นิโกลาส์ ซาร์โกซี

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

นิโกลาส์ ซาร์โกซี
Nicolas Sarkozy
ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศสคนที่ 23
Nicolas Sarkozy1.jpg

ดำรงตำแหน่งในปัจจุบัน
วาระการดำรงตำแหน่ง
16 เมษายน พ.ศ. 2550 - {{{fin mandat1}}}
ตั้งแต่ 16 เมษายน พ.ศ. 2550
{{{début mandat2}}} - {{{fin mandat2}}}
{{{début mandat3}}} - {{{fin mandat3}}}
{{{début mandat4}}} - {{{fin mandat4}}}
รับเลือกตั้ง 6 เมษายน พ.ศ. 2550
พรรคการเมือง UDR (2517)
RPR (2519)
UMP (2545)
สาธารณรัฐ สาธารณรัฐที่ 5
รัฐธรรมนูญ รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2501
นายกรัฐมนตรี ฟรองซัวส์ ฟียง
สมัยก่อนหน้า ฌาคส์ ชีรัค
รับเลือกตั้ง {{{élection2}}}
รับเลือกตั้ง {{{élection3}}}
รับเลือกตั้ง {{{élection4}}}

ตำแหน่งอื่น
นายกเทศมนตรีเนยยี-ซูร์-แซน
วาระการดำรงตำแหน่ง
พ.ศ. 2526 - พ.ศ. 2545
ประธานาธิบดี {{{président1}}}
ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐ {{{président de la république1}}}
ประมุขแห่งรัฐ {{{chef de l'etat1}}}
กษัตริย์ {{{monarque1}}}
ผู้สำเร็จราชการ {{{gouverneur1}}}
นายกรัฐมนตรี {{{premier ministre1}}}
คณะรัฐมนตรี {{{gouvernement1}}}
สมัยก่อนหน้า อชิลล์ เปอเรตติ
สมัยถัดไป หลุยส์-ชาร์ลส์ บารี

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงงบประมาณ
วาระการดำรงตำแหน่ง
29 มีนาคม พ.ศ. 2536 - 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2538
ประธานาธิบดี ฟรองซัวส์ มิตแตร์รองด์
ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐ {{{président de la république2}}}
ประมุขแห่งรัฐ {{{chef de l'etat2}}}
กษัตริย์ {{{monarque2}}}
ผู้สำเร็จราชการ {{{gouverneur2}}}
นายกรัฐมนตรี เอดูอาร์ บัลลาดูร์
คณะรัฐมนตรี ครม. เอดูอาร์ บัลลาดูร์
สมัยก่อนหน้า มาร์แตง มาลวี
สมัยถัดไป ฟรองซัวส์ โดแบร์

โฆษกรัฐบาลของเอดูอาร์ บัลลาดูร์
วาระการดำรงตำแหน่ง
29 มีนาคม พ.ศ. 2536 - 19 มกราคม พ.ศ. 2538
ประธานาธิบดี {{{président3}}}
ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐ {{{président de la république3}}}
ประมุขแห่งรัฐ {{{chef de l'etat3}}}
กษัตริย์ {{{monarque3}}}
ผู้สำเร็จราชการ {{{gouverneur3}}}
นายกรัฐมนตรี {{{premier ministre3}}}
คณะรัฐมนตรี {{{gouvernement3}}}
สมัยก่อนหน้า หลุยส์ แมร์มาซ
สมัยถัดไป ฟิลิปป์ ดูสต์-บลาซี

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการสื่อสาร
วาระการดำรงตำแหน่ง
19 กรกฎาคม พ.ศ. 2537 - 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2538
ประธานาธิบดี {{{président4}}}
ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐ {{{président de la république4}}}
ประมุขแห่งรัฐ {{{chef de l'etat4}}}
กษัตริย์ {{{monarque4}}}
ผู้สำเร็จราชการ {{{gouverneur4}}}
นายกรัฐมนตรี เอดูอาร์ บัลลาดูร์
คณะรัฐมนตรี ครม. เอดูอาร์ บัลลาดูร์
สมัยก่อนหน้า อแลง การีญง
สมัยถัดไป กาเตอรีน เทราต์มันน์ (ทางอ้อม)

