ราชวงศ์เหลียว
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ประวัติศาสตร์จีน | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
ยุคโบราณ | |||||||
ยุคห้านักปกครอง | |||||||
ราชวงศ์เซี่ย 2100–1600 BCE | |||||||
ราชวงศ์ซาง 1600–1046 BCE | |||||||
ราชวงศ์โจว 1045–256 BCE | |||||||
ราชวงศ์โจวตะวันตก 1046–771 BCE | |||||||
ราชวงศ์โจวตะวันออก 771–256 BCE ยุคชุนชิว ยุคเลียดก๊ก |
|||||||
ยุคจักรวรรดิ | |||||||
ราชวงศ์ฉิน 221 BCE–206 BCE | |||||||
ราชวงศ์ฮั่น 206 BCE–220 CE | |||||||
ราชวงศ์ฮั่นตะวันตก | |||||||
ราชวงศ์ซิน | |||||||
ราชวงศ์ฮั่นตะวันออก | |||||||
ยุคสามก๊ก 220–280 | |||||||
เว่ย สู่ และ หวู | |||||||
ราชวงศ์จิ้น 265–420 | |||||||
จิ้นตะวันตก | ยุคห้าชนเผ่าสิบหกแคว้น 304–439 | ||||||
จิ้นตะวันออก | |||||||
ราชวงศ์เหนือ-ใต้ 420–589 | |||||||
ราชวงศ์สุย 581–618 | |||||||
ราชวงศ์ถัง 618–907 | |||||||
( ราชวงศ์อู่โจว 690–705 ) | |||||||
ยุคห้าราชวงศ์สิบอาณาจักร 907–960 |
ราชวงศ์เหลียว 907–1125 |
||||||
ราชวงศ์ซ่ง 960–1279 |
|||||||
ราชวงศ์ซ่งเหนือ | เซี่ยตะวันตก | ||||||
ราชวงศ์ซ่งใต้ | จิน | ||||||
ราชวงศ์หยวน 1271–1368 | |||||||
ราชวงศ์หมิง 1368–1644 | |||||||
ราชวงศ์ชิง 1644–1911 | |||||||
ยุคใหม่ | |||||||
สาธารณรัฐจีน 1912–1949 | |||||||
สาธารณรัฐประชาชนจีน (จีนแผ่นดินใหญ่) 1949–ปัจจุบัน |
สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) 1945–ปัจจุบัน |
||||||
บทความที่เกี่ยวข้อง
|
|||||||
ราชวงศ์เหลียว (辽) สถาปนาขึ้นโดยชนเผ่าชิ่ตัน เดิมมีถิ่นฐานอยู่ในแถบลุ่มแม่น้ำเหลียวในมณฑลเหลียวหนิงและมองโกเลียใน ต่อมารุ่งเรืองขึ้นจนสามารถครอบครองดินแดนทางภาคเหนือของจีนเป็นเวลานานกว่าสองศตวรรษ โดยถือกำเนิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับยุคห้าราชวงศ์ และสิ้นสุดไปพร้อมกับราชวงศ์ซ่งเหนือ
แม้ว่าในช่วงเวลาดังกล่าว ราชวงศ์เหลียวได้เปิดศึกสู้รบกับชาวฮั่นในดินแดนภาคกลางเป็นระยะเวลายาวนาน แต่ในด้านวัฒนธรรม การบริหารการปกครอง สังคมและเศรษฐกิจ ล้วนได้รับอิทธิพลจากชาวฮั่นอย่างลึกซึ้ง ยุคสมัยราชวงศ์์เหลียว ตรงกับรัชสมัยของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช
