เอ็มมา วัตสัน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

(เปลี่ยนทางมาจาก เอ็มม่า วัตสัน)
เอ็มมา วัตสัน

ชื่อจริง เอ็มมา ชาร์ล็อต ดูแอร์ วัตสัน
ชื่อเล่น เอ็ม, เอมส์, วันเท้ควัตสัน
เกิด 15 เมษายน พ.ศ. 2533 (อายุ 19 ปี)
อังกฤษ
ปีที่แสดง 2001 - ปัจจุบัน
เว็บทางการ

เอ็มมา ชาร์ล็อต ดูแอร์ วัตสัน (อังกฤษ: Emma Charlotte Duerre Watson) เกิดเมื่อวันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2533 เป็นนักแสดงลูกครึ่งอังกฤษ-ฝรั่งเศส[1]เป็น 1 ในนักแสดงนำจากภาพยนตร์ชื่อดังเรื่อง แฮร์รี่ พอตเตอร์ โดยรับบทเป็นเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ วัตสันเริ่มแสดงเมื่อมีอายุเพียง 9 ขวบ ในโรงเรียนการแสดง[2] เธอเริ่มแสดงตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544 - 2547 ร่วมกับ แดเนียล แรดคลิฟฟ์ และ รูเพิร์ท กรินท์ และเธอจะกลับมาแสดงต่ออีก 2 ภาคสุดท้ายคือ แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเจ้าชายเลือดผสม (ภาพยนตร์) เนื่องจากมีกำหนดออกฉายในปี พ.ศ. 2552 และ 2 ส่วนของ แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต [3] จากการแสดงภาพยนตร์เรื่อง แฮร์รี่ พอตเตอร์ นี้ทำให้เธอได้รับรางวัลเป็นจำนวนมาก และรายได้กว่า 10 ล้านปอนด์[4]

ในปี พ.ศ. 2551 วัตสันมีส่วนเกี่ยวข้องกับการผลิตภาพยนตร์นอกเหนือจาก แฮร์รี่ พอตเตอร์ ถึง 2 เรื่อง เรื่องแรกเป็นภาพยนตร์โทรทัศน์ที่ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่อง Ballet Shoes ออกอากาศในวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2550 ทำรายได้ 5.2 ล้านปอนด์และหนังแอนิเมชันเรื่อง The Tale of Despereaux ซึ่งสร้างจากงานเขียนของ Kate DiCamillo ที่จะออกฉายในปี พ.ศ. 2551[5][6]

เนื้อหา

[แก้] ประวัติในวัยเด็ก

เอ็มมา วัตสันเกิดที่ปารีส ประเทศฝรั่งเศสเป็นลูกสาวของ แจ็กกาลีน เลอร์สบี และ นักกฎหมายชาวอังกฤษคริส วัตสัน[7] เธอมียายเป็นชาวฝรั่งเศส[8] และอาศัยอยู่ในปารีสจนกระทั่งอายุ 5 ขวบ ก่อนที่เธอจะย้ายไปอยู่กับแม่และน้องชายชื่อว่า อเล็กซ์ ไปยังอ็อกซฟอร์ดไชร์ ประเทศอังกฤษ หลังจากที่พ่อแม่ของเธอแยกทางกัน[7]

วัตสันมีความปรารถนาที่จะเป็นนักแสดงตั้งแต่อายุ 6 ขวบ แล้วเธอจึงได้เริ่มแสดงในโรงเรียนการแสดง[9] เมื่ออายุ 10 ขวบ เธอแสดงใน Arthur: The Young Years and The Happy Prince[7] เธอไม่เคยแสดงแบบมืออาชีพเหมือนกับหนังซีรีส์อย่าง แฮร์รี่ พอตเตอร์ มาก่อน เธอกล่าวในปี 2550 ว่า "ฉันไม่มีความคิดเห็นเกี่ยวกับการแสดงหนังซีรีส์" ในระหว่างการสัมภาษณ์ของนิตยสารพาเหรด "ถ้าหากฉันได้แสดงอย่างนั้นจริงๆ ฉันคงจะมีความรู้สึกปลื้มปิติเป็นอย่างมาก"[10]

