253 แมธิลด์
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ภาพ 253 แมธิลด์ ของนาซา |
|
การค้นพบ[1] | |
---|---|
ค้นพบโดย: | โยฮันน์ พาลิซา |
ค้นพบเมื่อ: | 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2428 |
ชื่ออื่นๆ: | 1949 OL1, A915 TN |
ชนิดของดาวเคราะห์น้อย: | แถบดาวเคราะห์น้อยหลัก |
ลักษณะเฉพาะของวงโคจร[2] | |
จุดเริ่มยุค 30 มกราคม พ.ศ. 2548 (JD 2453400.5) | |
ระยะจุด ไกลดวงอาทิตย์ที่สุด: |
501.334 จิกะเมตร 3.35121 หน่วยดาราศาสตร์ |
ระยะจุด ใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุด: |
290.564 จิกะเมตร 1.94230 หน่วยดาราศาสตร์ |
กึ่งแกนเอก: | 395.949 จิกะเมตร 2.64676 หน่วยดาราศาสตร์ |
ความเยื้องศูนย์กลาง: | 0.266157 |
คาบดาราคติ: | 1572.787 วัน (4.31 ปีจูเลียน) |
อัตราเร็วเฉลี่ย ในวงโคจร: |
17.98 กม./วินาที(1) |
อนอมัลลีเฉลี่ย: | 111.960° |
ความเอียง: | 6.738° |
ลองจิจูด ของจุดโหนดขึ้น: |
179.633° |
ระยะมุมจุด ใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุด: |
157.475° |
ลักษณะเฉพาะทางกายภาพ | |
มวล: | 1.033 (±0.044) ×1017[3] กก. |
ความหนาแน่นเฉลี่ย: | 1.3[3] กรัม/ซม.³ |
ความโน้มถ่วง ที่ศูนย์สูตร: |
0.0025(2) เมตร/วินาที² |
ความเร็วหลุดพ้น: | 16.2(3) เมตร/วินาที |
อุณหภูมิ: | ~174(4) K |
โชติมาตรสัมบูรณ์: | 10.20[2] |
253 แมธิลด์ (อังกฤษ: 253 Mathilde; เสียงอ่าน: /məˈtɪldə/) เป็นดาวเคราะห์น้อยในแถบดาวเคราะห์น้อยหลัก ค้นพบโดย โยฮันน์ พาลิซา ใน พ.ศ. 2428 ใช้เวลาในการโคจรรอบดวงอาทิตย์กว่าสี่ปี และโคจรรอบตัวเองด้วยอัตราที่ช้าผิดปกติ คือใช้เวลา 17.4 วัน ในการโคจรรอบตัวเองครบหนึ่งรอบ[4] ดาวเคราะห์น้อยดวงนี้จัดว่าเป็นดาวเคราะห์น้อยประเภท C ซึ่งพื้นผิวมีส่วนประกอบของคาร์บอนอยู่เป็นปริมาณมาก ทำให้พื้นผิวของดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ทึบแสง โดยจะสะท้อนแสงเพียง 4% ของแสงที่ตกกระทบ[5]
เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2540 ยาน NEAR ชูเมกเกอร์ ได้สำรวจดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ ระหว่างทางที่จะเดินทางไปยังดาวเคราะห์น้อยอีรอส และได้ถ่ายภาพของดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ไว้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงหลุมอุกกาบาตจำนวนมากบนพื้นผิว ปัจจุบัน 253 แมธิลด์ เป็นดาวเคราะห์น้อยที่ใหญ่ที่สุดและดาวเคราะห์น้อยประเภท C ดวงแรก ที่มียานอวกาศไปสำรวจ
เนื้อหา |
[แก้] ประวัติการค้นพบ
ในปี พ.ศ. 2423 โยฮันน์ พาลิซา กรรมการของหอดูดาวออสเตรียนาวาล ได้รับมอบหมายให้ไปเป็นผู้ช่วยในหอดูดาวเวียนนาที่เพิ่งเปิดใหม่ ซึ่งพาลิซาได้ใช้กล้องโทรทรรศน์หักเหแสง ขนาด 27 นิ้ว (690 มม.) ซึ่งเป็นกล้องที่ใหญ่ที่สุดในโลกในขณะนั้น และกล้องขนาด 12 นิ้ว (300 มม.) ในการค้นพบดาวเคราะห์น้อยจำนวน 94 ดวง[6] โดยก่อนหน้านี้เขาได้ค้นพบดาวเคราะห์น้อยมาแล้ว 27 ดวง