เนื้อหา |
[แก้] สร้างบ้านแปงเมือง
ปลายราชวงศ์ถัง เยลี่ว์อาเป่าจี รวบรวมชนเผ่าชิตันเป็นหนึ่งเดียว สถาปนาแคว้นชิตัน* ขึ้นในปี พ.ศ. 1459 จากนั้นปรับปรุงบ้านเมืองขนานใหญ่ คิดประดิษฐ์ตัวอักษรชี่ตัน สร้างเมืองหลวงใหม่ที่เมืองหวงตู (ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็นซ่างจิง ปัจจุบันอยู่ในเขตปาหลินจั่วฉีของมองโกเลียใน ปี พ.ศ. 1469 ผนวกแคว้นป๋อไห่ (อาณาจักรพาลแฮ - ปัจจุบันคือส่วนหนึ่งของมณฑลเหลียวหนิง เฮหลงเจียงและเกาหลีเหนือ) รวมแผ่นดินภาคเหนือเข้าด้วยกัน ปี 1469 เยลี่ว์อาเป่าจีสิ้นชีพลง เดิมอาเป่าจีแต่งตั้งเยลี่ว์ทูอี้ว์ บุตรชายคนโตเป็นรัชทายาท แต่ฮองเฮาสู้ลี่ว์ และข้าราชสำนักต่างให้การสนับสนุนเยลี่ว์เต๋อกวง บุตรชายรองที่มีความสามารถด้านการทหารขึ้นครองบัลลังก์แทน บีบคั้นให้เยลี่ว์ทูอี้ว์ต้องลี้ภัยยังราชสำนักโฮ่วถัง จักรพรรดิเหลียวไท่จง(ปี พ.ศ. 1469 – พ.ศ. 1490) สานต่อแนวนโยบายของบิดา โดยใช้หลักการปกครองตาม ‘ประเพณีท้องถิ่นนิยม’ โดยจัดแบ่งข้าราชสำนักออกเป็นฝ่ายเหนือกับฝ่ายใต้ ฝ่ายเหนือเป็นข้าราชการชิ่ตันปกครองดูแลชนเผ่าชิ่ตันและชนเผ่าปศุสัตว์อื่นๆ โดยใช้ระเบียบปกครองของชนเผ่า ส่วนฝ่ายใต้มีทั้งข้าราชการชาวฮั่นและชิ่ตัน ปกครองดูแลชาวฮั่นและป๋อไห่ ที่โดยมากทำการเกษตรอยู่ทางตอนใต้และตะวันออกของแคว้น โดยใช้ระเบียบการปกครองตามแบบอย่างราชวงศ์ถังนอกจากนี้ เยลี่ว์เต๋อกวงยังศึกษาทางด้านวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของชาวฮั่น ทั้งให้ความสนใจต่อการพัฒนาด้านการเกษตร ทำให้สภาพเศรษฐกิจและขุมกำลังของชิ่ตันเจริญรุดหน้าเข้มแข็งขึ้น ไม่นาน เยลี่ว์เต๋อกวงก็สบโอกาสขยายอิทธิพลเข้าสู่ภาคกลาง ปี 1479 ชิ่ตันยื่นมือเข้าช่วยเหลือสือจิ้งถังล้มล้างราชวงศ์โฮ่วถัง(หนึ่งในห้าราชวงศ์) สถาปนาโฮ่วจิ้นโดยได้รับมอบดินแดนแถบเหอเป่ยและซันซี 16 เมือง(ปัจจุบันได้แก่ ปักกิ่งและต้าถง) อีกทั้งบรรณาการประจำปีเป็นการตอบแทน แต่เมื่อสือจิ้งถังสิ้นชีวิตลง ผู้สืบบัลลังก์ของสือจิ้งถังต้องการแยกตัวเป็นอิสระ กองทัพชิ่ตันก็บุกเข้าเมืองหลวงไคฟง ล้มล้างราชวงศ์โฮ่วจิ้นเป็นผลสำเร็จ แต่เนื่องจากกองทัพชิ่ตันไม่ได้จัดกองเสบียงสนับสนุน ทหารจึงต้องออกปล้นสะดมแย่งชิงเสบียงราษฎรตลอดเส้นทางที่ผ่าน เป็นเหตุให้ประชาชนลุกฮือขึ้นต่อต้านอย่างรุนแรง กองทัพชิตันได้แต่ล่าถอยกลับภาคเหนือ
