เอเอสทีวีผู้จัดการ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

(เปลี่ยนทางมาจาก ผู้จัดการออนไลน์)
หนังสือพิมพ์เอเอสทีวีผู้จัดการรายวัน
หนังสือพิมพ์เอเอสทีวีผู้จัดการรายวัน

ประเภท หนังสือพิมพ์รายวัน
รูปแบบ ธุรกิจและการเมือง
เจ้าของ บริษัท เอเอสทีวี (ประเทศไทย) จำกัด
สำนักพิมพ์ โรงพิมพ์ตะวันออก

บรรณาธิการ
อำนวยการ สนธิ ลิ้มทองกุล
บริหาร ตุลย์ ศิริกุลพิพัฒน์
บุคคลสำคัญ

ภาษาที่ใช้
ก่อตั้งเมื่อ เอเอสทีวีผู้จัดการ
(21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 (อายุ 1 ปี))
ผู้จัดการรายวัน
(7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2533)
เอเอสทีวีผู้จัดการรายสัปดาห์
(10 ตุลาคม พ.ศ. 2552 (อายุ 0 ปี))
ฉบับสุดท้าย ผู้จัดการรายวัน
18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 (18 ปี)
ราคา 20.00 บาท

สำนักงาน เลขที่ 102/1 ถนนพระอาทิตย์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
เว็บไซต์ www.manager.co.th

เอเอสทีวีผู้จัดการรายวัน เป็นหนังสือพิมพ์รายวัน ออกจำหน่ายทุกวันจันทร์-วันเสาร์ (โดยฉบับวันเสาร์จะควบวันอาทิตย์ไปด้วย) เสนอข่าวธุรกิจ และการเมือง โดยเฉพาะความเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นอกจากนี้ ยังมีหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ 360° รายสัปดาห์ , นิตยสารผู้จัดการ 360° รายเดือน และเว็บไซต์ข่าวเอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์ อีกด้วย

เนื้อหา

[แก้] ประวัติ

[แก้] ผู้จัดการรายวัน

หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน ก่อตั้งเมื่อวันพุธที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2533 โดย สนธิ ลิ้มทองกุล เริ่มมีชื่อเสียงโดดเด่น[1] ในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ พ.ศ. 2535 หลังการปราบปรามประชาชน ที่ชุมนุมต่อต้านรัฐบาล พล.อ.สุจินดา คราประยูร ขณะที่สื่อโทรทัศน์ในประเทศ ถูกควบคุมการเสนอข่าวโดยรัฐบาล และไม่รายงานการสูญเสียชีวิตของประชาชน ต่อมามีการตรวจสอบ และควบคุมการเสนอข่าว และภาพข่าว ที่ลงตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์อย่างเข้มงวด

อย่างไรก็ตาม ผู้จัดการรายวัน ร่วมกับหนังสือพิมพ์อื่น เช่น เดอะเนชั่น, กรุงเทพธุรกิจ และ แนวหน้า ตีพิมพ์ภาพข่าวการปราบปรามประชาชน[2] นอกจากนั้น ยังมีการตีพิมพ์หนังสือพิมพ์ผู้จัดการฉบับพิเศษ แจกฟรีไปทั่วกรุงเทพมหานคร เพื่อรายงานข่าวการชุมนุมบนถนนราชดำเนิน จนถูกรัฐบาลดำเนินคดี และสั่งปิดเป็นเวลาสองวัน

อย่างไรก็ตาม วิกฤตการณ์ทางการเงินในเอเชีย พ.ศ. 2540 ก็ทำให้เครือผู้จัดการประสบปัญหาทางการเงินอย่างรุนแรง และในที่สุด ธนาคารหลายแห่งก็ฟ้องล้มละลาย และศาลได้ตัดสินให้สนธิเป็นบุคคลล้มละลาย ในช่วงปี พ.ศ. 2544 โดยผู้จัดการรายวัน มีชื่อเสียงโดดเด่น จากคอลัมน์ข่าวปนคน คนปนข่าว ของเซี่ยงเส้าหลง ซึ่งเป็นนามปากกาของสนธิ, คอลัมน์คันปาก โดยนามปากกาซ้อเจ็ด และหนังสือพิมพ์ล้อเลียนผู้จัดกวน ทั้งนี้ หลังจากสนธิเริ่มจัดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร เมื่อปี พ.ศ. 2548 ซึ่งพัฒนาไปเป็นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในปี พ.ศ. 2549 นั้น ผู้จัดการรายวัน ก็ได้แปรสภาพไปเป็นกระบอกเสียงของรายการฯ และกลุ่มพันธมิตรฯ ร่วมกับสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวี ช่องนิวส์วัน

เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 ศาลล้มละลายกลางพิจารณาเห็นสมควรให้ บริษัท แมเนเจอร์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เจ้าของหนังสือพิมพ์และนิตยสารในเครือผู้จัดการ มีสภาพล้มละลาย เนื่องจากมีหนี้สินกว่า 4,726 ล้านบาท จึงมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์สินของบริษัทดังกล่าวโดยเด็ดขาด ซึ่งชื่อหนังสือพิมพ์และนิตยสารในเครือทั้งหมด ก็ถือเป็นทรัพย์สินของบริษัทฯ ตามกฎหมายเช่นกัน จึงไม่สามารถออกหนังสือพิมพ์และนิตยสาร โดยใช้ชื่อเดิมอีกต่อไป[3]

[แก้] ระยะเปลี่ยนผ่าน

หลังจากใช้ชื่อเดิมไม่ได้อีกต่อไป ทีมงานกองบรรณาธิการชุดเดิมของผู้จัดการรายวัน ยังคงปฏิบัติงานตามปกติ และยังพยายามออกหนังสือพิมพ์อย่างต่อเนื่อง โดยเลี่ยงไปใช้ชื่อใหม่ที่คล้ายคลึงกับชื่อเดิม ซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นการลอกเลียนเครื่องหมายการค้าของผู้อื่น[3] ทั้งนี้ ชื่อต่างๆ ที่ใช้ออกหนังสือพิมพ์ในแต่ละวัน มีรายละเอียดต่างๆ ดังนี้

  • วันพุธที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 - ผู้จัดการ 2551 รายวัน โดยยังคงนับจำนวนปี และจำนวนฉบับ ต่อเนื่องจากหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวันเดิม[4] แต่ไม่มีบรรณลักษณ์ภายในฉบับ
  • วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 - สารจากเอเอสทีวี โดยทีมงานผู้จัดการ ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า ไม่ปรากฏการนับปี และเลขฉบับบนหัวหนังสือ[5][6] รวมถึงไม่มีบรรณลักษณ์ภายในฉบับอีกเช่นกัน

[แก้] เอเอสทีวีผู้จัดการ

เมื่อวันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 ทีมงานกองบรรณาธิการชุดเดิมของผู้จัดการรายวัน ออกหนังสือพิมพ์โดยใช้ชื่อว่า เอเอสทีวีผู้จัดการรายวัน โดยเริ่มระบุการนับเลขปี และเลขฉบับบนหัวหนังสือ เป็นฉบับปฐมฤกษ์ มีราคาจำหน่าย 20 บาท[7] และระบุในบรรณลักษณ์ว่า บริษัท เอเอสทีวี (ประเทศไทย) จำกัด เป็นเจ้าของ

[แก้] เอเอสทีวีผู้จัดการรายสัปดาห์

[แก้] เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์

เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์ เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ข่าว ที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากคนไทย ทั้งในและต่างประเทศ เพราะมีการรายงานข่าวและบทความที่รวดเร็ว ตลอด 24 ชั่วโมง จุดเด่นของเอเอสทีวีผู้จัดการฉบับออนไลน์ คือการให้ผู้อ่านสามารถเข้าถึงเนื้อหาได้ทุกส่วน โดยไม่จำเป็นต้องสมัครสมาชิก หรือมีค่าบริการ เนื้อหาในฉบับออนไลน์เกือบทั้งหมด เป็นเนื้อหาเดียวกับฉบับที่ตีพิมพ์ วันศุกร์ที่ 28 พ.ย. 2551 เว็บไซต์ได้เปลี่ยนโลโก้เว็บไซต์ใหม่ให้เหมือนกับหนังสือพิมพ์

ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2549 จากการจัดอันดับโดย อเล็กซา ผู้จัดการออนไลน์ เป็นเว็บไซต์ข่าว ที่ผู้ใช้จากประเทศไทย เข้าชมมากที่สุด เป็นอันดับที่ 1 และ เป็นอันดับ 10 จากเว็บไซต์ รวมทุกประเภท[8] และ จากการจัดอันดับโดย ทรูฮิตส์ เป็นเว็บไซต์ข่าว ที่มีผู้เข้าชมมากที่สุด เป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย และ มากเป็นอันดับ 3 หากรวมทุกประเภท[9] แต่ในเดือน ตุลาคม พ.ศ. 2551 จากการจัดอันดับโดย ทรูฮิตส์ ที่มีผู้เข้าชมมากที่สุด เป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย และ มากเป็นอันดับ 4 หากรวมทุกประเภท ตกลง 1 อันดับ จากเดิมอันดับ 3 [10]

