โลก

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

โลก
ภาพถ่ายสีของโลกจากยานอะพอลโล 17
เดอะบลูมาร์เบิล, ถ่ายจากยานอะพอลโล 17
สถิติทางสังคมมนุษย์
พื้นที่เมืองที่มีประชากรมากที่สุด โตเกียว, เม็กซิโกซิตี, โซล, นิวยอร์ก, เซาเปาลู, มุมไบ
ภาษา
(ประมาณการ พ.ศ. 2543)
จีนกลาง 14.37%,
ฮินดี 6.02%,
อังกฤษ 5.61%,
สเปน 5.59%,
เบงกาลี 3.4%,
โปรตุเกส 2.63%,
รัสเซีย 2.75%,
ญี่ปุ่น 2.06%,
เยอรมัน 1.64%,
เกาหลี 1.28%,
ฝรั่งเศส 1.27%,
ภาษาอื่น ๆ
ศาสนา
(ประมาณการ พ.ศ. 2543)
คริสต์ 32.71%,
อิสลาม 19.67%,
ฮินดู 13.28%,
พุทธ 5.84%,
ไม่นับถือศาสนาใด 14.84%,
ศาสนาอื่น ๆ 13.05%
ประชากร (ประมาณการ 9 มี.ค. 2548)
 - ทั้งหมด 6,423,457,263 คน
สกุลเงิน ดอลลาร์สหรัฐฯ, เยนญี่ปุ่น, ยูโร, ปอนด์สเตอร์ลิง, อื่น ๆ
จีดีพี (ประมาณการ พ.ศ. 2546)
 -PPP 51,656,251,000,000 IND
  ต่อหัว 8,236 IND
 -Nominal 36,356,240,000,000 USD
  ต่อหัว 5,797 USD
ลักษณะเฉพาะของวงโคจร (จุดเริ่มยุค J2000)
กึ่งแกนเอก 149,597,887 km
(1.000 000 11 หน่วยดาราศาสตร์)
เส้นรอบวงของวงโคจร 0.940 Tm
(6.283 หน่วยดาราศาสตร์)
ความเยื้องศูนย์กลาง 0.016 710 22
จุดใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุด 147,098,074 km
(0.983 289 9 หน่วยดาราศาสตร์)
จุดไกลดวงอาทิตย์ที่สุด 152,097,701 km
(1.016 710 3 หน่วยดาราศาสตร์)
คาบการโคจร 365.256 96 วัน
(1.000 019 1 ปีจูเลียน)
คาบซินอดิก n/a
อัตราเร็วเฉลี่ยในวงโคจร 29.783 km/s
อัตราเร็วสูงสุดในวงโคจร 30.287 km/s
อัตราเร็วต่ำสุดในวงโคจร 29.291 km/s
ความเอียง 0.000 05°
(7.25° กับระนาบศูนย์สูตรดวงอาทิตย์)
ลองจิจูดของจุดโหนดขึ้น 348.739 36°
ระยะมุมจุดใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุด 114.207 83°
จำนวนดาวบริวาร 1 (ดวงจันทร์), แต่ดู ดาวเคราะห์น้อย 3753 ครูอีนยา ด้วย
 
ลักษณะเฉพาะทางภายภาพ
เส้นผ่านศูนย์กลางตามแนวศูนย์สูตร 12,756.28 km
เส้นผ่านศูนย์กลางตามแนวขั้ว 12,713.56 km
เส้นผ่านศูนย์กลางเฉลี่ย 12,742.02 km
ความแป้น 0.003 35
เส้นรอบวงตามแนวศูนย์สูตร 40,075 km
เส้นรอบวงตามแนวขั้ว 40,008 km
พื้นที่ผิว 510,067,420 km²
ปริมาตร 1.0832×1012 km³
มวล 5.9736×1024 kg
ความหนาแน่น 5.515 g/cm³
ความโน้มถ่วงที่ศูนย์สูตร 9.780 m/s² 1
(0.997 32 จี)
ความเร็วหลุดพ้น 11.186 km/s
คาบการหมุนรอบตัวเอง 0.997 258 วัน (23.934 ชั่วโมง)
ความเร็วการหมุนรอบตัวเอง 1674.38 km/h = 465.11 m/s
(ที่เส้นศูนย์สูตร)
ความเอียงของแกน 31.439 281°
ไรต์แอสเซนชัน
ของขั้วเหนือ
0° (0 ชั่วโมง 0 นาที 0 วินาที)
เดคลิเนชัน 90°
อัตราส่วนสะท้อน 0.367
อุณหภูมิพื้นผิว
- ต่ำสุด
- ปานกลาง
- สูงสุด