[แก้] ผลงานที่ผ่านมา

[แก้] แฮร์รี่ พอตเตอร์

ในปี พ.ศ. 2542 แฮร์รี่ พอตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์ เป็นภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากนวนิยายที่ขายดีที่สุดของ เจ. เค. โรว์ลิ่ง[9] สิ่งสำคัญในการคัดเลือกตัวผู้แสดงในบทบาทแฮร์รี่ พอตเตอร์ และผู้ที่แสดงเป็นตัวประกอบเด่นๆ ที่แสดงเป็นเพื่อนของแฮร์รี่อีก 2 คนคือเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ และ รอน วีสลีย์ ส่วนการคัดเลือกตัวผู้แสดงนั้นไปพบกับวัตสัน โดยผ่านทางครูสอนการแสดงของเธอที่โรงละครออกซ์ฟอร์ด[9] และผู้ผลิตมีความประทับใจในความมั่นใจของเธอมาก หลังจากการทดสอบถึง 8 ครั้ง เดวิด เฮย์แมน ได้บอกกับวัตสัน และผู้สมัครอีก 2 คนคือ แดเนียล แรดคลิฟฟ์ และ รูเพิร์ท กรินท์ว่า ทั้ง 3 คนนี้ถูกคัดเลือกให้เล่นเป็นเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์, แฮร์รี่ พอตเตอร์ และ รอน วีสลีย์ โรว์ลิ่งสนับสนุนวัตสันจากการทดสอบหน้ากล้อง[9]

วัตสันแสดงครั้งแรกในบทของ เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ ตอน แฮร์รี่ พอตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์ ในปี พ.ศ. 2544[11][12] เป็นภาพยนตร์ซีรีส์ที่ทำเงินได้สูงสุดในปีนี้ นักวิจารณ์หนังได้กล่าวชมการแสดงของตัวละครสำคัญ 3 ตัว โดยเฉพาะวัตสัน หนังสือพิมพ์เดลิเทเลกราฟท์ได้กล่าวถึงการแสดงของเธอว่า "น่าชมเชย"[13] ส่วนไอจีเอ็นกล่าวว่าเธอ "ขโมยซีนจากแฮร์รี่ พอตเตอร์"[14] เธอเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลถึง 5 รางวัลจากการแสดงใน แฮร์รี่ พอตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์ เธอชนะรางวัล Young Artist Award สำหรับนักแสดงนำที่เป็นเยาวชน[15]

หลังจากนั้น 1 ปี วัตสันได้แสดงในบทเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์อีกครั้งในแฮร์รี่ พอตเตอร์กับห้องแห่งความลับ ซึ่งเป็นภาคที่ 2 ของเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์ ถึงแม้ว่าภาคนี้ได้รับการผสมผสานเนื่องจากจังหวะและทิศทางของพวกเขา นักวิจารณ์ได้วิจารณ์การแสดงในแง่บวก หนังสือพิมพ์เดอะลอสแอนเจลิสไทม์ กล่าวว่า วัตสันและเพื่อนของเธอมีความเป็นผู้ใหญ่ขึ้นในช่วงถ่ายทำหนัง[16] ขณะที่หนังสือพิมพ์เดอะไทม์วิจารณ์ว่า การแสดงของวัตสันภายใต้การกำกับของคริส โคลัมบัส เป็นตัวละครที่โดดเด่นอย่างมาก[17] วัตสันได้รับรางวัลออตโตจากนิตยสารเยอรมัน ดาย เว็ท สำหรับการแสดงของเธอ[18] ต่อมา แฮร์รี่ พอตเตอร์กับนักโทษแห่งอัซคาบัน ออกฉายในปี พ.ศ. 2547 วัตสันได้รับความพึงพอใจการแสดงในบทบาทเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ และกล่าวถึงบทบาทของเธอว่า "มีความสามารถพิเศษ" และ "บทบาทการแสดงที่น่าทึ่ง"[19] ถึงแม้ว่านักวิจารณ์หนังจะหันเหความสนใจจากความสามารถของแรดคลิฟฟ์ไปแล้ว แถมยังตราหน้าเขาว่าเล่นแข็งทื่อยังกะท่อนไม้ แต่เธอก็ยังได้รับคำชมอย่างต่อเนื่อง จนหนังสือพิมพ์เดอะนิวยอร์กไทมส์เขียนแสดงความน่าทึ่งของเธอว่า "...โชคดีที่ได้ความดุเดือดของวัตสันมาชดเชยให้กับความอ่อนโยนของแรดคลิฟฟ์ แม้แฮร์รี่จะแสดงทักษะพ่อมดออกมาได้มากมายเพียงใด กลับเป็นเฮอร์ไมโอนีที่ได้รับเสียงปรบมือกึกก้องเมื่อเธอตะบันหน้าเดรโก มัลฟอย โดยไม่ต้องใช้เวทมนตร์อะไรเลย..."[20] ถึงแม้ว่า แฮร์รี่ พอตเตอร์กับนักโทษแห่งอัซคาบัน ที่ยังคงทำรายได้ต่ำสุดในหนังซีรีส์แฮร์รี่ พอตเตอร์ จากข้อมูลเดือนมกราคม พ.ศ. 2551 แต่เธอก็ยังชนะรางวัลออตโตถึง 2 ครั้ง และรางวัลนักแสดงเด็กยอดเยี่ยมแห่งปีจาก Total Film[21][22][23]

