สถาปนิก
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สถาปนิก คือบุคคลผู้เกี่ยวข้องในการออกแบบ และ วางแผน ในการก่อสร้าง หรือที่เรียกว่างานสถาปัตยกรรม โดยสถาปนิก จะเป็นผู้ที่เข้าใจในมาตรฐานการก่อสร้างของอาคาร เข้าใจถึงหน้าที่ใช้สอยของอาคารนั้น รวมถึงวัสดุที่จะนำมาเป็นส่วนประกอบของสิ่งก่อสร้างนั้น สถาปนิกจำเป็นต้องได้รับการศึกษาทางสถาปัตยกรรมศาสตร์ และได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรม ถึงจะสามารถทำงานในวิชาชีพสถาปนิกได้ ซึ่งคล้ายกับการทำงานในสาขาวิชาชีพอื่น
สถาปก คำเก่าของคำว่าสถาปนิก ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เป็นศัพท์ภาษาสันสกฤต หมายถึง ผู้สร้าง, ผู้ก่อตั้ง ในเอกสารโบราณก่อนสมัยรัตนโกสินทร์เคยปรากฏคำ "สถาบก" หมายถึง การสร้าง หรือผู้สร้าง
รางวัลที่น่ายกย่องของสถาปนิกที่รู้จักในฐานะผู้ก่อสร้างอาคารได้แก่ รางวัลพลิตซ์เกอร์ ซึ่งมักจะถูกเปรียบเทียบเหมือนกับ "รางวัลโนเบลในทางสถาปัตยกรรม"
[แก้] หน้าที่ของสถาปนิกกับโครงการก่อสร้างในยุคปัจจุบัน
ในรูปแบบที่เกิดขึ้นเป็นส่วนใหญ่ สถาปนิกจะทำสัญญากับเจ้าของโครงการ(Owner) โดยรับหน้าที่เป็นผู้ให้บริการวิชาชีพ ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการก่อสร้าง ผ่านทางการออกแบบ(Building Design) และการทำแเบบก่อสร้าง(Construction Document) สถาปนิกจะมีที่ปรึกษาผู้ให้คำแนะนำในเรื่องเทคนิคระดับซับซ้อนคือ วิศวกร ซึ่งจะเป็นผู้เชี่ยวชาญในแต่ละแขนงเกี่ยวกับการก่อสร้าง
โดยทั่วไปสำหรับโครงการขนาดกลาง วิศวกรเหล่านี้จะประกอบด้วย วิศวกรโครงสร้าง (Structural Engineer) วิศวกรโยธา (Civil Engineer) วิศวกรไฟฟ้า (Electrical Engineer) วิศวกรประปา (Plumbing Engineer) และ วิศวกรเครื่องกล (Mechanical Engineer) นอกจากนี้อาจจะมีที่ปรึกษาอื่นๆที่สำคัญ เช่น มัณฑนากร(Interior Designer) และ ภูมิสถาปนิก (Landscape Architect)เป็นต้น
นักวิชาชีพทั้งหมดนี้จะทำงานร่วมกันเป็นทีม ผ่านการประสานงานของสถาปนิก ซึ่งเป็นผู้นำของทีม (Team Leader)และผู้ติดต่อประสานงานระหว่างทีม(Coordinator)เพราะที่ปรึกษาอื่นๆ จะไม่มีใครเข้าใจภาพรวมของโครงการเท่าสถาปนิก
ด้วยสาเหตุของความเข้าใจในโครงการที่มากกว่าสมาชิกในทีมคนอื่นๆ ทำให้สถาปนิกเป็นผู้ที่ติดต่อกับเจ้าของโดยตรงในการทำโครงการ นักวิชาชีพในทีมคนอื่นๆ ที่ต้องการติดต่อกับเจ้าของมักจะทำผ่านสถาปนิก หรือในบางกรณีสถาปนิกจะไม่อนุญาตให้สมาชิกในทีมคนอื่นๆ ติดต่อกับเจ้าของโดยตรงเลย เพราะจะเป็นการเกิดความสับสนในระบบการประสานงานและปฏิบัติการ
