ประเทศอิรัก
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
อาหรับ: الجمهورية العراقية Aj-Jumhuriyah Al-'Iraqiyah อัจ จุมฮูรียะห์ อัล อิรอกิยะห์ เคิร์ด: كۆماری عێراق Komara Iraqê โกมารา ไอราเค สาธารณรัฐอิรัก
|
||||||
---|---|---|---|---|---|---|
|
||||||
คำขวัญ: อาหรับ: الله أكبر (อัลเลาะห์ อัคบาร์) ("พระผู้เป็นเจ้าคือผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด") |
||||||
เพลงชาติ: Mawtini (ใหม่) ; Ardh Alforatain (เก่า) |
||||||
เมืองหลวง (และเมืองใหญ่สุด) |
แบกแดด
|
|||||
ภาษาทางการ | ภาษาอาหรับและภาษาเคิร์ด | |||||
รัฐบาล | สาธารณรัฐ | |||||
ประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี |
จะลัล ตาลาบานี นูรี อัล มาลีกี |
|||||
ได้รับเอกราช | ||||||
วันที่ วันที่ |
จากจักรวรรดิออตโตมาน 1 ตุลาคม พ.ศ. 2462 จากสหราชอาณาจักร 3 ตุลาคม พ.ศ. 2475 |
|||||
เนื้อที่ | ||||||
- | ทั้งหมด | 437,072 กม.² (ลำดับที่ 58) | ||||
- | พื้นน้ำ (%) | 1.1% | ||||
ประชากร | ||||||
- | 2548 ประมาณ | 26,074,906 (อันดับที่ 45) | ||||
- | ความหนาแน่น | 59/กม.² (อันดับที่ 112) | ||||
GDP (PPP) | 2548 ประมาณ | |||||
- | รวม | 89.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (อันดับที่ 58) | ||||
- | ต่อประชากร | 3,500 ดอลลาร์สหรัฐ (อันดับที่ 122) | ||||
สกุลเงิน | ดีนาร์อิรัก (IQD ) |
|||||
เขตเวลา | (UTC+3) | |||||
- | ฤดูร้อน (DST) | (UTC+4) | ||||
รหัสอินเทอร์เน็ต | .iq | |||||
รหัสโทรศัพท์ | +964 |
อิรัก (Iraq) หรือชื่อทางการคือ สาธารณรัฐอิรัก (Republic of Iraq) เป็นประเทศในตะวันออกกลาง ตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ มีพื้นที่ครอบคลุมส่วนใหญ่ของเมโสโปเตเมีย จุดสิ้นสุดทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเทือกเขาแซกรอส และทิศตะวันออกของทะเลทรายซีเรีย
อิรักมีพรมแดนร่วมกับซาอุดีอาระเบียและคูเวตทางทิศใต้ ติดต่อกับตุรกีทางทิศเหนือ ติดต่อกับซีเรียทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ติดต่อกับจอร์แดนทางทิศตะวันตก และติดต่อกับอิหร่านทางทิศตะวันออก
อิรักได้จัดตั้งคณะผู้นำปัจจุบันเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2547 หลังจากการบุกเข้าอิรักเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2546 นำโดยกองทัพสหรัฐฯ และอังกฤษเพื่อโค่นล้มประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซนลงจากอำนาจ
เนื้อหา |
[แก้] ประวัติศาสตร์
- พ.ศ. 2281 - ตกอยู่ใต้อาณาจักรออตโตมัน
- พ.ศ. 2465 - ตกอยู่ใต้การปกครองของอังกฤษ
- พ.ศ. 2475 - สิ้นสุดการเป็นรัฐในอาณัติของอังกฤษ เข้าเป็นสมาชิกสันนิบาตชาติ
- พ.ศ. 2501 - เปลี่ยนระบบการปกครองจากสมบูรณาญาสิทธิราชเป็นสาธารณรัฐ
- พ.ศ. 2511 - เริ่มต้นการปกครองโดยพรรคบาธ โดยมีประธานาธิบดี Ahmad Masan Al Bakr และรองประธานาธิบดี ซัดดัม ฮุสเซน (Saddam Hussein)
- พ.ศ. 2522 - ซัดดัม ฮุสเซน ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี
