กอร์ดอน บราวน์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

กอร์ดอน บราวน์
กอร์ดอน บราวน์

ดำรงตำแหน่ง
27 มิถุนายน พ.ศ. 2550 – 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2553
สมัยก่อนหน้า โทนี แบลร์
สมัยถัดไป เดวิด คาเมรอน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแห่งสหราชอาณาจักร
ดำรงตำแหน่ง
2 พฤษภาคม พ.ศ. 2540 – 27 มิถุนายน พ.ศ. 2550
สมัยก่อนหน้า เคนเนท คลาร์ก
สมัยถัดไป อลิสแตร์ ดาร์ลิง

สมาชิกรัฐสภาแห่งเคอคาดี้และคาวเด็นบีธ
อยู่ในวาระ
เริ่มดำรงตำแหน่ง
9 มิถุนายน พ.ศ. 2526

เกิด 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2494 (อายุ 59 ปี)
กลาสโกว์ สกอตแลนด์
สังกัดพรรค พรรคแรงงาน
สมรสกับ ซาราห์ บราวน์
ศาสนา คริสต์

เจมส์ กอร์ดอน บราวน์ (James Gordon Brown; 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2494 -) เป็นชาวสก็อตผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร และควบตำแหน่งลอร์ดแห่งสภาการคลัง (First Lord of The Treasury) รัฐมนตรีการสวัสดิการสังคม (Minister for the Civil Service) และหัวหน้าพรรคแรงงาน เขาได้รับตำแหน่งหัวหน้าพรรคแรงงานเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2550 ก่อนหน้านั้น เขาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง (Chancellor of the Exchequer) ในรัฐบาลของนายโทนี แบลร์ตั้งแต่ปี 2540 - 2550 และดำรงตำแหน่งสมาชิกรัฐสภาแห่งเคอคาดี้และคาวเด็นบีธ (Kirkcaldy and Cowdenbeath) มาตังแต่ปี 2527[1]

เนื้อหา

[แก้] ชีวิตช่วงต้นและอาชีพก่อนเข้ารัฐสภา

กอร์ดอน บราวน์ เกิดที่เมืองโกแวน (Govan) เมืองกลาสโกลว์ (Glasglow) ในสก็อตแลนด์ บิดา-นายจอห์น อีเบเนเซอร์ บราวน์ (John Ebenezer Brown) -ซึ่งเป็นผู้นำศาสนาคริสต์นิกายเชิร์ช ออฟ สก็อตแลนด์ (Church of Scotland) เป็นผู้มีอิทธิพลอย่างมากต่อนายบราวน์ เขาเสียชีวิตในปี 2541 เมื่อมีอายุ 84 ปี มารดาของบราวน์-อลิซาเบธ (Elizabeth) -ซึ่งเป็นที่รู้จักในนาม บันตี้ (Bunty) เสียชีวิตเมื่อปี 2547 อายุรวม 86 ปี บราวน์ได้รับการเลี้ยงดูร่วมกับพี่น้อง คือ จอห์น และแอนดรูว์ บราวน์ โดยอาศัยอยู่ในบ้านสำหรับพระสอนศาสนา (manse) ในเมืองเคอร์คาลดี้ และทำให้เขาถูกกล่าวถึงในฐานะ "บุตรชายแห่งเคหาสน์พระ" (son of the manse) บราวน์เริ่มต้นรับการศึกษาที่ Kirkaldy West Primary School ซึ่งเขาได้รับการคัดเลือกเข้าเรียนหลักสูตรเรียนเร่งรัดแบบทดลอง ซึ่งทำให้เขาสามารถเข้าศึกษาที่ Kirkaldy High School ได้เร็วกว่ากำหนด 2 ปี เมื่อตอนอายุ 16 ปี เขาเขียนไว้ว่าเขารังเกียจและขุ่นเคืองการทดลองอัน "น่าหัวเราะ" ต่อเยาวชนเช่นนี้