ถ้านักวิชาชีพเหล่านี้ทำสัญญาการว่าจ้างกับสถาปนิก สถาปนิกจะมีสถาณภาพเป็นผู้นำของทีมออกแบบ (Leader) แต่ถ้านักวิชาชีพเหล่านี้ทำสัญญาโดยตรงกับเจ้าของ สถาปนิกจะมีสภาณภาพเป็นผู้ประสานงาน (Coordinator) โดยส่วนใหญ่สถาปนิกจะทำสัญญาว่าจ้างกับนักวิชาชีพเหล่านี้เพื่อจะได้เกิดการควบคุมคุณภาพและสั่งการโครงการได้สะดวก แต่ในบางกรณี สถาปนิกอาจจะต้องการหลีกเลี่ยงการทำสัญญากับนักวิชาชีพเหล่านี้ โดยเฉพาะถ้าเป็นโครงการที่ใหญ่เป็นพิเศษที่สถาปนิกต้องมีความรับผิดชอบสูงมาก อาจเกิดความเสี่ยงต่อการรับผิดชอบความเสียหาย (Liability)มากจนไม่คุ้มกับค่าบริการวิชาชีพที่จะได้รับ สถาปนิกจะแนะนำให้เจ้าของโครงการทำสัญญาโดยตรงกับนักวิชาชีพเหล่านั้น
อีกด้านหนึ่ง เจ้าของโครงการ (Owner) จะทำสัญญากับผู้รับเหมาก่อสร้าง (Contractor) เพื่อให้ทำการก่อสร้าง ตามแบบก่อสร้าง (Construction Documents)และ รายการประกอบแบบ (Specification) ที่สถาปนิกและทีมผู้ช่วยทั้งหลายได้ทำการออกแบบ
[แก้] ขั้นตอนการให้บริการวิชาชีพของสถาปนิก
สถาปนิกจะทำการบริการวิชาชีพตามขั้นตอนต่อไปนี้
1. ออกแบบเบื้องต้น (Schematic Design)
2. ออกแบบรายละเอียด (Design Development หรือ DD)
3. ทำแบบก่อสร้าง (Construction Document)
4. การประมูลและเจรจาต่อรอง (Bidding and Negotiation)
5. บริหารงานก่อสร้าง (Construction Administration)
ในบางโครงการ อาจจะมีการเข้าไปรับงานเป็นทีม โดยเจ้าของทำสัญญากับทีมก่อสร้างเพียงสัญญาเดียว ซึ่งประกอบไปด้วย ผู้รับเหมาก่อสร้าง สถาปนิก และ ที่ปรึกษาอื่นๆ รวมตัวกันเป็นหนึ่ง โดยการทำสัญญาโดยตรงนี้ จะเรียกว่า เป็นการบริการแบบ ดีไซน์บิลด์ (Design Build)
[แก้] ขอบเขตงานของสถาปนิก
สถาปนิกในปัจจุบันได้มีการขยายขอบเขตการประกอบวิชาชีพไปในหลายๆ ด้านที่เป็นแนวทางเฉพาะ เช่น
1. งานด้านออกแบบ (Design)
2. งานด้านการบริหารโครงการ (Construction Management)
3. งานด้านการบริหารการใช้พลังงานในอาคาร (Building Energy Management)
4. งานด้านการออกแบบการให้แสง (Lighting Design)
5. งานด้านบริหารจัดการอาคาร (Facility Management)
6. งานด้านอนุรักษ์ (Preservation)
7. งานตรวจสอบมาตรฐานและความปลอดภัยของอาคาร (Building Inspection)
[แก้] สถาปนิกที่มีชื่อเสียงจากอดีตถึงปัจจุบัน
[แก้] สถาปนิกในประเทศไทย
- นารถ โพธิประสาท ผู้ก่อตั้ง คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- หม่อมเจ้าโวฒยากร วรวรรณ
- เฉลิม สุจริต
- พิชัย วาศนาส่ง
สถาปนิกที่ได้รับพระราชทานเหรียญดุษฎีมาลา เข็มศิลปวิทยา
สถาปนิกที่ได้รับรางวัลศิลปินแห่งชาติ
- ศาสตราจารย์ พลเรือตรี สมภพ ภิรมย์
- หม่อมราชวงศ์มิตรารุณ เกษมศรี
- ดร. ประเวศ ลิมปรังษี
- รศ.ดร. ภิญโญ สุวรรณคีรี