185 K (-88 C)
287 K (14 C)
331 K (58 C)
ความกดบรรยากาศพื้นผิว 100 kPa
 
ลักษณะเฉพาะของบรรยากาศ
ไนโตรเจน 77%
ออกซิเจน 21%
อาร์กอน 1%
คาร์บอนไดออกไซด์ เบาบาง
ไอน้ำ เบาบาง

โลก เป็นดาวเคราะห์ที่อยู่ห่างจากดวงอาทิตย์เป็นลำดับที่สาม โดยโลกเป็นดาวเคราะห์หินขนาดใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะ และเป็นดาวเคราะห์เพียงดวงเดียวที่วิทยาศาสตร์สมัยใหม่ยืนยันได้ว่ามีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ ดาวเคราะห์โลกถือกำเนิดขึ้นเมื่อประมาณ 4,570 ล้าน (4.57×109) ปีก่อน และหลังจากนั้นไม่นานนัก ดวงจันทร์ซึ่งเป็นดาวบริวารเพียงดวงเดียวของโลกก็ถือกำเนิดตามมา สิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาที่ครองโลกในปัจจุบันนี้คือมนุษย์

โลก มีลักษณะเป็นทรงวงรี โดย ในแนวดิ่งเส้นผ่าศูนย์กลางยาว 12,711 กม. ในแนวนอน ยาว 12,755 กม. ต่างกัน 44 กม. มีพื้นน้ำ 3 ส่วน หรือ 71% และมีพื้นดิน 1 ส่วน หรือ 29 % แกนโลกจะเอียง 23.5 องศา

สัญลักษณ์ของโลกประกอบด้วยกากบาทที่ล้อมด้วยวงกลม โดยเส้นตั้งและเส้นนอนของกากบาทจะแทนเส้นเมอริเดียนและเส้นศูนย์สูตรตามลำดับ สัญลักษณ์อีกแบบของโลกจะวางกากบาทไว้เหนือวงกลมแทน (ยูนิโคด: ⊕ หรือ )

เนื้อหา

[แก้] ประวัติ

โลกเกิดจากการรวมตัวของอานุภาคและสิ่งแรที่เกิดครั้งแรกคือภูเขาไฟเมื่อภูเขาไฟเย็นตัวลงจะก่อเกิดสิ่งมีชีวิตอื่นๆกำเนิดตาม

[แก้] โครงสร้างและองค์ประกอบ

[แก้] รูปร่าง

โลกมีรูปทรงกระบอกแบนขั้ว หมายความว่ามีรูปทรงกระบอกแต่บริเวณขั้วโลกทั้งสองแบนเล็กน้อย และโป่งออกทางเส้นศูนย์สูตร ความยาวรอบโลกประมาณ 40,000 กิโลเมตร มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 12,700 กิโลเมตร จุดที่สูงที่สุดบนพื้นโลกคือ ยอดเขาเอเวอร์เรสต์ ซึ่งมีความสูง 8,848 เมตรจากระดับน้ำทะเล ส่วนจุดที่ลึกที่สุดในโลกคือ ร่องลึกก้นสมุทรมาเรียนา ซึ่งมีความลึก 10,911 เมตรจากระดับน้ำทะเล เนื่องจากโลกมีลักษณะโป่งออกทางตอนกลางคือเส้นศูนย์สูตร ทำให้จุดที่ห่างไกลจากจุดศูนย์กลางโลกคือยอดเขาชิมโบราโซ ในประเทศเอกวาดอร์[1]

[แก้] โครงสร้าง

[แก้] เปลือกโลก

เปลือกโลก (crust) เป็นชั้นนอกสุดของโลกที่มีความหนาประมาณ 60-70 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าเป็นชั้นที่บางที่สุดเมื่อเปรียบกับชั้นอื่นๆ เสมือนเปลือกไข่ไก่หรือเปลือกหัวหอม เปลือกโลกประกอบไปด้วยแผ่นดินและแผ่นน้ำ ซึ่งเปลือกโลกส่วนที่บางที่สุดคือส่วนที่อยู่ใต้มหาสมุทร ส่วนเปลือกโลกที่หนาที่สุดคือเปลือกโลกส่วนที่รองรับทวีปที่มีเทือกเขาที่สูงที่สุดอยู่ด้วย นอกจากนี้เปลือกโลกยังสามารถแบ่งออกเป็น 2 ชั้นคือ