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับถ้วยอัคนี พ.ศ. 2548 ทั้งวัตสันและหนังซีรีส์ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ได้มาถึงจุดที่สำคัญในชีวิต แฮร์รี่ พอตเตอร์ได้สร้างสถิติเปิดตัวในสุดสัปดาห์สูงสุดที่เปิดตัวออกฉาย ที่ไม่ใช่เดือนพฤษภาคมในสหรัฐฯ และการเปิดตัวในช่วงสุดสัปดาห์ในสหราชอาณาจักร นักวิจาร์หนังต่างชื่นชมที่เพิ่มวุฒิภาวะของวัตสันและนักแสดงประกอบ หนังสือพิมพ์เดอะนิวยอร์กไทมส์แสดงความเห็นต่อบทบาทของเธอว่า "ประทับใจกับความเอาจริงเอาจังของเธอ"[24] สำหรับวัตสันแล้ว มันเป็นการเพิ่มความสนุกชวนหัวเราะที่กระโดดจากความตึงเครียด ท่ามกลางนักแสดงนำ 3 คนในขณะที่พวกเขาเป็นผู้ใหญ่ขึ้น เธอกล่าวว่า "ฉันชอบให้มีการโต้เถียงกัน...มันทำให้หนังดูสมจริงมากขึ้นว่าเป็นธรรมดาที่จะต้องมีการโต้เถียงกัน แสดงว่าพวกเขาอาจจะมีปัญหากันก็ได้"[25] ในการส่งชื่อเข้าชิงรางวัล Goblet of Fire ถึง 3 ครั้ง เธอก็ได้รับรางวัลออตโต[26][27][28] หลังจากปีนั้น เธอได้กลายเป็นผู้มีอายุน้อยที่สุดที่ปรากฏในนิตยสาร Teen_Vogue[29] ในปี พ.ศ. 2549 เธอรับบทเป็น เฮอร์ไมโอนี่ ในเรื่อง The Queen's Handbag ซึ่งเป็นภาคพิเศษของแฮร์รี่ พอตเตอร์ เนื่องในงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษาของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร[30]

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับภาคีนกฟีนิกซ์ ซึ่งเป็นภาคที่ 5 ออกฉายในปี พ.ศ. 2550 ประสบความสำเร็จในด้านการเงิน จากการออกฉายทั่วโลก ทำรายได้กว่า 332.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ[31] เธอชนะครั้งแรกในรางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ ในตำแหน่งนักแสดงหญิงที่ดีที่สุด[32] ทำให้เธอกลายเป็นนักแสดงหญิงที่ได้รับเกียรติอย่างต่อเนื่อง วัตสันและเพื่อนนักแสดงอย่าง แดเนียล แรดคลิฟฟ์ และ รูเพิร์ท กรินท์ ได้ประทับฝ่ามือ ฝ่าเท้า และคฑา ตรงหน้าโรงภาพยนตร์จีนของกรูแมน (Grauman's Chinese Theatre) ที่ฮอลลีวูด เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2550[33]

[แก้] งานที่นอกเหนือจากเรื่อง แฮร์รี่ พอตเตอร์

ภาพยนตร์ที่วัตสันแสดงนอกเหนือจากเรื่อง แฮร์รี่ พอตเตอร์ เป็นเรื่องแรกคือ บัลเลต ชูส์ (Ballet Shoes) โดยรับบทเป็น พอลลีน ฟอสซิล[34] เธอกล่าวในโปรเจ็กต์ว่า "ฉันจะถูกส่งกลับไปยังโรงเรียนหลังจากที่ถ่ายทำเรื่อง แฮร์รี่ พอตเตอร์กับภาคีนกฟีนิกซ์ เสร็จแล้ว แต่เรื่อง บัลเลต ชูส์ ไม่สามารถยืนยันได้ ฉันรักมันจริงๆ"[35] เรื่องนี้ทางบีบีซีดัดแปลงมาจากนวนิยายของ โนเอล สตรีทฟิลด์ ในเรื่องนี้วัตสันได้รับบทเป็น พอลลีน ฟอสซิล เป็นพี่สาวคนโตในจำนวนพี่น้อง 3 คน[36] ผู้กำกับแซนดรา โกลด์เบเชอร์ ได้เห็นความเห็นว่า "เอ็มมาแสดงในบทของพอลลีนได้อย่างเพอร์เฟ็คท์...เธอแสดงได้อย่างแทงทะลุเข้าไปถึงหัวใจ รัศมีที่ละเอียดอ่อนของเธอ จะเปล่งประกายทำให้คุณมีความต้องการที่จะจ้องและเพ่งเล็งเธอ" บัลเลต ชูส์ถูกออกอากาศในวันเปิดกล่องของขวัญที่สหราชอาณาจักร[37] และได้ประมาณจำนวนผู้ชมถึง 5.2 ล้านคน (22% ของจำนวนผู้ชมทั้งหมด) [38] ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับคำวิจารณ์โดยทั่วไปไม่ค่อยจะดีนัก และหนังสือพิมพ์ เดอะไทม์ พรรณาว่า "มันเป็นความก้าวหน้ากับการลงทุนที่ให้ความรู้สึกดีใจ โกรธ รัก หรือน่าอัศจรรย์ หรือการเคลื่อนไหวที่น่าทึ่ง"[39][40] อย่างไรก็ตาม รายชื่อผู้แสดงภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับคำสรรเสริญ หนังสือพิมพ์เดลิ เทเลกราฟ เขียนเอาไว้ว่า "สำเร็จได้เป็นอย่างดี แต่ก็ไม่ถึงกับน้อยที่สุด เพราะว่ามันได้มีการยืนยันว่าปัจจุบันนี้ นักแสดงวัยเยาว์ได้แสดงความสามารถได้ดีอย่างไร"[41]