- นาวาเอก อาวุธ เงินชูกลิ่น
- รศ. ฤทัย ใจจงรัก
- วนิดา พึ่งสุนทร
- ดร. สุเมธ ชุมสาย ณ อยุธยา
- นิธิ สถาปิตานนท์ (A49)
- ดร.จุลทัศน์ กิติบุตร
- ศ.กิตติคุณ เดชา บุญค้ำ
สถาปนิกที่เป็นกรรมการสภาสถาปนิก
- ดูบทความหลักที่ สภาสถาปนิก
รายชื่อสถาปนิกที่คัดเลือกโดยสมาคมสถาปนิกสยาม ในบทความ "Reinvent" จำนวน 23 ท่าน[1]
- ดร. สุเมธ ชุมสาย ณอยุธยา
- องอาจ สาตรพันธุ์
- อรศิริ ปาณินท์
- นิธิ สถาปิตานนท์
- บุญฤทธิ์ ขอดิลกรัตน์
- อนุสรณ์ ภักดิ์สุขเจริญ
- จิรากร ประสงค์กิจ
- กรรณิการ์ รัตนปรีดากุล
- ดร. ไขศรี ภักดิ์สุขเจริญ
- ดวงฤทธิ์ บุนนาค
- สุจินท์ โอสถารยกุล
- ปฐมา หรุ่นรักวิทย์
- ดร. กุลภัทร ยันตรศาสตร์
- ชนะ ส้มพลัง
- ดร. รชพร ชูช่วย
- สุริยะ อัมพันศิริรัตน์
- ผศ. ดร. มล.ปิยลดา ทวีปรังษีพร
- ทรงสุดา อธิบาย
- วรพันธุ์ คล้ามไพบูลย์
- บุษดี งามภักดีพาณิช
- ศาวินี บูรณศิลปิน
- ปิตุพงษ์ เชาวกุล
- ศัลยเวทย์ ประเสริฐวิทยาการ
อื่นๆ
- ศ.หม่อมราชวงศ์ แน่งน้อย ศักดิ์ศรี
- ชัชวาลย์ พริ้งพวงแก้ว
- มติ ตั้งพานิช (Design Development)
- นิพัทธ์ ซื่อตรง (Nipat Associates)
- เจน สกลธนรักษ์ (? ตัวสะกด)
- รังสรรค์ ต่อสุวรรณ
- ศ. กิตติคุณ ร้อยเอกกฤษฎา อรุณวงษ์ ณ อยุธยา (CASA)
- รศ.ดร.วิโรฒ ศรีสุโร (Appied Thai arts)
- รศ. ดร. บัณฑิต จุลาสัย (จุลาสัย)
- หม่อมหลวงตรีทศยุทธ เทวกุล
- รศ. เลอสม สถาปิตานนท์
- รศ.ดร.ทิพย์สุดา ปทุมานนท์
- อาจารย์ยอดเยี่ยม เทพธรานนท์ (InterPac)
[แก้] สถาปนิกจากต่างประเทศ
[แก้] ก่อนคริสตกาล
- อิมโฮเตป (Imhotep)
- วิทรูเวียส (Vitruvius)
[แก้] คริสต์ศตวรรษที่ 12
- วิลเลียมแห่งซองส์ (William of Sens)
[แก้] คริสต์ศตวรรษที่ 13
- วีลาร์ เดอ ออนกูร์ (Villard de Honnecourt)
- โรแบร์ เดอ ลูซาร์ช (Robert de Luzarches)
- เรอโน เดอ กอร์มง (Renaud de Cormont)
[แก้] คริสต์ศตวรรษที่ 14
- จอตโต ดี บอนโดเน (Giotto di Bondone)
- ปีเตอร์ พาร์เลอร์ (Peter Parler)
[แก้] คริสต์ศตวรรษที่ 15
- โดนาโต ดันเจโล บรามันเต (Donato d'Angelo Bramante)
- ฟีลิปโป บรูเนลเลสกี (Filippo Brunelleschi)
- ลูกา แฟนเซลี (Luca Fancelli)
- ลีออน บาตติสตา อัลเบอร์ติ (Leon Battista Alberti)
- มิเกลอโซ มิเกลอซิ (Michelozzo Michelozzi)
- อันโตนีโอ ดา ซานกัลโล ผู้พ่อ (Antonio da Sangallo the Elder)
- จูลิอาโน ดา ซานกาลโล (Giuliano da Sangallo)
- เจคอบ แวน ตีเนน (Jacob van Thienen)
- เลโอนาร์โด ดา วินชี (Leonardo da Vinci)
[แก้] คริสต์ศตวรรษที่ 16
|
|
[แก้] คริสต์ศตวรรษที่ 17
|
|
[แก้] คริสต์ศตวรรษที่ 18
|
|
[แก้] คริสต์ศตวรรษที่ 19
|
|