  • ชั้นที่หนึ่ง: ชั้นหินไซอัล (sial) เป็นเปลือกโลกชั้นบนสุด ประกอบด้วยแร่ซิลิกาและอะลูมินาซึ่งเป็นหินแกรนิตชนิดหนึ่ง สำหรับบริเวณผิวของชั้นนี้จะเป็นหินตะกอน ชั้นหินไซอัลนี้มีเฉพาะเปลือกโลกส่วนที่เป็นทวีปเท่านั้น ส่วนเปลือกโลกที่อยู่ใต้ทะเลและมหาสมุทรจะไม่มีหินชั้นนี้
  • ชั้นที่สอง: ชั้นหินไซมา (sima) เป็นชั้นที่อยู่ใต้หินชั้นไซอัลลงไป ส่วนใหญ่เป็นหินบะซอลต์ประกอบด้วยแร่ซิลิกา เหล็กออกไซด์และแมกนีเซียม ชั้นหินไซมานี้ห่อหุ้มทั่วทั้งพื้นโลกอยู่ในทะเลและมหาสมุทร ซึ่งต่างจากหินชั้นไซอัลที่ปกคลุมเฉพาะส่วนที่เป็นทวีป และยังมีความหนาแน่นมากกว่าชั้นหินไซอัล
รูปตัดฉาบของโลกจากบรรยากาศชั้นเอ็กโซสเฟียร์ลงลงมา

[แก้] แมนเทิล

แมนเทิล (mantle หรือ Earth's mantle) คือชั้นที่อยู่ถัดจากเปลือกโลกลงไป มีความหนาประมาณ 3,000 กิโลเมตร บางส่วนของหินอยู่ในสถานะหลอมเหลวเรียกว่าหินหนืด (Magma) ทำให้ชั้นแมนเทิลนี้มีความร้อนสูงมาก เนื่องจากหินหนืดมีอุณหภูมิประมาณ 800 - 4300°C ซึ่งประกอบด้วยหินอัคนีเป็นส่วนใหญ่ เช่นหินอัลตราเบสิก หินเพริโดไลต์

[แก้] แก่นโลก

ความหนาแน่นของดาวโลกโดยเฉลี่ยคือ 5,515 กก./ลบ.ม. ทำให้มันเป็นดาวเคราะห์ที่หนาแน่นที่สุดในระบบสุริยะ แต่ถ้าวัดเฉพาะความหนาแน่นเฉลี่ยของพื้นผิวโลกแล้ววัดได้เพียงแค่ 3,000 กก./ลบ.ม. เท่านั้น ซึ่งทำให้เกิดข้อสรุปว่า ต้องมีวัตถุอื่นๆ ที่หนาแน่นกว่าอยู่ในแก่นโลกแน่นอน ระหว่างการเกิดขึ้นของโลก ประมาณ 4.5 พันล้านปีมาแล้ว การหลอมละลายอาจทำให้เกิดสสารที่มีความหนาแน่นมากกว่าไหลเข้าไปในแกนกลางของโลก ในขณะที่สสารที่มีความหนาแน่นน้อยกว่าคลุมเปลือกโลกอยู่ ซึ่งทำให้แก่นโลก (core) มีองค์ประกอบเป็นธาตุเหล็กถึง 80%, รวมถึงนิกเกิลและธาตุที่มีน้ำหนักที่เบากว่าอื่นๆ แต่ในขณะที่สสารที่มีความหนาแน่นสูงอื่นๆ เช่นตะกั่วและยูเรเนียม มีอยู่น้อยเกินกว่าที่จะผสานรวมเข้ากับธาตุที่เบากว่าได้ และทำให้สสารเหล่านั้นคงที่อยู่บนเปลือกโลก แก่นโลกแบ่งได้ออกเป็น 2 ชั้นได้แก่

  • แก่นโลกชั้นนอก (outer core) มีความหนาจากผิวโลกประมาณ 2,900 - 5,000 กิโลเมตร ประกอบด้วยธาตุเหล็กและนิกเกิลในสภาพที่หลอมละลาย และมีความร้อนสูง มีอุณหภูมิประมาณ 6200 - 6400 มีความหนาแน่นสัมพัทธ์ 12.0 และส่วนนี้มีสถานะเป็นของเหลว
  • แก่นโลกชั้นใน (inner core) เป็นส่วนที่อยู่ใจกลางโลกพอดี มีรัศมีประมาณ 1,000 กิโลเมตร มีอุณหภูมิประมาณ 4,300 - 6,200 และมีความกดดันมหาศาล ทำให้ส่วนนี้จึงมีสถานะเป็นของแข็ง ประกอบด้วยธาตุเหล็กและนิกเกิลที่อยู่ในสภาพที่เป็นของแข็ง มีความหนาแน่นสัมพัทธ์ 17.0

