สตีเฟน เจอร์ราร์ด

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

(เปลี่ยนทางมาจาก สตีเวน เจอร์ราร์ด)
สตีเวน เจอร์ราร์ด
Gerrard.jpg
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อเต็ม Steven George Gerrard
วันเกิด 30 พฤษภาคม ค.ศ. 1980
สถานที่เกิด วิสตัน อังกฤษ
ส่วนสูง 184 ซ.ม.
ชื่อเล่น/ฉายา Stevie G, Ginger, บักเจิด, หัวขิง
ตำแหน่ง กองกลางตัวรุก กองกลางตัวรับ กองกลางตัวรุกกราบขวา
ข้อมูลสโมสร
สโมสรปัจจุบัน ลิเวอร์พูล
หมายเลข 8
สโมสรเยาวชน
1989–1997 ลิเวอร์พูล
สโมสรอาชีพ*
ปี สโมสร ลงเล่น (ประตู)
1997–ปัจจุบัน ลิเวอร์พูล 436 (97)
ทีมชาติ**
2000–ปัจจุบัน อังกฤษ 65 (12)

* นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้ทีมสโมสร
นับเฉพาะลงเล่นในประเทศ
ข้อมูลล่าสุดวันที่ พฤษภาคม ค.ศ. 2008
** นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้ทีมชาติ
ข้อมูลล่าสุดวันที่ มีนาคม ค.ศ. 2008

สตีเวน จอร์จ เจอร์ราร์ด MBE[1](Steven George Gerrard) เกิดวันที่ 30 พฤษภาคม ค.ศ. 1980 เป็นนักฟุตบอลทีมชาติอังกฤษรับตำแหน่งรองกัปตันทีมชาติอังกฤษ ปัจจุบันเล่นให้กับสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล ถูกแต่งตั้งเป็นกัปตันทีม จากอดีตผู้จัดการทีม เชราร์ อุลลิเยร์ ในฤดูกาล 2003-2004 ใส่หมายเลข 8

เจอร์จาร์ดได้รับตำแหน่งเป็นส่วนหนึ่งของสมาชิกแห่งจักรวรรดิบริเตน โดยราชินีอังกฤษ ในวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2550

เนื้อหา

[แก้] ประวัติ

สตีเว่น เจอร์ราร์ด เป็นผลผลิตของโรงเรียนฟุตบอลลิเวอร์พูล (Liverpool Youth Academy) โดยเข้าร่วมสเป็นนักฟุตบอลเยาวชนของสโมสรตั้งแต่อายุ 9 ขวบ โดยเริ่มแรกเลยเขาเล่นมิดฟิลด์ทางด้านขวา และมิดฟิลด์ตัวกลาง

ฤดูกาล 1998-1999 เจอร์ราร์ดได้ลงเล่นในทีมชุดใหญ่ของลิเวอร์พูลเป็นนัดแรก ในนัดที่พบกับทีมเซลต้า บีโก้ ในแอนฟิลด์ โดยสิ้นสุดฤดูกาลนี้เขาลงเล่นให้ทีม 12 นัดซึ่งส่วนใหญ่ยังเป็นตัวสำรอง

ฤดูกาล 1999-2000 เจอร์ราร์ดได้มีโอกาสเล่นชุดใหญ่ของลิเวอร์พูลอย่างเต็มตัว โดยเขาลงเล่น 29 นัด ยิงได้ 1 ประตู ซึ่งเขาเปลี่ยนมาเล่นบทมิดฟิลด์ตัวปะทะ ทำให้ได้รับใบเหลือง และใบแดงบ่อยครั้ง

เจอร์ราร์ดถูกเรียกตัวติดทีมชาติอังกฤษเป็นครั้งแรก และมีชื่อติดทีมชาติอังกฤษชุดยูโร 2000 แต่เขาก็ได้แต่นั่งดูเกมในม้านั่งสำรองเท่านั้น

ฤดูกาล 2000-2001 เจอร์ราร์ดได้ลงเล่นในเกมลีก 33 นัด ยิงได้ 7 ประตู และลงเล่นในเกมยูฟ่าคัพอีก 9 นัดทำได้ 2 ประตู พาทีมลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ ลีกคัพ, ยูฟ่าคัพ และเอฟเอคัพ