วัตสันได้พากย์เสียงในภาพยนตร์ The Tale of Despereaux ที่ออกฉายในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2551[5] เธอพากย์เสียงเป็นเจ้าหญิงพี และตัวการ์ตูนของเด็กก็ถูกพากย์โดย แมทธิว โบรเดอริค และ เทรซี อัลแมน

[แก้] แผนการในอนาคต

ถึงแม้จะมีข่าวลือว่าวัตสันปฏิเสธที่จะแสดงเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์ต่อในอีก 2 ภาคสุดท้ายก็ตาม[8] เธอต่อสัญญาในภาคที่ 6 และ 7 ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2550 เธอชี้แจงการตัดสินใจอย่างหนักแน่นขณะที่การแสดงยังคงต่อเนื่อง เป็นส่วนสำคัญในชีวิตเธออีก 3 ถึง 4 ปี แต่ในที่สุดแล้ว "มีน้ำหนักในทางบวกมากกว่าลบ"[8] การแสดงในเรื่อง แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเจ้าชายเลือดผสม เริ่มต้นในปลายปี 2550[42] แม้ว่าแรดคลิฟฟ์และกรินท์ต่างยืนยันอย่างหนักแน่นว่าจะแสดงต่อแน่นอนนั้น ทางวัตสันกลับแสดงความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอนาคตของเธอ โดยการไปให้สัมภาษณ์ในนิตยสาร นิวส์วีค ในปี 2549 ว่า "แดเนียลและรูเพิร์ทดูเหมือนว่าแน่นอน...ฉันรักการแสดง แต่มันก็มีอีกหลายอย่างที่ฉันรัก และจะต้องทำด้วยเหมือนกัน"[43]

[แก้] ชีวิตส่วนตัว

วัตสันเติบโตมาท่ามกลางพ่อแม่ที่แยกทางกัน แล้วต่างคนต่างมีลูกกับสามีและภรรยาใหม่ พ่อของเธอมีลูกฝาแฝด มีชื่อว่า"นีน่า" และ "ลูซี่"[44] และมีลูกชายอายุ 4 ขวบ มีชื่อว่า "ท็อบบี้" ส่วนแม่ของเธอมีลูกชายสองคน (ซึ่งเป็นน้องชายต่างบิดาของเธอนั่นเอง) ผู้ซึ่งอยู่กับเธออย่างถูกต้อง[45] ส่วนน้องชายร่วมบิดา-มารดาของเธอ อเล็กซานเดอร์ ได้มีส่วนร่วมในการแสดงเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์ ถึง 2 ภาคด้วยกัน[44] ส่วนน้องสาวต่างมารดาของเธอนั้น ได้แสดงอยู่ในเรื่อง บัลเลต ชูว์ ออกอากาศทางบีบีซี[44]