253 แมธิลด์ เป็นหนึ่งในดาวเคราะห์น้อยที่พาลิซาค้นพบในช่วงนั้น โดยได้ถูกค้นพบเมื่อ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2428 ข้อมูลต่าง ๆ ของดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ได้คำนวณโดย วี. เอ. เลเบิฟ ซึ่งเป็นนักดาราศาสตร์ชาวออสเตรียที่ทำงานในหอดูดาวแห่งนี้เช่นเดียวกัน ชื่อของดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ตั้งตามชื่อของ แมธิลด์ ภรรยาของมอริส โลวี ซึ่งเป็นผู้อำนวยการของหอดูดาวปารีสในขณะนั้น[1][4]
ในปี พ.ศ. 2538 ได้มีการสังเกตว่า 253 แมธิลด์ เป็นดาวเคราะห์น้อยประเภท C และมีอัตราเร็วในการโคจรรอบตัวเองที่ช้าผิดปกติ[4]
เมือวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2540 ยาน NEAR ชูเมกเกอร์ ได้เดินทางผ่านเข้าใกล้ 253 แมธิลด์ ในระยะ 1,212 กิโลเมตร ขณะที่เดินทางด้วยความเร็ว 9.93 กิโลเมตรต่อวินาที และในขณะที่เข้าใกล้ ยานลำนี้ได้ถ่ายภาพพื้นผิวของดาวกว่า 500 ภาพ[5] ทำให้ได้ข้อมูลที่มีประโยชน์ในการคำนวณขนาดและมวลของดาวได้แม่นยำมากขึ้น[3] อย่างไรก็ตาม มีภาพถ่ายครึ่งทรงกลมของดาวเคราะห์น้อยดวงนี้เพียงภาพเดียวที่ได้มีการบันทึกภาพไว้ ซึ่งเป็นดาวเคราะห์น้อยดวงที่สามที่มีการถ่ายภาพในระยะใกล้ ถัดจาก 951 แกสปรา และ 243 ไอด้า[7]
[แก้] ลักษณะ
253 แมธิลด์ เป็นดาวเคราะห์ที่มืดมาก ได้มีการจัดระดับความสว่างไว้ว่าอยู่ในระดับเดียวกับยางมะตอย[8] ส่วนประกอบหลักของดาวประกอบด้วยสารจำพวกคาร์บอนนาเคียสคอนไดรต์ และพื้นผิวของดาวส่วนใหญ่เป็นแร่ธาตุจำพวกซิลิเกต[9] นอกจากนี้ บนพื้นผิวดาวยังมีหลุมอุกกาบาตขนาดใหญ่จำนวนมาก ชื่อของแต่ละหลุมจะตั้งชื่อตามเขตถ่านหินต่าง ๆ บนโลก[10] หลุมอุกกาบาตที่ใหญ่ที่สุดสองหลุมมีขนาดใกล้เคียงกับรัศมีของดาว[11] ได้แก่ อิชิกะริ (ตั้งชื่อตามเมืองอิชิกะริในประเทศญี่ปุ่น) ซึ่งมีขนาด 29.3 กิโลเมตร และการู (ตั้งชื่อตามภูมิภาคการูในประเทศแอฟริกาใต้) ซึ่งมีขนาด 33.4 กิโลเมตร จากการสังเกตพื้นผิวภายในหลุมอุกกาบาตเหล่านี้ พบมีว่าความสว่างและสีของหลุมอุกกาบาตใกล้เคียงกับพื้นผิวของดาว และไม่ปรากฏว่าพื้นผิวมีการแยกออกเป็นชั้น ๆ แต่อย่างใด จึงคาดว่าส่วนประกอบของ 253 แมธิลด์ มีลักษณะเป็นเนื้อเดียวกัน
จากการวัดความหนาแน่นโดยยาน NEAR ชูเมกเกอร์ พบว่า 253 แมธิลด์ มีความหนาแน่นประมาณ 1,300 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งต่ำกว่าครึ่งหนึ่งของความหนาแน่นของคาร์บอนนาเคียสคอนไดรต์ทั่วไป แสดงให้เห็นว่าภายในของดาวประกอบด้วยช่องว่างจำนวนมาก ซึ่งในภายหลังได้มีการศึกษาว่าภายในของดาวเคราะห์น้อยประเภท C จำนวนมากก็มีลักษณะเป็นเช่นนี้ (เช่น 45 ยูจีเนีย, 90 แอนไทโอปี, 87 ซิลเวีย และ 121 เฮอร์ไมโอนี) อย่างไรก็ตาม แนวหน้าผายาว 20 กิโลเมตรได้แสดงให้เห็นว่าดาวมีโครงสร้างเป็นวัตถุแข็ง จึงอาจมีส่วนประกอบขนาดใหญ่อยู่ภายในดาวด้วย[7]