[แก้] มรสุมแย่งชิงทางการเมือง
ปี 1490 ระหว่างการถอนกำลังกลับภาคเหนือ เยลี่ว์เต๋อกวงสิ้นพระชนม์กะทันหันในแดนเหอเป่ย ขณะที่กองทัพไม่อาจขาดผู้นำได้ ดังนั้นบรรดานายทัพจึงสนับสนุนให้เยลี่ว์หร่วน บุตรชายของเยลี่ว์ทูอี้ว์รัชทายาทองค์ก่อน ซึ่งร่วมรบอยู่ในกองทัพด้วยกันขึ้นเป็นผู้นำคนใหม่ ทรงพระนามว่าเหลียวซื่อจง (ปี 1490 – 1494)ทว่า ภายในราชสำนักเหลียว ซู่ลี่ว์ไทเฮาที่สนับสนุนหลี่หู น้องชายของเยลี่ว์เต๋อกวงเป็นผู้สืบทอดบัลลังก์ เมื่อทราบข่าวก็ส่งหลี่หูนำทัพมาแย่งชิงอำนาจกลับคืน แต่หลี่หูพ่ายแพ้ สองฝ่ายจึงต้องหันมาเจรจากันสุดท้ายแม้ว่าทั้งสองฝ่ายตกลงให้ทายาทของทั้งสองสายสลับกันขึ้นเป็นผู้นำ โดยซู่ลี่ว์ไทเฮายอมรับให้ ‘พระนัดดา’เหลียวซื่อจงครองราชย์ต่อไป แต่กระแสการแย่งชิงอำนาจภายในราชสำนักเหลียวยังไม่หมดสิ้นไป เหลียวซื่อจงใช้มาตรการรุนแรงในการกำจัดศัตรูทางการเมืองอย่างเด็ดขาด ทั้งให้การสนับสนุนชาวฮั่นอย่างมาก สร้างความไม่พอใจให้กับชนชั้นสูงของชนเผ่า เป็นเหตุให้มีผู้คิดก่อการโค่นล้มราชบัลลังก์หลายครั้ง แต่สุดท้ายก็ถูกปราบราบคาบลงจนกระทั่งปี 1494 ราชวงศ์โฮ่วโจวแทนที่โฮ่วฮั่น หลิวฉงทายาทราชวงศ์โฮ่วฮั่นแยกตัวออกมาสถาปนาแคว้นเป่ยฮั่น จากนั้นหันมาสวามิภักดิ์ต่อราชวงศ์เหลียว เพื่อขอให้เหลียวส่งกำลังคุ้มครอง เหลียวซื่อจงคิดฉวยโอกาสนี้รุกเข้าภาคกลางอีกครั้ง จึงนำทัพลงใต้มา แต่แล้วระหว่างทางเกิดเหตุกบฏขึ้น เหลียวซื่อจงถูกสังหาร หลังจากปราบกบฏลงได้ นายทัพทั้งหลายต่างยกให้เยลี่ว์จิ่ง บุตรชายของเยลี่ว์เต๋อกวงขึ้นเป็น เหลียวมู่จง กษัตริย์องค์ต่อไปเหลียวมู่จง(ปี 1494 – 1512) แม้ขึ้นครองราชย์ แต่ภายในยังมีการแย่งชิงระหว่างพี่น้อง มีการก่อหวอดและกวาดล้างทางการเมืองหลายครั้ง การปกครองภายในล้มเหลว บ้านเมืองอ่อนแอลง ในเวลาเดียวกัน ภาคกลางเกิดการผลัดแผ่นดิน ราชวงศ์ซ่ง เข้าแทนที่ราชวงศ์โฮ่วโจว ซ่งไท่จู่เจ้ากวงยิ่นเห็นเป็นโอกาสรวมแผ่นดินทางภาคใต้ก่อน ต่อเมื่อหันกลับมาอีกครั้ง สถานการณ์ทางภาคเหนือก็เปลี่ยนไป