ฤดูกาล 2001-2002 เจอร์ราร์ดลงเล่นในเกมลีก 28 นัดยิงได้ 3 ประตู และในเกมยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกอีก 12 นัดกับอีก 1 ประตู เขาได้รับรางวัลนักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี(Young Player of the Year award)

เจอร์ราร์ด ถูกเรียกตัวติดทีมชาติอังกฤษชุดลุยศึกฟุตบอลโลกที่ประเทศเกาหลีใต้ และญี่ปุ่น แต่เขาเกิดมีอาการบาดเจ็บทำให้ไม่สามารถเดินทางร่วมทีมไปแข่งขันฟุตบอลโลกได้

ฤดูกาล 2002-2003 เจอร์ราร์ดลงเล่นในเกมลีก 34 นัด ยิงได้ 5 ประตู และลงเล่นเกมยุโรปอีก 11 นัด และพาทีมคว้าแชมป์ลีกคัพโดยเอาชนะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดคู่ปรับตลอดกาล

ฤดูกาล 2003-2004 เจอร์ราร์ด ลงเล่นในเกมลีก 34 นัด ยิงได้ 4 ประตู และลงเล่นในเกมยูฟ่าคัพ 8 นัด ยิงได้ 2 ประตู

เจอร์ราร์ดถูกเรียกติดทีมชาติอังกฤษชุดลุยศึกยูโร 2004 ที่โปรตุเกส โดยพาทีมเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ก่อนพ่ายกับโปรตุเกสเจ้าภาพ

และในฤดูกาลนี้เจอร์ราร์ดได้รับแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีมคนใหม่ของลิเวอร์พูล แทนที่ซามี่ ฮูเปีย

ฤดูกาล2004-2005 เขาลงเล่นในเกมลีก 30 นัดทำได้ 7 ประตู และพาทีมลิเวอร์พูลเข้าชิงลีกคัพกับเชลซีแต่แพ้ไป3-2โดยเขาทำเข้าประตูตัวเองซึ่งเป็นประตูตีเสมอ1-1อีกด้วยแต่ก็สามารถพาทีมคว้าถ้วยยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก โดยเอาชนะทีมเอซีมิลานจากการดวลจุดโทษ ซึ่งในครึ่งแรกทีมเอซีมิลานนำอยู่ถึง 3-0 แต่ลิเวอร์พูลกลับมาตีเสมอ 3-3

ฤดูกาล2005-2006 ประตูตีเสมอ Westham United (3-3) ในรอบชิงชนะเลิศ English FA CUP ส่งให้ลิเวอร์พูลเป็นแชมป์ในท้ายที่สุด ประตูจากการยิงไกลระยะ 35 หลานี้เป็นหนึ่งในประตูยอดเยี่ยมของรอบชิงชนะเลิศตลอดกาล และทำให้สตีเฟน เจอร์ราร์ดเป็นนักเตะเพียงคนเดียวที่ทำประตูในรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วย 4 รายการใหญ่ League Cup กับ แมนฯ ยู , ยูฟ่าคัพ กับ อลาเบส , ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก กับ เอซี มิลาน และ เอฟเอคัพ กับ เวสต์แฮม

ฤดูกาล2006-2007 แม้จะช่วยให้ลิเวอร์พูลสามารถผ่านเชลซีได้ในรอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้ และเข้าชิงกับเอซี มิลานอีกครั้ง แต่ก็ต้องพ่ายไป 2-1 สำหรับถ้วยในประเทศก็มีเพียง แชร์ริตี้ชีลด์ กับเชลซีเท่านั้น

ฤดูกาล2007-2008 แม้ว่าลิเวอร์พูลจะไม่ได้แชมป์อะไรเลย แต่เจอร์ราร์ดสามารถทำประตูได้มากที่สุดในทีมเป็นรองแค่เฟอร์นานโด ตอร์เรส ดาวยิงคนใหม่ของทีมที่ค่าตัวแพงที่สุด โดยเจอร์ราร์ด กับ ตอร์เรส ช่วยทำประตูให้หงส์แดงหลายลูกเลยทีเดียว