เมื่ออายุ 16 ปี มหาวิทยาลัยเอดินเบอระ รับเขาเข้าศึกษาด้านประวัติศาสตร์ เขาต้องทรมานจากอาการจอประสาทตาลอก(Retinal Detachment) หลังจากถูกเตะที่ศีรษะระหว่างแข่งขันรักบี้ปลายเทอมนัดหนึ่งเมื่อครั้งศึกษาที่โรงเรียนเก่า จนทำให้ตาซ้ายบอดในเวลาต่อมา ถึงแม้จะรับการรักษาตั้งแต่การผ่าตัดหลายครั้งหลายคราไปจนถึงการนอนในห้องมืดเป็นเวลาหลายสัปดาห์ ตั้งแต่นั้นมา เขาจึงต้องใส่ลูกตาเทียมแทน เมื่อเข้าศึกษาที่เอดินบะระ ขณะกำลังเล่นเทนนิส บราวน์สังเกตถึงอาการลักษณะเดียวกันในตาข้างขวา เขาเข้ารับการศัลยกรรมที่ Edinburgh Royal Infirmary และทำให้สามารถรักษาตาข้างขวาไว้ได้ทัน

บราวน์สำเร็จการศึกษาปริญญามหาบัณฑิตศิลปศาสตร์เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง (First Class Honours M.A.) จากเอดินบะระเมื่อปี 2506 และอยู่ศึกษาต่อจนได้รับปริญญาเอกในปี 2515 จากวิทยานิพนธ์หัวข้อ พรรคแรงงานและการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในสก็อตแลนด์ปี 2461-72 (The Labour Party and Political Change in Scotland 1918-29) เดิมที บราวน์ตั้งใจให้วิทยานิพนธ์ครอบคลุมตั้งแต่พัฒนาการของ คณะแรงงาน ตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 เป็นต้นไป แต่ต่อมาได้ลดลงเหลือเพียงอธิบาย "การดิ้นรนของพรรคแรงงานเพื่อตั้งมั่นตนเองเป็นตัวเลือกแทนพรรคอนุรักษ์นิยม[ในตอนต้นของศตวรรษที่ 20]"

ในปี 2515 ถึงแม้จะยังเป็นเพียงนักศึกษา บราวน์ได้รับการเลือกให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าการแห่งมหาวิทยาลัยเอดินเบอระ (Rector of the University of Edinburgh) เป็นผู้เข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัย (University Court) และดำรงตำแหน่งนี้จนถึงปี 2518 ในช่วงนั้น เขายังเป็นบรรณาธิการหนังสือ The Red Paper on Scotland อีกด้วย เขาทำหน้าที่เป็นผู้บรรยายวิชาชั่วคราวที่เอดินเบอระ แต่ถูกปฏิเสธที่จะให้ทำหน้าที่เป็นการถาวร เนื่องจากความเป็นนักกิจกรรมทางการเมือง เขาได้รับการว่าจ้างให้เป็นผู้บรรยายวิชาสาขารัฐศาสตร์ที่วิทยาลัยเทคโนโลยีแห่งกลาสโกลว์(Glasglow College of Technlogy) แทนตั้งแต่ปี 2519 ถึง 2523 หลังจากนั้นเขาเข้าทำงานเป็นนักข่าวประจำสถานีโทรทัศน์ Scottish Television และได้เป็นบรรณาธิการข่าวสังคมและการเมืองจวบจนได้รับการเลือกตั้งเข้ารัฐสภาในปี 2526

ในการเลือกตั้งทั่วไปปี 2522 บราวน์เป็นตัวแทนลงสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขต เอดินเบอระ เซาธ์ (Edinburgh South) แต่พ่ายแพ้ผู้ลงสมัครจากพรรคอนุรักษ์นิยม นายไมเคิล แอนแครม (Michael Ancram)

[แก้] การเลือกตั้งเข้ารัฐสภาและตำแหน่งฝ่ายค้าน

บราวน์ได้รับการเลือกตั้งเข้ารัฐสภาในการลงสมัครครั้งที่ 2 ในฐานะตัวแทนลงสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคแรงงานเขต ดันเฟิร์มไลน์ อีสต์ (Dunfirmline East) ในการเลือกตั้งทั่วไปปี 2526 และรับตำแหน่งโฆษกฝ่ายค้านด้านการพาณิชย์และอุตสาหกรรมในปี 2528 ในปี 2529 บราวน์ตีพิมพ์ชีวประวัติของนักการเมืองพรรคแรงงานอิสระ นายเจมส์ แม็กซ์ตัน (James Maxton) ซึ่งเป็นหัวข้อวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกของเขา บราวน์ดำรงตำแหน่ง เลขาธิการเอกสภาการคลังฝ่ายค้าน (Shadow Chief Secretary to the Treasury) ตั้งแต่ปี 2530 ถึง 2532 และต่อมาได้เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมฝ่ายค้าน (Shadow Secretary of State for Trade and Industry) ก่อนจะได้รับตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังฝ่ายค้าน (Shadow Chancellor of the Exchequer) ในปี 2535