วงโคจรของ 253 แมธิลด์มีความเยื้อง ทำให้ดาวเคราะห์น้อยดวงนี้โคจรไปอยู่บริเวณขอบนอกของแถบดาวเคราะห์น้อย อย่างไรก็ตาม วงโคจรของ 253 แมธิลด์ อยู่ระหว่างวงโคจรของดาวอังคารและดาวพฤหัสบดี ซึ่งไม่ตัดผ่านวงโคจรของดาวเคราะห์ดวงใดเลย
253 แมธิลด์ เป็นดาวเคราห์น้อยที่มีอัตราการหมุนรอบตัวเองช้าที่สุดดวงหนึ่งเท่าที่มีการค้นพบ คือประมาณ 17.4 วัน ในขณะที่ดาวเคราะห์น้อยทั่วไปใช้เวลาประมาณ 2-24 ชั่วโมง[12] และเนื่องจากการมีอัตราการหมุนรอบตัวเองที่ช้ามากนี้ จึงทำให้ยาน NEAR ชูเมกเกอร์ สามารถถ่ายภาพพื้นผิวของดาวได้เพียง 60% สาเหตุของการมีอัตราการหมุนรอบตัวเองที่ช้ามากอาจมาจากการมีดาวบริวารโคจรรอบดาวเคราะห์น้อยดวงนี้อยู่ แต่จากการสำรวจของยาน NEAR ชูเมกเกอร์ ไม่พบวัตถุที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางใหญ่กว่า 10 กิโลเมตร ในบริเวณรอบดาวเคราะห์น้อยดวงนี้เป็นระยะ 20 เท่าของรัศมีดาว[13]
[แก้] หลุมอุกกาบาตบน 253 แมธิลด์
รายชื่อของหลุมอุกกาบาตต่าง ๆ บน 253 แมธิลด์ และสถานที่ที่ตั้งชื่อตาม[14]
หลุมอุกกาบาต | สถานที่ที่ตั้งชื่อตาม |
---|---|
อาเคิน (Aachen) | อาเคิน, เยอรมนี |
บากาเนอร์ (Baganur) | บากาเนอร์, มองโกเลีย |
เบนแฮม (Benham) | เบนแฮม, เคนทักกี, สหรัฐอเมริกา |
คลากมานนาน (Clackmannan) | คลากมานนาน, สหราชอาณาจักร |
ดาโมดาร์ (Damodar) | ดาโมดาร์, อินเดีย |
เอนูกู (Enugu) | เอนูกู, ไนจีเรีย |
อิชิกะริ (Ishikari) | อิชิกะริ, ญี่ปุ่น |
เยราดา (Jerada) | เยราดา, โมร็อกโก |
จือซือ (Jixi) | จือซือ, จีน |
กาลีมันตัน (Kalimantan) | กาลีมันตัน, อินโดนีเซีย |
การู (Karoo) | การู, แอฟริกาใต้ |
คูซเนตสก์ (Kuznetsk) | คูซเนตสก์ , รัสเซีย |
ลอร์เรน (Lorraine) | ลอร์เรน, ฝรั่งเศส |
ลับลิน (Lublin) | ลับลิน, โปแลนด์ |
มาริตซา (Maritsa) | มาริตซา, บัลแกเรีย |
มาทานูสกา (Matanuska) | มาทานูสกา, อะแลสกา, สหรัฐอเมริกา |
มัลกิลดี (Mulgildie) | มัลกิลดี, ออสเตรเลีย |
ออกซากา (Oaxaca) | ออกซากา, เม็กซิโก |
โอตาโก (Otago) | โอตาโก, นิวซีแลนด์ |
เควตตา (Quetta) | เควตตา, ปากีสถาน |
ซิมิลคามีน (Similkameen) | ซิมิลคามีน, แคนาดา |
เทรูเอล (Teruel) | เทรูเอล, สเปน |
ซูเลีย (Zulia) | ซูเลีย, เวเนซุเอลา |
[แก้] เชิงอรรถ
หมายเหตุ (1): สำหรับระยะกึ่งแกนเอก a, คาบดาราคติ T และความเยื้องศูนย์กลาง e, อัตราเร็วเฉลี่ยในวงโคจรสามารถหาได้จาก:
ดูเพิ่มที่: H. St̀eocker, J. Harris (2541). Handbook of Mathematics and Computational Science. Springer. pp. หน้า 386. ISBN 0-387-94746-9.