[แก้] ผลกระทบต่อเว็บไซต์อันเนื่องมาจากการเมือง พ.ศ. 2548-พ.ศ. 2551

เมื่อ สนธิ ลิ้มทองกุล เจ้าของหนังสือพิมพ์ในเครือผู้จัดการ ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยเป็นแกนนำผู้ก่อตั้ง พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย การรายงานข่าว ของ เว็บไซต์เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์จึงต่อต้านรัฐบาล และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในสมัยนั้น ทำให้กลายเป็นแหล่งข่าวสำคัญ สำหรับผู้ที่ต่อต้านรัฐบาลทักษิณ ข้อมูลบางข้อมูลนำไปสู่การโต้แย้งอย่างกว้างขวาง เช่นการตีพิมพ์ ทฤษฎีสมคบคิด "แผนฟินแลนด์" และเป็นเหตุให้เกิดข้อขัดแย้งทางความคิดเห็น ระหว่างกลุ่มผู้ต่อต้าน และผู้สนับสนุนรัฐบาล ด้วยเหตุนี้ ทาง ผู้จัดการออนไลน์ จึงได้ติดตั้ง ระบบการกรองความคิดเห็นท้ายข่าว ที่จะปรากฏบนเว็บขึ้น นอกจากนี้ ผู้จัดการออนไลน์ ยังอ้างว่าได้ถูกโจมตี โดยใช้เทคโนโลยีทางคอมพิวเตอร์ ในการทำความเสียหายให้กับเว็บไซต์ ด้วยมัลแวร์ (Malware) [11] ปัจจุบัน ผลกระทบจากการนำเสนอข่าวของนสพ.ผู้จัดการ ซึ่งมีบทบาทนำในการต่อต้าน พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ทำให้นายขุนทอง ลอเสรีวานิช บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ถูกยื่นฟ้องร้องและต้องคำพิพากษาฐานหมิ่นประมาทจากศาลชั้นต้น โทษรอลงอาญาไว้ 2 ปี ชำระค่าปรับรวมสี่หมื่นบาท[ต้องการอ้างอิง] พร้อมลงโฆษณาขอโทษฝ่ายโจทก์ในหนังสือพิมพ์ 4 ฉบับ เป็นเวลา 5 วัน ซึ่งศาลพิจารณาเห็นว่า จำเลยกล่าวหาโจทก์โดยไม่พิสูจน์ทางหลักนิติศาสตร์ มุ่งหวังกระแสโค่นล้มนายกรัฐมนตรี ยุยงให้ประชาชนแบ่งแยกเป็น 2 ฝ่าย และใช้สีเหลืองอันเป็นสัญลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาเป็นสัญลักษณ์ในการชุมนุม[ต้องการอ้างอิง]

[แก้] อ้างอิง

  1. ^ หนังสือปรากฏการณ์สนธิ จากเสื้อสีเหลืองถึงผ้าพันคอสีฟ้า โดย คำนูณ สิทธิสมาน. พ.ศ. 2549. ISBN 9749460979
  2. ^ บทสุดท้าย..ทีวีเสรี (ตอนที่ 1) บล็อกของเทพชัย หย่อง ในโอเคเนชั่น
  3. ^ 3.0 3.1 เส้นทางขรุขระ MANAGER-ลิ้มทองกุล เสี่ยงจนหมด หรือถูกกลั่นแกล้ง? / ไขปม ทำไม“แมเนเจอร์ มีเดีย”ล้มละลาย ไม่เกี่ยวต้าน"แม้ว"-อะไรจะเกิดขึ้นกับหนี้ก้อนโต 4,726 ล้านบาท รายงานพิเศษ หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ
  4. ^ ภาพหน้า 1 หนังสือพิมพ์ “ผู้จัดการ 2551 รายวัน”
  5. ^ ภาพหัวหนังสือพิมพ์ “สารจากเอเอสทีวี โดยทีมงานผู้จัดการ”
  6. ^ ภาพหน้า 1 หนังสือพิมพ์ “สารจากเอเอสทีวี โดยทีมงานผู้จัดการ”
  7. ^ ภาพหน้า 1 หนังสือพิมพ์ “เอเอสทีวีผู้จัดการรายวัน”
  8. ^ 100 เว็บยอดนิยมอันดับแรกของประเทศไทย จัดอันดับโดยเว็บไซต์ อเล็กซา
  9. ^ จัดอันดับเว็บ โดย Truehits.net
  10. ^ จัดอันดับเว็บ โดย Truehits.net
  11. ^ ผู้จัดการออนไลน์เจอแฮกเกอร์มือดีป่วน ข่าวจากผู้จัดการออนไลน์

[แก้] แหล่งข้อมูลอื่น

ภาษาอื่น