไทยได้แข่งขันกับทีมเยาวชนญี่ปุ่นในการแข่งขันฟุตบอลเอเชียเยาวชน โดยทีมไทยมีผู้เล่นหลัก สามพี่น้องนักตะกร้อ ฟ้าลั่น สกุล ชนะ กรสวัสดิ์ เล่นในตำแหน่งกองหน้า และมี บุนนาค สิงห์ประเสริฐ อดีตแชมป์มวยไทย ที่เล่นให้กับสโมสรแอทเลติโกมาดริดในสเปน ในตำแหน่งกองหลัง โดย เป็นกัปตันทีม และเป็นตัวกดดันซึบาสะจนเล่นไม่ออก ในครึ่งแรกนั้นทีมไทยนำทีมญี่ปุ่นถึง 4 ประตูต่อ 1 แต่ในช่วงครึ่งหลัง วากาบายาชิ และ อาโออิ ได้ลงเล่น ทำให้ญี่ปุ่นพลิกล็อกชนะไป 5 ประตูต่อ 4 (วากาบายาชิ ในขณะนั้น ถือว่าเป็นผู้รักษาประตูที่เหนียวมาก) โดยนิตยสารอะเดย์ฉบับที่ 70 ได้มีการกล่าวถึงการ์ตูนกัปตันซึบาสะ ที่ทีมชาติญี่ปุ่นได้แข่งกับทีมชาติไทยนี้ [แก้] มหาสนุกในหนังสือการ์ตูนไทยมหาสนุก ได้เคยมีเรื่องราวเกี่ยวกับฟุตบอลทีมชาติไทย โดยเขียนเป็นเรื่องสั้นมีภาพประกอบโดย เฟน สตูดิโอ พิมพ์ลงในมหาสนุก ฉบับกระเป๋า เล่มที่ 25 เดือน กรกฎาคม 2533 ปักษ์แรก เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ หนุ่มไทย 3 คน ที่ชอบเล่นฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจ แต่เนื่องจากไม่มีเงินซื้อลูกฟุตบอล จึงได้ฝึกเล่นฟุตบอลกับลูกมะพร้าวอยู่เป็นเวลานาน จนมาวันหนึ่ง ผู้จัดการทีมชาติไทยได้ขับรถเที่ยวต่างจังหวัด และได้เห็นฝึมือของทั้งสามคนนี้ จึงซื้อลูกฟุตบอลมาให้ พร้อมกับชวนไปเล่นเป็นตัวแทนทีมชาติไทย จนในที่สุด ทีมชาติไทยได้เข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ฟุตบอลไทย โดยในระหว่างการแข่งได้เจอกับคู่แข่งที่เก่งกาจไม่ว่านักเตะชื่อดัง อย่าง รุด กุลลิท, ฟาน บาสเทน, และ แกรี ลินิเกอร์ ผลการแข่งขันปรากฏว่าทีมไทยชนะ และผ่านไปถึงรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งในตอนจบนั้น ทีมชาติไทยกำลังจะทำประตูชนะการแข่งขัน แต่เกิดแผ่นดินไหวขึ้น และโลกระเบิด ทำให้ทีมไทยไม่ได้แชมป์บอลโลกในครั้งนั้น [แก้] ตำแหน่งชนะเลิศ
[แก้] อ้างอิง
[แก้] ดูเพิ่ม[แก้] แหล่งข้อมูลอื่น[แก้] เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
[แก้] เว็บไซต์สนับสนุนฟุตบอลไทย
|