หลังจากที่ย้ายไปยังอ็อกซ์ฟอร์ดพร้อมกับแม่และน้องชายของเธอ เธอตั้งใจที่จะเข้าโรงเรียน The Dragon School จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2546 เธอก็ย้ายไปยัง Headington School ซึ่งเป็นโรงเรียนสตรี[7] ในช่วงที่กำลังถ่ายทำอยู่นั้น เธอและเพื่อนเรียนวันละ 5 ชั่วโมง[46] ถึงแม้ว่าเธอจะเน้นในเรื่องของการถ่ายทำภาพยนตร์เป็นหลัก แต่เธอก็สามารถรักษาระดับผลการเรียนให้อยู่ในระดับมาตรฐานเอาไว้ได้ ในเดือนมิถุนายน ปี 2549 วัตสันสามารถทำข้อสอบ GCSE ใน 10 วิชา เธอได้รับ A* 8 ตัว และเกรด A 2 วิชา[47] เธอได้รับเสียงหัวเราะอย่างเป็นมิตรเนื่องจากผลการสอบของเธอ[29] เธอได้รับใบเกรดในปี 2551 จากการทดสอบขั้นสูงวิชาอักษรศาสตร์ ภูมิศาสตร์และศิลปศาสตร์[48] และในปี 2550 เธอได้รับใบเกรดวิชาประวัติศิลปะขั้นสูง[49] ปัจจุบันเธอในช่วงช่วงเวลาหาประสบการณ์ค้นหาตัวเอง 1 ปี ระหว่าง โรงเรียนกับมหาวิทยาลัย (gap year) [48] การปรับตัวในการถ่ายทำภาพยนตร์ แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต ที่มี 2 ตอนและจะฉายในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552[50] ภายหลังจากสิ่งที่เธอต้องการอย่างหนักแน่นว่าจะไปเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย เพื่อเรียนวิชาภาษาอังกฤษ[51]

วัตสันมีค่าตอบแทน 10 ล้านปอนด์จากงานแสดงในภาพยนตร์ซีรีส์ แฮร์รี่ พอตเตอร์[4] และเธอแจ้งว่าเธอไม่เคยทำงานเพื่อเงิน อย่างไรก็ตาม เธอก็ปฏิเสธที่จะออกจากโรงเรียนเพื่อมาเป็นนักแสดงอย่างเต็มตัว จากการกล่าวว่า "หลายคนไม่เข้าใจว่าทำไมฉันไม่ต้องการ...แต่ชีวิตในโรงเรียนทำให้ฉันได้มีความสัมพันธ์กับเพื่อน มันทำให้ฉันได้เรียนรู้ถึงชีวิตจริง"[10] เธอมีแนวความคิดในเชิงบวกเกี่ยวกับการเป็นนักแสดงเยาวชน เธอกล่าวว่าพ่อแม่ของเธอและมหาวิทยาลัยช่วยทำให้ฉันมีประสบการณ์ที่มีความสุข[29][45][52] เธอยังมีความสนิทสนมกันดีกับเพื่อนนักแสดงด้วยกันคือ แดเนียล แรดคลิฟฟ์ และ รูเพิร์ท กรินท์ เธอประกาศว่า "พวกเขามีระบบสนับสนุนที่มีลักษณะพิเศษ" เพื่อผ่อนคลายในระหว่างการถ่ายทำ

วัตสันสนใจงานอดิเรก เช่น เต้นรำ ร้องเพลง ฮอกกี้ เทนนิส ศิลปะ[7] ตกปลา[53] และบริจากเงินให้กับ WTT[54][55][56] เธอประกาศด้วยตัวของเธอเองว่าเธอเป็นพวกสตรีนิยม[10][45] และมีความเลื่อมใสต่อนักแสดง จอห์นนี เดปป์ และ จูเลีย โรเบิตส์[57]

เมื่อเธอแตกเนื้อสาวแล้ว เธอมีความสนใจทางด้านแฟชั่น เธอเคยบอกว่าเธอเคยดูแฟชั่นเหมือนเป็นศิลปะ ซึ่งเธอเรียนในโรงเรียน ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2551 เธอบอกผ่านทางเว็บบล็อกว่า "ฉันได้เน้นย้ำไปยังศิลปะอย่างมาก และแฟชั่นก็คือสิ่งนั้น"[58]

[แก้] เรื่องที่แสดง

ปี ภาพยนตร์ รับบทเป็น หมายเหตุ
2544 แฮร์รี่ พอตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์ เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์
2545 แฮร์รี่ พอตเตอร์กับห้องแห่งความลับ
2547 แฮร์รี่ พอตเตอร์กับนักโทษแห่งอัซคาบัน
2548 แฮร์รี่ พอตเตอร์กับถ้วยอัคนี
2550 แฮร์รี่ พอตเตอร์กับภาคีนกฟีนิกซ์
Ballet Shoes พอลลีน ฟอสซิล ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง BBC 1
2551 The Tale of Despereaux เจ้าหญิงพี พากย์เสียง
2552 แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเจ้าชายเลือดผสม เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ มีหมายกำหนดการที่จะฉายรอบปฐมฤกษ์ในวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2552[59]
2553 แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต ตอนที่ 1 หนังสือพิมพ์ลอสเองเจลลิส ไทม์ ได้ยืนยันถึงการผลิต[60]
2554 แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต ตอนที่ 2

