จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เพลงชาติ หมายถึงบทเพลงที่ประพันธ์ขึ้น เพื่อปลุกเร้าให้หวนระลึกถึงหรือสรรเสริญประวัติศาสตร์ชาติ ขนบธรรมเนียมประเพณีของชาติ หรือการต่อสู้ของชนในชาติ โดยได้รับการยอมรับจากรัฐบาลของชาตินั้น ๆ อย่างเป็นทางการ หรือความตกลงใจร่วมกันของประชาชนในชาติว่า เพลงดังกล่าวเป็นเพลงประจำชาติของตน
ในหนังสือ "เพลงชาติ" โดย สุกรี เจริญสุข ได้กล่าวถึงความหมายของเพลงชาติไว้ 4 ประการ คือ
- เพลงชาติสามารถแสดงถึงความเป็นชาติของประชาชนในชาตินั้นๆ ได้
- เพลงชาติสามารถแสดงถึงฐานะทางการเมืองว่า เป็นประเทศที่มีเอกราช ไม่ขึ้นแก่ใคร
- เพลงชาติเป็นสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายประจำชาติ
- เพลงชาติเป็นกลิ่นไอทางศิลปวัฒนธรรมของประชาชนในกลุ่มชนชาตินั้นๆ [1]
[แก้] การเกิดของเพลงชาติ
เพลงชาติมีที่มาได้ 3 ลักษณะ ดังนี้[1]
- 1. เพลงชาติเกิดจากเพลงที่ประชาชนนิยม
- เพลงชาติประเภทนี้เกิดจากเพลงที่คนนิยมร้องทั่วไปไปในทุกโอกาส เป็นเพลงที่ประชาชนมีความศรัทธานิยมชมชอบ เช่น เพลงก็อดเซฟเดอะควีน (God Save The Queen) ของสหราชอาณาจักร เพลง Land der Berge, Land am Strome ของประเทศออสเตรีย เป้นต้น
- 2. เพลงชาติเกิดจากความกดดันทางการเมือง
- โดยเหตุที่เพลงเป็นเครื่องมือประกอบกิจกรรมทางการเมืองมาตลอด เพลงชาติประเภทนี้จึงเกิดขึ้นจากการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงทางการปกครองและการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม เช่น เพลงลามาร์แซแยส (La Marseillaise) ของประเทศฝรั่งเศส เพลงชาติไทยของประเทศไทย ฯลฯ
- 3. เพลงชาติที่เกิดขึ้นโดยลัทธิชาตินิยม
- เพลงชาติประเภทนี้เริ่มเกิดขึ้นในยุคโรแมนติก โดยคีตกวีชาวรัสเซียชื่อ ไมเคิล อิแวนโนวิช กลินกา ได้ประพันธ์เพลงเกี่ยวกับการต่อสู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคืออุปรากรเรื่อง "A Life for the Tzar" [2] เพื่อปลุกเร้าให้ชาวรัสเซียเกิดความรักชาติ อันเนื่องจากขณะนั้นรัสเซียถูกรุกรานโดยชาวโปล บทเพลงเหล่านี้ได้กระตุ้นให้กลุ่มคนต่างๆ เกิดความคิดชาตินิยมที่จะใช้เพลงชาติเป็นเครื่องหมายแบ่งแยกดินแดน ศาสนา เชื้อชาติ และผลประโยชน์ออกจากกัน แนวคิดดังกล่าวนี้ได้แผ่ขยายไปยังยังกลุ่มเชื้อชาติต่างๆ อย่างกว้างขวาง และเกิดบทเพลงปลุกเร้าให้เกิดความรักชาติขึ้นจำนวนมากจากคีตกวีต่างๆ ทั้งนี้ งานเพลงหลายชิ้นไม่ได้เป็นเพลงชาติโดยตรง แต่ก็กระตุ้นให้เกิดความคิดรักชาติตามลัทธิชาตินิยม และทำให้กลุ่มนักการปกครองทั้งหลายสนใจที่จะมีเพลงประจำชาติเฉพาะขึ้นมา
[แก้] การใช้
ก่อนการแข่งขันกีฬานานาชาติจะมีการบรรเลงเพลงชาติเสมอ โดยธรรมเนียมปฏิบัติ ผู้เข้าชมกีฬาจะยืนตรง เพื่อแสดงความเคารพต่อเพลงชาติ (ในภาพ เป็นการเคารพเพลงชาติ ในการแข่งรถที่ทะเลสาบเจนีวา (Lake Geneva Raceway)
ประเทศสหรัฐอเมริกา)
ในกรณีของประเทศไทย จะมีการบรรเลงเพลงชาติเป็นสัญญาณเทียบเวลาและสัญญาณการเชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสาในเวลา 8.00 น. และเชิญธงลงในเวลา 18.00 น. เป็นประจำทุกวัน (ในภาพ เป็นการเชิญธงชาติประจำวันในเวลาเย็น ที่กองบังคับการ
กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ กรุงเทพฯ)