[แก้] สัญญาสงบศึก
ปี พ.ศ. 1512 เหลียวมู่จงถูกลอบสังหาร เยลี่ว์เสียน บุตรชายของเหลียวซื่อจงจากสายรัชทายาทองค์โตขึ้นครองราชย์ต่อมา ทรงพระนามว่า จักรพรรดิเหลียวจิ่งจง (ปี พ.ศ. 1512 – พ.ศ. 1525) จากนี้ไป จนถึงรัชกาลจักรพรรดิเหลียวเซิ่งจง (พ.ศ. 1526 – พ.ศ. 1574) เมื่อผ่านการปฏิรูปครั้งใหญ่ เปลี่ยนผ่านสังคมสู่วัฒนธรรมแบบฮั่น ก็เข้าสู่ยุคทองของราชวงศ์เหลียวตลอดรัชกาลเหลียวจิ่งจงมีสุขภาพอ่อนแอ เซียวฮองเฮาจึงเข้าดูแลราชกิจแทนทั้งหมด ปี พ.ศ. 1522 ซ่งไท่จงแห่งราชวงศ์ซ่งผนวกแคว้นเป่ยฮั่นเข้ากับภาคกลางเป็นผลสำเร็จ ต่อมาไม่นาน เหลียวจิ่งจงสิ้นพระชนม์ โอรสวัย 12 ขวบเยลี่ว์หลงซี่ว์ ขึ้นครองราชย์ต่อมา เป็นเหลียวเซิ่งจง ภายใต้การดูแลของเซียวไทเฮา (พ.ศ. 1496 – พ.ศ. 1552) ระหว่างนี้ ราชวงศ์ซ่งและเหลียวต่างเปิดศึกปะทะกันหลายครั้ง แต่ไม่อาจเอาชนะกันได้ การศึกในช่วงเวลาดังกล่าว เป็นที่รู้จักกันแพร่หลายจากตำนานวีรกรรมอันลือลั่นของขุนศึกตระกูลหยาง ปี 1533 ดินแดนทางภาคตะวันตก (มณฑลซ่านซีในปัจจุบัน) เกิดอาณาจักรใหม่สถาปนาขึ้นในนาม ซีเซี่ย โดย หลี่จี้เชียน (พ.ศ. 1506 – พ.ศ. 1547) ** ผูกมิตรกับราชวงศ์เหลียว ราชวงศ์ซ่งต้องเผชิญกับการคุกคามจากศึกทั้งสองด้าน เมื่อถึงปี พ.ศ. 1547 หลังจากสู้ศึกครั้งแล้วครั้งเล่า ราชวงศ์ซ่งเหนือกับเหลียวก็บรรลุข้อตกลงร่วมกันที่ฉานหยวน (ปัจจุบันคือเมืองผูหยางมณฑลเหอหนาน) โดยซ่งเหนือยินยอมจัดส่งบรรณาการให้เหลียวทุกปี เพื่อแลกกับข้อตกลงไม่ให้เหลียวยกกองกำลังมาปล้นสะดมราษฎรแถบชายแดนภาคเหนืออีก ขณะที่ซ่งเหนือก็ต้องยอมละทิ้งความต้องการที่จะช่วงชิงเมืองปักกิ่งและต้าถงที่เคยเสียไปกลับคืนมา ข้อตกลงดังกล่าวแลกมาซึ่งความสงบสุขของดินแดนภาคเหนือเป็นเวลาร้อยกว่าปี ทั้งมีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจ สังคมและการผสมผสานวัฒนธรรมชนเผ่ากับดินแดนภาคกลางในเวลาต่อมา
[แก้] สู่เส้นทางล่มสลาย