- พ.ศ. 2523-2531 -สงครามระหว่างอิรัก-อิหร่าน (สงครามอ่าวครั้งที่ 1)
- พ.ศ. 2533 - เข้ายึดครองคูเวต(สงครามอ่าวครั้งที่ 2)
- พ.ศ. 2533 - ถูกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจโดยสหประชาชาติ
[แก้] การเมืองการปกครอง
อิรักเป็นดินแดนที่มีประวัติศาสตร์และเป็นแหล่งอารยธรรมเก่าแก่ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
มีชื่อปรากฏอยู่ในประวัติศาสตร์สมัยโบราณ เรียกว่า เมโสโปเตเมีย (Mesopotamia) หมายถึง แผ่นดินที่ตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำสองสาย คือ แม่น้ำไทกริส (Tigis) และยูเฟรตีส (Euphrates) ดินแดนแห่งนี้จึงเป็นดินแดนที่มีความสมบูรณ์ยิ่งกว่าดินแดนใดใดใน ตะวันออกกลางจนได้รับสมญาว่า "Fertile rescent" ผู้คนอพยพจากที่ต่าง ๆ เพื่อ มาอาศัยในดินแดนแห่งนี้ แต่เดิมดินแดนแห่งนี้เป็นอาณาจักรโบราณหลายแห่ง อาทิเช่น
อาณาจักรซูเมอร์ (Sumerian Civilization) อาณาจักรบาบิโลเนีย (Babylonia) อัสซีเรีย (Assyria) มีเดีย (Media) เป็นต้น และในศตวรรษที่ 8 Abassid caliphate
ได้ตั้งเมืองหลวงขึ้น ณ กรุงแบกแดด ต่อมาในปี พ.ศ. 1996 พวกเติร์ก แห่งจักรวรรดิออตโตมัน (Ottoman) ได้ยึดครองดินแดนที่เป็นอิรักได้เมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 17 ดินแดนแห่งนี้จึงอยู่ภายใต้ การปกครองของจักรวรรดิออตโตมันจนสิ้นสงครามโลกครั้งที่ 1 เมื่อปี พ.ศ. 2461
ในปี พ.ศ. 2463 อิรักตกอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ และต่อมาได้รับอิสรภาพและ
ประกาศเป็นราชอาณาจักรเมื่อปี พ.ศ. 2475 และต่อมาได้มีการปฏิวัติโค่นล้มระบบกษัตริย์และ เปลี่ยนสถานะเป็นสาธารณรัฐอิรักตั้งแต่ปี พ.ศ. 2501 มีการปกครองโดยประธานาธิบดี ทั้งนี้ อดีตประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซน ได้เข้ารับตำแหน่งเมื่อปี 2522 และนำประเทศทำสงครามกับ อิหร่านระหว่างปี พ.ศ. 2523-2531 ต่อมาอิรักได้ส่งกองทัพบุกยึดครองคูเวตเมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2533 จนทำให้เกิดสงครามอ่าวเปอร์เซียซึ่งกองกำลังสหรัฐฯ และพันธมิตรได้ขับไล่ กองกำลังอิรักออกจากคูเวตเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2534 รูปแบบโครงสร้างด้านองค์กรทางการเมืองของอิรัก มีรูปแบบไม่ต่างไปจากประเทศประชาธิปไตยอื่นๆในโลก
กล่าวคือมีโครงสร้าง ดังนี้
1. รัฐธรรมนูญ โดยได้ระบุไว้ว่า อิรักเป็นประเทศเอกราช เป็นรัฐอาหรับในรูปแบบรัฐเดี่ยว อันมีศาสนาประจำชาติคือศาสนาอิสลาม 2.สภาแห่งชาติ มีหน้าที่ในทางนิติบัญญัติ มีสมาชิก 250 คน เลือกโดยการลงคะแนนลับทุกๆ 4 ปี
3.คณะรัฐมนตรี มีอำนาจในทางการบริหารเพื่อถ่วงดุลอำนาจกับฝ่ายนิติบัญญัติคือสภา 4.ระบบศาล รูปแบบศาลของอิรักคล้ายคลึงกับฝรั่งเศส นอกจากนี้ ยังมีศาลศาสนา มีหน้าที่ตัดสินคดี
แพ่งต่างๆโดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับครอบครัว โดยอาศัยหลักที่ใช้ในการพิพากษา คือ กฎชะรียะห์ (กฎศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาอิสลาม)