หมายเหตุ (2): สำหรับดาวเคราะห์น้อยที่มีมวล m, รัศมี r และ G เป็นค่านิจโน้มถ่วงสากล จากกฎของนิวตันจะได้ว่า แรงโน้มถ่วงที่พื้นผิว g มีค่าเท่ากับ:
หมายเหตุ (3): สำหรับแรงดึงดูดที่พื้นผิว g และรัศมี r จะมีความเร็วหลุดพ้นคือ:
หมายเหตุ (4): สำหรับดาวเคราะห์น้อยที่มีอัตราสะท้อนกลับของแสง α, ระยะกึ่งแกนเอก a, อัตราปล่อยรังสีอินฟราเรด ε (~0.9), ความสว่างของแสงอาทิตย์ L0 และ σ เป็นค่าคงตัวของสเตฟาน-โบลทซ์แมนน์ จะมีอุณหภูมิเฉลี่ย T คือ:
ดูเพิ่มที่: Torrence V. Johnson, Paul R. Weissman, Lucy-Ann A. McFadden (2550). Encyclopedia of the Solar System. Elsevier. pp. หน้า 294. ISBN 0-12-088589-1.
[แก้] อ้างอิง
- ^ 1.0 1.1 Moore, Sir Patrick (2542). The Wandering Astronomer. CRC Press. ISBN 0-7503-0693-9.
- ^ 2.0 2.1 Yeomans, Donald K. (29 ส.ค. 2546). 253 Mathilde. JPL Small-Body Database Browser. NASA. สืบค้นวันที่ 29 ส.ค. 2550
- ^ 3.0 3.1 3.2 D. K. Yeomans et al (2540). "Estimating the mass of asteroid 253 Mathilde from tracking data during the NEAR flyby". Science 278 (5346): 2106-9. PMID 0009405343. เรียกข้อมูลวันที่ 29 ส.ค. 2550
- ^ 4.0 4.1 4.2 Savage, D.; Young, L.; Diller, G.; Toulouse, A. (กุมภาพันธ์ 2539). Near Earth Asteroid Rendezvous (NEAR) Press Kit. NASA. สืบค้นวันที่ 29 ส.ค. 2550
- ^ 5.0 5.1 Williams, David R. (18 ธ.ค. 2544). NEAR Flyby of Asteroid 253 Mathilde. NASA. สืบค้นวันที่ 10 ส.ค. 2549
- ^ Raab, Herbert (2545). Johann Palisa, the most successful visual discoverer of (PDF). Astronomical Society of Linz. สืบค้นวันที่ 27 ส.ค. 2550
- ^ 7.0 7.1 Cheng, Andrew F. (2547). "Implications of the NEAR mission for internal structure of Mathilde and Eros". Advances in Space Research 33 (9): 1558-1563. เรียกข้อมูลวันที่ 29 ส.ค. 2550
- ^ Pon, Brian (30 มิ.ย. 2542). Pavement Albedo. Heat Island Group. สืบค้นวันที่ 27 ส.ค. 2550
- ^ Kelley, M. S.; Gaffey, M. J.; Reddy, V. (12-16 มี.ค. 2550). "Near-IR Spectroscopy and Possible Meteorite Analogs for Asteroid (253)". 38th Lunar and Planetary Science Conference: หน้า 2366, ลีกซิตี, เทกซัส: Lunar & Planetary Institute. เรียกข้อมูลวันที่ 29 ส.ค. 2550
- ^ Blue, Jennifer (29 ส.ค. 2550). Categories for Naming Features on Planets and Satellites. USGS. สืบค้นวันที่ 29 ส.ค. 2550
- ^ J. Veverka et al (2542). "NEAR Encounter with Asteroid 253 Mathilde: Overview". Icarus 140: 3-16. เรียกข้อมูลวันที่ 29 ส.ค. 2550
- ^ Lang, Kenneth R. (2546). 2. Asteroids and meteorites, Size, color and spin. NASA's Cosmos. NASA. สืบค้นวันที่ 29 ส.ค. 2550
- ^ W. J. Merline et al (2541). "Search for Satellites of 253 Mathilde from Near-Earth Asteroid Rendezvous Flyby Data". Meteoritics & Planetary Science 33: A105. doi:. เรียกข้อมูลวันที่ 29 ส.ค. 2550
- ^ USGS Mathilde nomenclature. สืบค้นวันที่ 7 พ.ค. 2551
[แก้] แหล่งข้อมูลอื่น
- Bowell, Ted; and Koehn, Bruce (2 กันยายน 2550). The Asteroid Orbital Elements Database. Lowell Observatory. สืบค้นวันที่ 2 กันยายน 2550
- Staff (28 สิงหาคม 2550). Discovery Circumstances: Numbered Minor Planets. Minor Planet Center. สืบค้นวันที่ 2 กันยายน 2550
- Hall, Alan. "NEAR-ing Mathilde", Scientific American, 30 มิถุนายน 2540. สืบค้นวันที่ 29 สิงหาคม 2550
|