ปี พ.ศ. 1552 หลังจากเซียวไทเฮาปล่อยวางภารกิจทั้งมวล โดยส่งมอบอำนาจให้กับเหลียวเซิ่งจง จากนั้นไม่นานก็สิ้นพระชนม์ลง เหลียวเซิ่งจงปกครองเหลียวต่อมาถึงปี พ.ศ. 1574 ก็สิ้นพระชนม์ ถือเป็นยุคที่ราชวงศ์เหลียวเจริญรุ่งเรืองถึงสูงสุด สภาพสังคมเจริญรอยตามอารยธรรมของชาวฮั่นอย่างสมบูรณ์ รัชสมัยเหลียวซิ่งจง และเหลียวเต้าจง ในยุคต่อมา เกิดการแย่งชิงอำนาจในราชสำนักเหลียวเป็นระลอเมื่อถึงปี พ.ศ. 1618 ภายหลังการก่อการของเยลี่ว์อี่ซิน กับจางเสี้ยวเจี๋ย รัชทายาทถูกสังหาร เกิดการกวาดล้างทางการเมืองขนานใหญ่ บ้านเมืองอยู่ในสภาพคลอนแคลนอย่างหนัก กลุ่มชนเผ่าทางเหนือพากันลุกฮือขึ้นก่อหวอดเป็นระยะ ทรัพย์สินในท้องพระคลังและกำลังทหารสูญสิ้นไปกับการปราบปรามกลุ่มกบฏ จวบจนปี พ.ศ. 1644 เหลียวเต้าจงล้มป่วยเสียชีวิต เทียนจั้วตี้ ขึ้นครองราชย์ต่อมา ขณะที่กองกำลังของชนเผ่าหนี่ว์เจิน ที่อยู่ตามแถบชายแดนเหลียว ภายใต้การนำของหวันเหยียนอากู่ต่า มีกำลังแข็งกล้าขึ้น เกิดการลุกฮือขึ้นที่แดนป๋อไห่ทางตะวันออกของเหลียว หลังจากเอาชนะกองทัพเหลียวที่ส่งมาปราบลงได้แล้ว อากู่ต่าก็สถาปนาแคว้นจินหรือกิม ขึ้นในปี พ.ศ. 1658 จากนั้นบุกยึดแดนเหลียวตงฝั่งตะวันออก และเมืองสำคัญของเหลียวจนหมดสิ้น (รวมทั้งปักกิ่งและต้าถง) เทียนจั้วตี้ได้แต่หลบนีไปทางตะวันตก แต่ถูกจับได้ในที่สุด ราชวงศ์เหลียวล่มสลาย
- ชื่อแคว้นและชื่อราชวงศ์เป็นชื่อเดียวกัน แต่มีการปรับเปลี่ยนชื่อหลายครั้ง อาทิ ในปี พ.ศ. 1481 ชิ่ตันสถาปนาดินแดน 16 เมืองที่ได้รับมอบเป็นต้าเหลียว ปี พ.ศ. 1490 ล้มล้างราชวงศ์โฮ่วจิ้นสถาปนาราชวงศ์ต้าเหลียวขึ้นที่เมืองไคฟง จากนั้นปี พ.ศ. 1526 ใช้ชื่อชิ่ตัน ถึงปี พ.ศ. 1609 กลับมาใช้ชื่อแคว้นเหลียวอีกครั้ง
-
- เป็นชนเผ่าตั่งเซี่ยง หลี่จี้เชียน เป็นชื่อในภาษาฮั่น ใช้แซ่ตามราชวงศ์ในภาคกลางเพื่อแสดงความจงรักภักดี ภายหลังเปลี่ยนมาใช้แซ่เจ้า ตามราชวงศ์ซ่ง
|
|
ราชวงศ์เหลียว เป็นบทความเกี่ยวกับ ประวัติศาสตร์ ที่ยังไม่สมบูรณ์ ต้องการตรวจสอบ เพิ่มเนื้อหาหรือเพิ่มแหล่งอ้างอิง คุณสามารถช่วยเพิ่มเติมหรือแก้ไข เพื่อให้สมบูรณ์มากขึ้น ข้อมูลเกี่ยวกับ ราชวงศ์เหลียว ในภาษาอื่น อาจสามารถหาอ่านได้จากเมนู ภาษาอื่น ด้านซ้ายมือ หรือ ดูเพิ่มที่ สถานีย่อย:ประวัติศาสตร์ |