[แก้] สภาพบรรยากาศ

สภาพอากาศของโลก คือ การถูกห่อหุ้มด้วยชั้นบรรยากาศ ซึ่งมีทั้งหมด 5 ชั้น ได้แก่

  1. โทรโพสเฟียร์ เริ่มตั้งแต่ 0-10 กิโลเมตรจากผิวโลก บรรยกาศมีไอน้ำ เมฆ หมอกซึ่งมีความหนาแน่นมาก และมีการแปรปรวนของอากาศอยู่ตลอดเวลา
  2. สตราโตสเฟียร์ เริ่มตั้งแต่ 10-35 กิโลเมตรจากผิวโลก บรรยากาศชั้นนี้แถบจะไม่เปลื่ยนแปลงจากโทรโพสเฟียร์ยกเว้นมีผงฟุ่นเพิ่มมาเล็กน้อย
  3. เมโสสเฟียร์ เริ่มตั้งแต่35-80 กิโลเมตร จากผิวโลก บรรยากาศมีก๊าซโอโซนอยู่มากซึ่งจะช่วยสกัดแสงอัลตร้า ไวโอเรต (UV) จาก ดวงอาทิตย์ไม่ให้มาถึงพื้นโลกมากเกินไป
  4. ไอโอโนสเฟียร์ เริ่มตั้งแต่ 80-600 กิโลเมตร จากผิวโลก บรรยากาศมีออกซิเจน จางมากไม่เหมาะกับมนุษย์
  5. เอกโซสเฟียร์ เริ่มตั้งแต่ 600กิโลเมตรขึ้นไปจากผิวโลก บรรยากาศมีออกซิเจนจางมากๆ และมีก๊าซฮีเลียมและไฮโดรเจนอยู่เป็นส่วนมาก โดยมีชั้นติดต่อกับอวกาศ

โลกมีอุณหภูมิ 15 องศาเซลเซียส โดยเฉลี่ย

[แก้] วงโคจรและการหมุนรอบตัวเอง

โลกหมุนรอบตัวเอง 24 ชั่วโมงในหนึ่งวัน แต่นักวิทยาศาสตร์คำนวณได้ 23.56 ชั่วโมง แต่จะใช้ 24 ชั่งโมงเป็นหลัก และ 365 วันในหนึ่งปี โลกอยู่ห่างจากดวงอาทิตย์ประมาณ 150 ล้านไมล์ และเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 30 กิโลเมตรต่อวินาที หรือ 108,000 ไมล์ต่อชั่วโมง[2]

วงโคจรของดวงจันทร์ อยู่ห่างจากโลก 250,000 ไมล์ ดวงจันทร์จะหันพื้นผิวด้านเดียวเข้าหาโลกอยู่เสมอ และโคจรรอบโลกใช้เวลาประมาณหนึ่งเดือน

โลกเป็นส่วนหนึ่งของระบบสุริยะ และมีวงโคจรรอบดวงอาทิตย์ร่วมกับวัตถุขนาดเล็กกว่าพันชิ้น และดาวเคราะห์อีก 8 ดวง ดวงอาทิตย์และระบบสุริยะเคลื่อนที่ผ่านส่วนแขนออริออน ดาราจักรทางช้างเผือก และจะเคลื่อนที่ครบรอบในอีก 10,000 ปีข้างหน้า[3]

[แก้] ดาวบริวาร

ดูบทความหลักที่ ดวงจันทร์

[แก้] การอยู่อาศัย

เป็นถิ่นที่อยู่เดียวในเอกภพที่ค้นพบสิ่งมีชีวิต กลุ่มประชากรที่มีมากที่สุด คือ แบคทีเรีย กลุ่มประชากรที่มีผลมากที่สุดถ้าหายไปจากโลก คือ พืช และกลุ่มประชากรที่มีผลต่อสิ่งแวดล้อมคือ ไพรเมต โดยกลุ่มนี้มีเพียงสายพันธุ์เดียวผลต่อโลกทั้งการปรับปรุงสภาพแวดล้อม และการทำลาย สภาพแวดล้อม คือ มนุษย์

[แก้] มุมมองด้านวัฒนธรรม

[แก้] อนาคต

[แก้] อ้างอิง

  1. ^ Did Edmund Hillary Climb the Wrong Mountain?. Professional Surveyor Magazine. สืบค้นวันที่ 6 ส.ค. 2552
  2. ^ NASA- an Earth fact sheet. NASA. เรียกข้อมูลเมื่อวันที่ 2009-08-06
  3. ^ Earth's location in the Milky Way. NASA. เรียกข้อมูลเมื่อวันที่ 2009-08-06

[แก้] ดูเพิ่ม

[แก้] แหล่งข้อมูลอื่น

ดึงข้อมูลจาก "http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81".
ภาษาอื่น