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
วาระการดำรงตำแหน่ง
7 พฤษภาคม พ.ศ. 2545 - 30 มีนาคม พ.ศ. 2547
ประธานาธิบดี ฌาคส์ ชีรัค
ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐ {{{président de la république5}}}
ประมุขแห่งรัฐ {{{chef de l'etat5}}}
กษัตริย์ {{{monarque5}}}
ผู้สำเร็จราชการ {{{gouverneur5}}}
นายกรัฐมนตรี ฌอง-ปีแยร์ ราฟฟาแรง
คณะรัฐมนตรี ครม. ฌอง-ปีแยร์ ราฟฟาแรง 1 และ 3
สมัยก่อนหน้า ดานีแอล เวยองต์
สมัยถัดไป โดมินิก เดอ วิลล์แปง

{{{fonction6}}}
วาระการดำรงตำแหน่ง
31 พฤษภาคม พ.ศ. 2548 - 26 มีนาคม พ.ศ. 2550
ประธานาธิบดี {{{président6}}}
ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐ {{{président de la république6}}}
ประมุขแห่งรัฐ {{{chef de l'etat6}}}
กษัตริย์ {{{monarque6}}}
ผู้สำเร็จราชการ {{{gouverneur6}}}
นายกรัฐมนตรี โดมินิก เดอ วิลล์แปง
คณะรัฐมนตรี ครม. โดมินิก เดอ วิลล์แปง
สมัยก่อนหน้า โดมินิก เดอ วิลล์แปง
สมัยถัดไป ฟรองซัวส์ บารวง

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การคลัง
และอุตสาหกรรม
วาระการดำรงตำแหน่ง
31 มีนาคม พ.ศ. 2547 - 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2547
ประธานาธิบดี {{{président7}}}
ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐ {{{président de la république7}}}
ประมุขแห่งรัฐ {{{chef de l'etat7}}}
กษัตริย์ {{{monarque7}}}
ผู้สำเร็จราชการ {{{gouverneur7}}}
นายกรัฐมนตรี ฌอง-ปีแยร์ ราฟฟาแรง
คณะรัฐมนตรี ครม. ฌอง-ปีแยร์ ราฟฟาแรง 3
สมัยก่อนหน้า ฟรองซีส แมร์
สมัยถัดไป แอร์เว เกมาร์

ประวัติ
ชื่อเดิม นิโกลาส์ ปอล สเตฟาน
ซาร์โกซี เดอ นากี-โบคซา
วันเกิด 28 มกราคม พ.ศ. 2498 (อายุ 55 ปี)
Flag of ฝรั่งเศส ปารีส ประเทศฝรั่งเศส
ถึงแก่อสัญกรรม {{{décès}}}
{{{lieu décès}}}
สาเหตุ {{{nature}}}
เชื้อชาติ {{{nationalité}}}
คู่สมรส 1. มารี-โดมินิก กูลีโยลี
(2525 - 2539)
2. เซซิลียา ซิกาเนร์-อัลเบนิซ
(2539 - 2550)
3. คาร์ลา บรูนี
(พ.ศ. 2551 - ปัจจุบัน )
บุตร-ธิดา {{{enfants}}}
สำเร็จการศึกษา มหาวิทยาลัยปารีส-สิบ
อาชีพ {{{profession}}}
อาชีพ {{{occupation}}}
สถานที่อาศัย ทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศส
ศาสนา {{{religion}}}
ลายเซ็น {{{signature}}}

Armoiries république française.svg
ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส

นิโกลาส์ ซาร์โกซี (Nicolas Sarkozy) Loudspeaker.svg [nikɔla saʁkɔzi]  (28 มกราคม พ.ศ. 2498 — ) ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศสและผู้ปกครองร่วมแห่งอันดอร์ราคนปัจจุบัน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กระทรวงเศรษฐกิจ การคลังและอุตสาหกรรม กระทรวงงบประมาณและนายกเทศมนตรีเนยยี-ซูร์-แซน