[แก้] รางวัลที่ได้รับ

ปี (พ.ศ.) องค์กร รางวัล ภาพยนตร์ ผล
2545 รางวัลจิตรกรเด็ก การแสดงที่ดีที่สุดในภาพยนตร์ขนาดยาวปานกลาง – นักแสดงหญิงยอดเยี่ยม แฮร์รี่ พอตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์ ชนะรางวัล[15]
Academy of Science Fiction, Fantasy & Horror Films รางวัลแซทเทิร์น เสนอชื่อเข้าชิง[61]
เอ็มไพร์ รางวัลเอ็มไพร์ เสนอชื่อเข้าชิง[62]
ราวลัอเมริกันมูวี่ นักแสดงสนับสนุนดีเด่น เสนอชื่อเข้าชิง[63]
นักแสดงเยาวชนยอดเยี่ยม การแต่งตัวชุดที่ดีที่สุดในภาพยนตร์ขนาดยาวปานกลาง เสนอชื่อเข้าชิง[15]
2546 รางวัลออตโต นักแสดงหญิงยอดเยี่ยม (เหรียญเงิน) แฮร์รี่ พอตเตอร์กับห้องแห่งความลับ ชนะรางวัล[18]
2547 รางวัลออตโต นักแสดงหญิงยอดเยี่ยม (เหรียญเงิน) แฮร์รี่ พอตเตอร์กับนักโทษแห่งอัซคาบัน ชนะรางวัล[21]
โททอล ฟิล์ม นักแสดงเด็กแห่งปี ชนะรางวัล[23]
สมาคมนักวิจารณ์ละครโทรทัศน์ นักแสดงหญิงดีเยี่ยม เสนอชื่อเข้าชิง[64]
2548 Otto Awards นักแสดงหญิงยอดเยี่ยม (เหรียญทอง) ชนะรางวัล[22]
Broadcast Film Critics Association นักแสดงหญิงยอดเยี่ยม แฮร์รี่ พอตเตอร์กับถ้วยอัคนี เสนอชื่อเข้าชิง[27]
2549 Otto Awards นักแสดงหญิงยอดเยี่ยม (เหรียญเงิน) ชนะรางวัล[26]
รางวัลภาพยนตร์ MTV Best On-Screen Team เสนอชื่อเข้าชิง[28]
2550 รางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ (ไอทีวี) นักแสดงหญิงยอดเยี่ยม แฮร์รี่ พอตเตอร์กับภาคีนกฟีนิกซ์ ชนะรางวัล[32]
UK Nickelodeon Kids' Choice Awards นักแสดงหญิงยอดเยี่ยม ชนะรางวัล[65]
2551 รางวัลโซนี่ อิรคสัน เอ็มไพร์UK นักแสดงหญิงยอดเยี่ยม เสนอชื่อเข้าชิง[66]
รางวัลคอนสเทลเลชัน นักแสดงหญิงยอดเยี่ยม ชนะรางวัล[67]
Otto Awards นักแสดงหญิงยอดเยี่ยม (เหรียญทอง) ชนะรางวัล[68]
รางวัล SyFy Genre นักแสดงหญิงยอดเยี่ยม ชนะรางวัล[69]
รางวัลเกรเมอร์ Best UK TV Actress บัลเลต ชูส์ เสนอชื่อเข้าชิง[70]