ฤดูกาล2008-2009 เจอร์ราร์ดไม่สามารถพาทีมได้แชมป์อะไรเลย แต่เจอร์ราร์ดพาทีมหงส์แดงเล่นได้ดีที่สุดในฤดูกาลก็ว่าได้ เพราะลิเวอร์พูลผลงานในพรีเมียร์ลีกแม้ว่าจะได้แค่อันดับ 2 แต่ลิเวอร์พูลเป็นทีมที่แพ้น้อยที่สุด แพ้แค่ 2 นัดคือพ่ายต่อ สเปอร์ 2-1 และ มิดเดิ้ลสโบรช์ 2-0 และฤดูกาลนี้ลิเวอร์พูลทำประตูมากที่สุดอันดับ 1 และเป็นทีมเดียวไม่แพ้ใครในบ้านทั้งฤดูกาลอีกด้วย และน่าทึ่งกว่านี้ในลีกหงส์แดงไม่แพ้ต่อทีม Big 4 ทั้ง เชลซี,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ อาร์เซนอล โดย ชนะ เชลซี 1-0(ที่บ้านเชลซีและเป็นทีมแรกที่ทำให้เชลซีแพ้ในบ้านนัดแรก) และ2-0 ชนะ แมนยู 2-1และ4-1(ถึงบ้านแมนยู) และเสมอ อาร์เซนอล 1-1 และ 4-4 และฤดูกาลนี้เจอร์ราร์ดทำประตูมากที่สุดให้กับทีม

ฤดูกาล2009-2010 นอกจากจะไม่ได้แชมป์ทุกรายการ ผลงานของเจอร์ราร์ดก็ตกลงไปพร้อมกับผลงานของลิเวอร์พูล โดยฤดูกาลนี้ลิเวอร์พูลทำผลงานได้ตกต่ำกว่าฤดูกาลที่แล้วหลายร้อยเท่า ผลงานยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ของหงส์แดงตกรอบแบ่งกลุ่มอย่างรวดเร็ว ในเอฟเอคัพ ก็ตกรอบตั้งแต่รอบ 3 โดยพ่ายต่อ เรดดิ้ง และที่แย่ไปกว่านั้น ผลงานในพรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูลทำอันดับได้ต่ำที่สุดในรอบหลายปี โดยได้อันดับ 7 ซึ่งแตกต่างกับปีที่แล้วเป็นอย่างมาก และเจอร์ราร์ดทำประตูน้อยกว่าปีที่แล้ว โดยเจอร์ราร์ดทำประตูในลีกแค่ 9 ประตูเท่านั้น โดยปีที่แล้วลิเวอร์พูลแพ้แค่ 2 นัดแต่ว่าปีนี้ลิเวอร์พูลแพ้เยอะมากโดยหงส์แดงแพ้ถึง 11 นัด

[แก้] เกียรติประวัติ

[แก้] กับสโมสรลิเวอร์พูล

[แก้] เกียรติประวัติส่วนตัว

[แก้] สถิติการยิงประตู

สถิติการยิงประตู
สโมสร ฤดูกาล Premiership FA Cup League Cup Europe อื่นๆ รวม
App Goals App Goals App Goals App Goals App Goals App Goals
ลิเวอร์พูล 2007-08 33 12 3 3 2 1 11 6 0 0 48 22
2006-07 35 7 1 0 1 1 11 3 1 0 49 11
2005-06 32 10 6 4 1 1 12 7 2 1 53 23
2004-05 30 7 0 0 3 2 10 4 0 0 43 13
2003-04 34 4 3 0 2 0 8 2 0 0 47 6
2002-03 34 5 2 0 6 2 11 0 1 0 54 7
2001-02 28 3 2 0 0 0 15 1 0 0 45 4
2000-01 33 7 4 1 4 0 9 2 0 0 50 10
1999-00 29 1 2 0 0 0 0 0 0 0 31 1
1998-99 12 0 0 0 0 0 1 0 0 0 13 0
รวม 301 56 23 8 19 7 88 25 4 1 436 97

[แก้] อ้างอิง

  1. ^ It's Steven Gerrard, MBE ข่าวจาก Herald Sun

[แก้] แหล่งข้อมูลอื่น

สมัยก่อนหน้า สตีเฟน เจอร์ราร์ด สมัยถัดไป
จอห์น เทอร์รี 2leftarrow.png นักฟุตบอลยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ
(พ.ศ. 2549)
2rightarrow.png คริสเตียโน โรนัลโด