ปัจจุบันนี้อิรักปกครองในรูปแบบสาธารณรัฐ โดยมีประมุขสูงสุดคือประธานาธิบดี เป็นหัวหน้าคณะรัฐบาล และ เป็นผู้บัญชาการสูงสุดของเหล่าทัพด้วย
อ้างอิง
- Irwin Abrams , Wang Gungwu . The Iraq War and its consequences :
thoughts of Nobel Peace Laureates and Eminent Scholars.New Jersey :
World Scientific, c2003
- ประทุมพร วัชรเสถียร. อิรัก วิกฤติถาวร??. พิมพ์ครั้งที่1. กรุงเทพฯ : อมรินทร์, 2546
[แก้] การแบ่งเขตการปกครอง
ประเทศอิรักแบ่งออกเป็น 18 จังหวัด (governorates/provinces, อาหรับ: muhafazat, เคิร์ด: Pârizgah)
เขตปกครองตนเองเคอร์ดิสถาน (Kurdistan Autonomous Region) ซึ่งได้รับการรับรองโดยรัฐธรรมนูญ มีพื้นที่รวมบางส่วนของจังหวัดทางเหนือ และปกครองตนเองในเรื่องราชการภายในส่วนใหญ่
[แก้] ภูมิศาสตร์
อิรักมีพื้นที่ทั้งหมด 437,072 ตารางกิโลเมตร ทิศตะวันออกติดกับ อิหร่าน ทิศเหนือ ติดกับตุรกี
ทิศใต้ติดกับคูเวต ทิศตะวันตกติดกับ ซีเรีย และจอร์แดน สภาพทางภูมิศาสตร์ของอิรัก เป็นทะเลทรายร้อยละ 40 ที่ราบสูง ยากแต่การทำการเกษตรทำให้ อิรักต้องนำเข้าสินค้าภาคการเกษตรเช่น ข้าวสาลี ข้าวจ้าว ธัญพืช แต่อย่างไรก็ดี อิรัก
ก็มีแม่น้ำไหลผ่าน 2 สาย คือ ไทรกิส ยูเฟรตีส ทำให้ยังพอมีความอุดมสมบูรณ์อยู่บ้าง
[แก้] เศรษฐกิจ
ระบอบเศรษฐกิจของอิรักเป็นแบบ สังคมนิยม รวมอำนาจไว้ที่ศุนย์กลาง นั่นคือรัฐบาลกลางของอิรัก มีระบบรัฐสวัสดิการมีการแจก ข้าว น้ำตาล ยารักษาโรคบางชนิด นม เสื้อผ้า ให้แก่ประชากรของอิรัก เศรษฐกิจของอิรักค่อนข้างถูกกดดันจากประชาคมโลกโดยเฉพาะในช่วง วิกฤติการณ์อ่าวเปอร์เซีย สงครามอิรัก และ ช่วงเหตุการณ์ 9/11 ทำให้เศรษฐกิจของอิรักบอบช้ำ แต่ยุทธปัจจัยทางเศรษฐกิจที่สำคัญ ของอิรักคือ น้ำมัน อิรักเป็นประเทศที่มีน้ำมันไว้ในครอบครองเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากซาอุดีอารเบีย โดยผลิตได้วันละ 2.58 ล้านบาห์เรล ต่อวัน ส่งผลให้อิรักกลายเป็นดินแดนที่น่าสนใจอย่างยิ่งโดยเฉพาะ กลุ่มธุรกิจน้ำมันจากสหรัฐอเมริกา ที่มุ่งหวังเข้าไปกอบโกยทรัพยากรล้ำค่า อย่าง ทองคำดำในอิรัก
[แก้] ประชากร
สังคมของอิรักเป็นสังคมหลากหลายชาติพันธุ์ เป็นเหตุมาจากพัฒนาการทางประวัติศาสตร์
ที่เป็นแหล่งอารยธรรมมาหลายพันปี พลเมืองของอิรักที่นับถือศาสนาอิสลามนั้น ได้แบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ มุสลิมชีอะห์(ร้อยละ 65) และ มุสลิมสุหนี่ (ร้อยละ 20) นอกจากนี้ยังมี ชาวเคิร์ด อยู่ในบริเวณเคอร์ดิสถาน ชาวเคริ์ดในอริรักมีอยู่ประมาณ 3,700,000 คน นับว่าเป็น คนส่วนน้อยในอิรัก และเนื่องด้วยรูปแบบการปกครองที่ให้สิทธิของชนชาติอาหรับ และผูกขาด อำนาจทางเศรษฐกิจให้กับมุสลิมสุหนี่ ส่งผลให้ กลายเป็นปัญหาความขัดแย้งระหว่างศาสนา และชาติพันธุ์ในอิรัก ทั้งกับมุสลิมด้วยกันเองคือ สุหนี่และชีอะห์ และ ยังปัญหาความขัดแย้งระหว่าง ชาวคิร์ดกับรัฐบาลกลางของอิรัก เพื่อเรียกร้องสิทธิและความเท่าเทียมอีกด้วย
[แก้] วัฒนธรรม
- (รอเพิ่มเติมเนื้อหา)
[แก้] อ้างอิง
- ประเทศอิรัก จากเว็บไซต์กระทรวงต่างประเทศ
|
|