[แก้] อ้างอิง

  1. ^ Warner Bros. Official site. (Flash: click appropriate actor's image, click "Actor Bio"). harrypotter.warnerbros.co.uk.
  2. ^ "Emma Watson", 'The New York Times'. สืบค้นวันที่ 2008-01-12
  3. ^ Warner Bros. (2007-03-23) Daniel Radcliffe, Rupert Grint and Emma Watson to Reprise Roles in the Final Two Instalments of Warner Bros. Pictures' Harry Potter Film Franchise ข่าวหนังสือพิมพ์ เรียกดูเมื่อ 2007-03-23
  4. ^ 4.0 4.1 Stenzhorn, Stefan. "Potter star Watson "rich enough to retire"", RTÉ.ie Entertainment, 2007-07-27. สืบค้นวันที่ 2007-07-27
  5. ^ 5.0 5.1 Watson, Emma. Emma Watson official website news. สืบค้นวันที่ 2007-08-27
  6. ^ Gould, Lara. "Hermione Set for BBC Role", 'The Sunday Mirror', 2007-08-05. สืบค้นวันที่ 2007-08-06
  7. ^ 7.0 7.1 7.2 7.3 7.4 Watson, Emma. Biography. Emma Watson's Official Website. สืบค้นวันที่ 2007-08-03
  8. ^ 8.0 8.1 8.2 Barlow, Helen. A life after Harry Potter. The Sydney Morning Herald. สืบค้นวันที่ 2006-03-16
  9. ^ 9.0 9.1 9.2 9.3 Watson, Emma. Emma. Emma Watson's Official Website. สืบค้นวันที่ 2007-08-03
  10. ^ 10.0 10.1 10.2 Listfield, Emily (2007-07-08). We're all so grown up!. Parade. สืบค้นวันที่ 2007-08-03
  11. ^ ""Harry Potter" magically shatters records", 'Hollywood.com', 2001-11-18. สืบค้นวันที่ 2007-09-21
  12. ^ 2001 Worldwide Grosses. Box Office Mojo. สืบค้นวันที่ 2007-05-29
  13. ^ "Magic is the only word for it", 'The Daily Telegraph', 2007-11-04. สืบค้นวันที่ 2007-09-23
  14. ^ Linder, Brian. "Review of Harry Potter and the Sorcerer's Stone", 'IGN', 2001-11-17. สืบค้นวันที่ 2007-09-23
  15. ^ 15.0 15.1 15.2 2002 nominations and winners. Young Artist's Awards. สืบค้นวันที่ 2007-09-13
  16. ^ Kenneth Turan. "Harry Potter and the Chamber of Secrets", 'Los Angeles Times', 2002-11-15. สืบค้นวันที่ 2007-09-22
  17. ^ Ellen, Barbara. "Film of the week", 'The Times', 2002-11-14. สืบค้นวันที่ 2007-09-23
  18. ^ 18.0 18.1 Bravo Otto – Sieger 2003. Bravo magazine. สืบค้นวันที่ 2007-09-22 (German)
  19. ^ Trout, Jonathon (2004-06-01). Daniel Radcliffe, Rupert Grint, Emma Watson. BBC. สืบค้นวันที่ 2007-08-03
  20. ^ A. O. Scott. "Harry Potter and the Prisoner of Azkaban: Film review", 'The New York Times', 2004-06-03. สืบค้นวันที่ 2007-09-23
  21. ^ 21.0 21.1 "Dan Wins Another Otto Award", DanRadcliffe.com. สืบค้นวันที่ 2007-09-13
  22. ^ 22.0 22.1 Presseportal.com' Bravo Otto Awards 2005 (in German) ข่าวหนังสือพิมพ์ เรียกดูเมื่อ 2007-09-13
  23. ^ 23.0 23.1 "Emma Watson wins award", HPANA, 2004-11-04. สืบค้นวันที่ 2007-09-22
  24. ^ Dargis, Manohla. "The Young Wizard puts away childish things", 'The New York Times', 2005-11-17. สืบค้นวันที่ 2007-09-24
  25. ^ Daniel Radcliffe, Emma Watson and Rupert Grint. IGN (2005-11-15). สืบค้นวันที่ 2007-08-03
  26. ^ 26.0 26.1 "Dan & Emma win Bravo Otto awards", HPANA, 2006-05-08. สืบค้นวันที่ 2007-09-22
  27. ^ 27.0 27.1 Goblet of Fire awards. Broadcast Film Critics Association. สืบค้นวันที่ 2007-09-13
  28. ^ 28.0 28.1 Carroll, Larry. "Alba, Carell, 'Crashers,' 'Virgin' Big Nominees For MTV Movie Awards", MTV, 2006-04-24. สืบค้นวันที่ 2007-09-22
  29. ^ 29.0 29.1 29.2 Horn, Steven (2007-06-26). Interview with Emma Watson. IGN. สืบค้นวันที่ 2007-09-30
  30. ^ New Harry Potter scene for queen. BBC News (2006-06-12). สืบค้นวันที่ 2007-08-06
  31. ^ All Time worldwide opening records. Box Office Mojo. สืบค้นวันที่ 2007-09-25
  32. ^ 32.0 32.1 Pryor, Fiona. "Potter wins film awards hat-trick", 2007-09-28. สืบค้นวันที่ 2007-09-29
  33. ^ "Stardom fades, but cement lives on", 'The Toronto Star', 2008-01-11. สืบค้นวันที่ 2008-01-22
  34. ^ Warman, Matt. "Dancing towards their dreams", 'The Daily Telegraph', 2007-12-21. สืบค้นวันที่ 2008-01-12