หลังจากการเสียชีวิตอย่างกระทันหันของนายจอห์น สมิธ (John Smith) ผู้นำพรรคแรงงานในเดือนพฤษภาคม ปี 2537 บราวน์ถูกคาดหมายว่าจะเป็นผู้นำพรรคคนต่อไป แต่เขาไม่ได้ลงสมัครเป็นหัวหน้าจนกระทั่ง โทนี แบลร์ เป็นที่ชื่นชอบ มีข่าวลือมานานแล้วว่า แบลร์ และ บราวน์ ได้มีการทำข้อตกลงกันที่ภัตตาคารแกรนิต้า (Granita Restaurant) เขตอิสลิงตั้น (Islington) ลอนดอน (London) โดยแบลร์ตกลงว่าจะให้ บราวน์ ได้ควบคุมนโยบายเศรษฐกิจเป็นการตอบแทนที่บราวน์ไม่ลงสมัครแข่งขันกับเขาในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรค ไม่ว่าเรื่องนี้จะเป็นความจริงหรือไม่ ความสัมพันธ์ระหว่างแบลร์และบราวน์ถือได้ว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดของความรุ่งโรจน์ของ "พรรคแรงงานโฉมใหม่" (New Labour) และส่วนใหญ่แล้ว ในที่สาธารณะ ทั้งสองยังคงดูมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ถึงแม้จะมีข่าวลือถึงความขัดแย้งส่วนตัวที่รุนแรงก็ตาม

ในฐานะรัฐมนตรีฝ่ายค้าน บราวน์ทำงานเพื่อนำเสนอตนเองในฐานะผู้มีความสามารถพอจะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในอนาคต เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ภาคธุรกิจและชนชั้นกลางว่าพรรคแรงงานเป็นที่ไว้วางใจได้ในการบริหารเศรษฐกิจโดยไม่ทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงเกินไป, อัตราการว่างงานสูงขึ้น หรือ การใช้จ่ายเกินตัวของภาครัฐ อย่างที่เกิดขึ้นเมื่อทศวรรษ 1970 (พ.ศ. 2513-2522) เขาให้คำมั่นสัญญาอย่างเป็นที่เปิดเผยว่าจะดำเนินตามแผนการใช้จ่ายของพรรคอนุรักษ์นิยมในช่วง 2 ปีแรกที่เข้ารับตำแหน่ง

หลังจากมีการเปลี่ยนแปลงการแบ่งเขตเลือกตั้งในสก็อตแลนด์ บราวน์ก็ได้เป็นสมาชิกรัฐสภาในเขต เคอคาดี้และคาวเด็นบีธ ในปี 2548

[แก้] บทบาทในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

ช่วงเวลา 10 ปี 2 เดือน ของบราวน์ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้สร้างสถิติใหม่ๆขึ้นหลายอย่าง เขาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังที่มาจากพรรคแรงงานซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นเวลายาวนานที่สุด และเป็นผู้ดำรงตำแหน่งนี้เป็นเวลาต่อเนื่องยาวนานที่สุดนับแต่ นิโคลาส แวนซิตทาร์ต (Nicholas Vansittart) ซึ่งเป็นรัฐมนตรีตั้งแต่ปี 2355-2366 อย่างไรก็ตาม วิลเลี่ยม แกลดสโตน (William Gladstone) คือรัฐมนตรีที่มีระยะเวลาการดำรงตำแหน่งรวมเท่ากับ 12 ปี 4 เดือน จากการดำรงตำแหน่ง 4 วาระระหว่างปี 2395-2425

เว็บไซต์ของสำนักนายกรัฐมนตรียกย่องความสำเร็จ 3 อย่างเป็นพิเศษในช่วงเวลา 10 ปีของการดำรงตำแหน่งนี้ของนายบราวน์ คือ การนำพาเศรษฐกิจจน"เติบโตยาวนานเป็นประวัติการณ์" ทำให้ธนาคารอังกฤษเป็นหน้วยงานอิสระ และ นำเสนอข้อตกลงด้านความอดยากและภาวะฤดูกาลแปรปรวน ณ การประชุมสุดยอด G8 ในปี 2548

[แก้] อ้างอิง

  1. ^ [1]