[แก้] คริสต์ศตวรรษที่ 20
- อัลวา อัลโต (Alvar Aalto)
- ริชาร์ด บักมินสเตอร์ ฟุลเลอร์ (Buckminster Fuller)
- เอกตอร์ กีมาร์ (Hector Guimard)
- วอลเตอร์ โกรเปียส (Walter Gropius)
- ฮันส์ ฮอลไลน์ (Hans Hollein)
- วิกตอร์ ออร์ตา (Victor Horta)
- หลุยส์ คาห์น (Louis I. Kahn)
- เลอ กอร์บูซีเย (Charles-Édouard Jeanneret a.k.a. Le Corbusier)
- ลุดวิก มีส ฟาน เดอร์ โรห์ (Ludwig Mies van der Rohe)
- อองรี โซวาช (Henri Sauvage)
- รูดอล์ฟ สไตน์เนอร์ (Rudolf Steiner)
- เจมส์ สเตอร์ลิง (James Stirling)
- เยิร์น อุทซอน (Jørn Utzon)
- โรเบิร์ต เวนทูรี (Robert Venturi)
- แฟรงก์ ลอยด์ ไรต์ (Frank Lloyd Wright)
- อัลโด เวน เอค (Aldo van Eyck)
[แก้] ร่วมสมัย (คริสต์ศตวรรษที่ 20 - คริสต์ศตวรรษที่ 21)
- ทะดะโอะ อันโด (Tadao Ando)
- อะซิมป์โทต (Asymptote)
- มารีโอ บอตตา (Mario Botta)
- ไมเคิล เกรฟส์ (Michael Graves)
- ปีเตอร์ ไอเซนมาน (Peter Eisenman)
- นอร์มัน ฟอสเตอร์ (Norman Foster)
- แฟรงก์ เกห์รี (Frank Gehry)
- ซาฮา ฮาดิด (Zaha Hadid)
- อะระตะ อิโซะซะกิ (Arata Isozaki)
- โตโยะ อิโตะ (Toyo Ito)
- เร็ม คูลฮาส (Rem Koolhaas)
- ริชาร์ด ไมเออร์ (Richard Meier)
- เอ็มวีอาร์ดีวี (MVRDV)
- ออสการ์ นีเมเยอร์ (Oscar Niemeyer)
- ชอง นูแวล (Jean Nouvel)
- น็อกซ์ (NOX)
- ไอเอ็มเป (Ieoh Ming Pei - I.M. Pei)
- เรนโซ เปียโน (Renzo Piano)
- กริสตียอง เดอ ปอร์ซอมปาร์ (Christian de Portzamparc)
- ริชาร์ด โรเจอรส์ (Richard Rogers)
- อัลโด รอสซี (Aldo Rossi)
- เคนโซ ทังเงะ (Kenzo Tange)
- เบอร์นาร์ด ชูมี (Bernard Tschumi)
- เฮลมุต ยาห์น (Helmut Jahn)
- เฮอร์โซค แอนด์ เดอ มัวรอน (Herzog & De Meuron)
- เอฟ โอ เอ (FOA)
- มอร์โฟซิส (Morphosis)
[แก้] สถาบันการศึกษาทางสถาปัตยกรรมในประเทศไทย
สถาบันการศึกษาที่ทำหน้าที่ผลิตสถาปนิกของประเทศไทยแห่งแรก คือ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2476 โดยอาจารย์นารถ โพธิประสาท ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2498 ได้มีการเปิดสอนคณะสถาปัตยกรรมไทย ปัจจุบัน คือ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร หลังจากนั้น ได้มีการสถาปนา สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ขึ้น ซึ่งมี คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ เป็นคณะแรกของสถาบัน และนับเป็นสถาบันการศึกษาที่ผลิตสถาปนิกเป็นแห่งที่ 3 ของประเทศ ตามมาด้วยมหาวิทยาลัยขอนแก่น จากนั้น ก็ได้มีสถาบันอุดมศึกษาทั้งภาครัฐและเอกชนเปิดสอนเป็นจำนวนมากดังปัจจุบัน
[แก้] อ้างอิง
[แก้] ดูเพิ่ม
|