  35. ^ BBC A Christmas treat for all the family ข่าวหนังสือพิมพ์ เรียกดูเมื่อ 2008-01-01
  36. ^ Pielou, Adriaane. "Ballet Shoes saw me through", 'The Daily Telegraph', 2007-12-26. สืบค้นวันที่ 2008-01-01
  37. ^ BBC BBC One Transmission Details, weeks 52/1 ข่าวหนังสือพิมพ์ เรียกดูเมื่อ 2008-01-01
  38. ^ Tryhorn, Chris. "Viewers sold on Old Curiosity Shop", 'The Guardian', 2007-12-27. สืบค้นวันที่ 2008-01-01
  39. ^ Wollaston, Sam. "Last Night's TV", 'The Guardian', 2007-12-27. สืบค้นวันที่ 2008-01-01
  40. ^ Teeman, Tim. "Last Night's TV", 'The Times', 2007-12-27. สืบค้นวันที่ 2008-01-01
  41. ^ Walton, James. "Ballet Shoes", 'The Daily Telegraph', 2007-12-27. สืบค้นวันที่ 2008-01-01
  42. ^ Adams, Katie. "Village set for Harry Potter filming", The Wiltshire Times, 2007-10-18. สืบค้นวันที่ 2008-01-12
  43. ^ "Will Harry Potter lose one of its stars?", 'Newsweek', 2006-10-02. สืบค้นวันที่ 2007-09-25
  44. ^ 44.0 44.1 44.2 Watson, Emma (2007-09-24). Emma's sisters in Ballet Shoes. Emma Watson's official website. สืบค้นวันที่ 2007-09-30
  45. ^ 45.0 45.1 45.2 Gordon, Jane (2007-08-13). Touched by magic: Harry Potter's Hermione.
  46. ^ Muir, Kate. "Cast Interviews", 'The Times', 2004-05-15. สืบค้นวันที่ 2008-01-12
  47. ^ "Pupils "sitting too many GCSEs"", BBC News, 2006-08-24. สืบค้นวันที่ 2007-05-27
  48. ^ 48.0 48.1 Tibbetts, Graham. "A-levels: Harry Potter actress Emma Watson gets straight As", 'The Daily Telegraph', 2008-08-14. สืบค้นวันที่ 2008-12-10
  49. ^ "Emma's A/S Results", Emma Watson's Official Website, 2007-08-17. สืบค้นวันที่ 2007-08-18
  50. ^ Olly Richards. "Potter Producer Talks Deathly Hallows", Empire, 2008-03-14. สืบค้นวันที่ 2008-03-15
  51. ^ Long, Camilla. "What next in life for Emma Watson", 'Times Online', 2008-12-07. สืบค้นวันที่ 2008-12-10
  52. ^ Cawthorne, Alec. "Rupert Grint and Emma Watson", BBC, 2007-11-07. สืบค้นวันที่ 2007-08-03
  53. ^ Emma Watson loves to go fishing for a spell. The Daily Telegraph. Retrieved on 2008-05-19.
  54. ^ Emma Watson donates items for WTT auction. Harry Potter Automatic News Aggregator. สืบค้นวันที่ 2008-05-19
  55. ^ Emma Watson donates items for WTT auction again. Harry Potter Automatic News Aggregator. สืบค้นวันที่ 2008-05-19
  56. ^ The Wild Trout Trust - Internet & Postal Auction 2008 (PDF). Wild Trout Trust. สืบค้นวันที่ 2008-05-19
  57. ^ Watson, Emma. emma-faq. Emma Watson's Official Website. สืบค้นวันที่ 2007-08-03
  58. ^ Emma Watson at Fashion Week
  59. ^ "Harry Potter and the Half-Blood Prince moves to summer 2009", MarketWatch, 2008-08-14. สืบค้นวันที่ 2008-08-15
  60. ^ Geoff Boucher. "Final 'Harry Potter' book will be split into two movies", Los Angeles Times, 2008-03-13. สืบค้นวันที่ 2008-03-17
  61. ^ 2002 Saturn Awards. IMDB. สืบค้นวันที่ 2007-09-13
  62. ^ 2002 Empire Awards. IMDB. สืบค้นวันที่ 2007-09-13
  63. ^ American Moviegoer Award nominations. Time Warner. สืบค้นวันที่ 2007-09-13
  64. ^ Prisoner of Azkaban awards. Broadcast Film Critics Association. สืบค้นวันที่ 2007-09-13
  65. ^ Akers, Shelley. "Emma Watson Is Named Nickelodeon's Best Actress", 'People', 2007-10-20. สืบค้นวันที่ 2007-10-24
  66. ^ "Six Nominations for "Order of the Phoenix" at Empire Awards", 'The Leaky Cauldron', 2008-02-03. สืบค้นวันที่ 2008-02-03
  67. ^ Will Smith, Emma Watson & “Transformers” Win Canadian Film/TV Awards. marketwire (July 2008). สืบค้นวันที่ 2008-07-15
  68. ^ Dan and Emma won Otto Awards. Bravo Germany (May 2008). สืบค้นวันที่ 2008-05-06
  69. ^ 'Battlestar Galactica' Leads Way With 11 SyFy Genre Awards Nods. SyFy Portal (August 2008). สืบค้นวันที่ 2008-08-24
  70. ^ Emma Watson Nominated for Glamour Awards. The Leaky Cauldron (February 2008).

[แก้] แหล่งข้อมูลอื่น

Commons
คอมมอนส์ มีภาพและสื่ออื่นๆ เกี่ยวกับ:
เอ็มมา วัตสัน

เครื่องมือส่วนตัว