เพลงชาติถูกนำไปใช้ในบริบทต่างๆ อย่างกว้างขวาง โดยมักมีการนำไปบรรเลงในวันหยุดและเทศกาลสำคัญของชาติ และมีความสัมพันธ์กับการจัดกิจกรรมกีฬาอย่างใกล้ชิด ในการแข่งขันกีฬาอย่างเช่นกีฬาโอลิมปิกนั้น จะมีการบรรเลงเพลงชาติเป็นเกียรติแก่ผู้ที่ชนะเลิศและได้รับเหรียญทองในพิธีมอบเหรียญรางวัล และยังใช้บรรเลงก่อนเริ่มการแข่งขันกีฬาด้วย ซึ่งธรรมเนียมดังกล่าวนี้เริ่มมีขึ้นในการแข่งขันเบสบอลในประเทศสหรัฐอเมริกาช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 [3] สำหรับในประเทศอื่นๆ การใช้เพลงชาตินั้นขึ้นอยู่กับการยอมรับสถานะความเป็นรัฐชาติต่อประเทศนั้นๆ ด้วย เช่น ในกรณีของไต้หวัน (สาธารณรัฐจีน) คณะกรรมการโอลิกปิกสากลไม่ได้ยอมรับว่าไต้หวันมีสถานะเป็นรัฐชาติที่มีเอกราชเป็นของตนเอง และต้องใช้ชื่อประเทศในแข่งขันกีฬาว่า "จีนไทเป" ไต้หวันจึงต้องใช้เพลงธงชาติ (จีนตัวเต็ม: 國旗歌; จีนตัวย่อ: 国旗歌; พินอิน: gúoqígē กั๋วฉีเกอ; ภาษาอังกฤษ: National Banner Song) เป็นเพลงสำหรับไต้หวันในการแข่งขันกีฬาโอลิกปิก เป็นต้น[4][5]
ในบางประเทศก็มีการบรรเลงและขับร้องเพลงชาติก่อนเข้าเรียน เพื่อเป็นเครื่องฝึกหัดให้เด็กเกิดความคิดรักชาติ หลายประเทศก็มีความนิยมในการบรรเลงเพลงชาติก่อนการเล่นหรือแสดงมหรสพต่างๆ อันรวมถึงการฉายภาพยนตร์[ต้องการอ้างอิง] สถานีวิทยุและสถานีโทรทัศน์หลายแห่งก็ใช้เพลงชาติเป็นเครื่องบอกสัญญาณการเปิดและปิดสถานีในแต่ละวัน[ต้องการอ้างอิง] กรณีดังกล่าวนี้สำหรับประเทศไทย จะนิยมบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีก่อนการเริ่มมหรสพหรือการฉายภาพยนตร์ และเป็นสัญญาณบอกการเปิดหรือปิดสถานีวิทยุและโทรทัศน์ ส่วนเพลงชาตินอกจากจะบรรเลงเพื่อการเคารพธงชาติในเวลา 8.00 น. และ 18.00 น. แล้ว ยังใช้เป็นสัญญาณบอกการเปิดสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยด้วย[6]
[แก้] เนื้อร้อง
โดยทั่วไปแล้ว เพลงชาติของเกือบทุกประเทศย่อมมีเนื้อร้องประกอบทำนองอยู่เสมอ ยกเว้นในบางประเทศที่ไม่มีการใช้เนื้อร้องฉบับราชการ เช่น บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา สเปน ซานมาริโน เป็นต้น[7] ในจำนวนของเพลงชาติที่มีเนื้อร้องประกอบนั้น มีอยู่จำนวนหนึ่งซึ่งน้อยมากที่เป็นผลงานของนักเขียนรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรม ดังนี้
[แก้] เพลงประจำชาติ
สุกรี เจริญสุข ได้กล่าวถึงเพลงประจำชาติไว้ในหนังสือ "เพลงชาติ" ของตนว่า
|
...ยังมีเพลงชาติอีกประเภทหนึ่งที่ทำหน้าที่แสดงถึงความเป็นชาติทางด้านศิลปวัฒนธรรม เป็นเพลงประจำชาติ นิยมร้องในหมู่ประชาชนทั่วไปทุกโอกาส เป็นเพลงที่แสดงถึงเอกลักษณ์ประจำชาติโดยอาศัยบันไดเสียง สำเนียงเพลง ทำนอง กระสวนจังหวะที่ใช้ และความหมายของเพลง ทั้งนี้เพลงประจำชาติดังกล่าวไม่ได้เป็นเพลงชาติของทางราชการแต่อย่างใด เช่น เพลงบุหรงกาก๊ะของมาเลเซีย เพลงอารีดังของเกาหลี เพลงซากุระของญี่ปุ่น เพลงโอซูซานาของอเมริกา เป็นต้น[1]
|
|
[แก้] ดูเพิ่ม
[แก้] อ้างอิง
[แก้] แหล่งข้อมูลอื่น
|
เพลงชาติ เป็นบทความเกี่ยวกับ วัฒนธรรม ที่ยังไม่สมบูรณ์ ต้องการตรวจสอบ เพิ่มเนื้อหาหรือเพิ่มแหล่งอ้างอิง คุณสามารถช่วยเพิ่มเติมหรือแก้ไข เพื่อให้สมบูรณ์มากขึ้น
ข้อมูลเกี่ยวกับ เพลงชาติ ในภาษาอื่น อาจสามารถหาอ่านได้จากเมนู ภาษาอื่น ด้านซ้ายมือ |