เขาเป็นที่รู้จักดีจากทัศนคติในด้านกฎหมายและคำสั่งของเขา[1] รวมถึงความต้องการให้เศรษฐกิจของประเทศฝรั่งเศสกลับคืนสู่สภาพเดิม[2] ในด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เขาได้สร้างความสัมพันธ์อย่างแนบแน่นกับสหรัฐอเมริกาและยังได้กระชับความสัมพันธ์ฉันมิตรกับประเทศอื่นๆ อีกด้วย[3] ชื่อเล่นที่ผู้สนับสนุนและไม่สนับสนุนต่างเรียกแทนตัวเขาคือ "ซาร์โก" (Sarko)

เนื้อหา

[แก้] ชีวิตส่วนตัว

[แก้] ภูมิหลังครอบครัว

[แก้] ประวัติตระกูล

นิโกลาส์ ซาร์โกซี เป็นลูกชายของ ปาล ชาร์เคอซี เดอ นาดญ์-โบทชา (Pál Sárközy de Nagy-Bócsa) ชาวฮังการีที่อพยพมา กับ อองเดร มัลละห์ (Andrée Mallah) หญิงชาวฝรั่งเศส ชาวนิกายคาทอลิก เชื้อสายกรีก-เซพาร์ดิกยิว [4] [5] ตาของเขาเป็นชาวกรีกชื่อ 'เบนิโก มัลละห์' (ชื่อเดิม อารอน มัลละห์) ลูกชายของมอร์เดไค มัลละห์ (Mordechai Mallah) ซึ่งเบนิโกเป็นอายุรแพทย์จากเทสซาโลนิกิ ที่อพยพมาประกอบอาชีพที่ประเทศฝรั่งเศส

[แก้] ประวัติตระกูลบิดา

ชาร์เคอซี เดอ นาดญ์-โบทชา (Sárközy de Nagy-Bócsa) หรือ นาดญ์โบทชาย ชาร์เคอซี (Nagybócsai Sárközy) เกิด พ.ศ. 2471) ณ กรุงบูดาเปสต์ ในครอบครัวชนชั้นกลางในประเทศฮังการี ครอบครัวครอบครองที่ดินและปราสาทเล็กๆ ในหมู่บ้านอลัตยัน (Alattyán) ใกล้เมืองโซลนก (Szolnok) ห่างจากบูดาเปสต์ไปทางทิศตะวันออก 92 กิโลเมตร (57 ไมล์)

พ่อและปู่ของปาล ซาร์โกซี ได้รับเลือกตั้งให้ดูแลเมืองโซลนก อย่างไรก็ตามครอบครัว ชาร์เคอซี เดอ นาดญ์-โบทชา (นาดญ์-โบทชาย ชาร์เคอซี) นับถือศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนต์ แต่ว่าแม่ (Katalin Tóth de Csáford) และย่าของปาล ซาร์โกซีย์ นั้นนับถือคริสต์ศาสนานิกายโรมันคาทอลิก และยังนิยมลัทธิอภิชนาธิปไตยอีกด้วย

ขณะที่กองทัพแดงบุกฮังการีเมื่อ พ.ศ. 2488 ครอบครัวซาร์โกซีหนีไปประเทศเยอรมนี [6] และได้กลับไปอีกเมื่อ พ.ศ. 2489 แต่ที่ดินของพวกเขาก็ถูกยึดหมดแล้ว

พ่อของปาล ชาร์เคอซี (ปู่ของนิโกลาส์ ซาร์โกซี) เสียชีวิตลงในเวลาต่อมา ส่วนแม่ของเขาเกรงว่าปาล ซาร์โกซีจะถูกเกณฑ์ไปร่วมกองทัพประชาชนฮังการีหรือส่งไปไซบีเรีย จึงโน้มน้าวให้เขาออกจากประเทศและสัญญาว่าจะตามเขาไปพบกันที่กรุงปารีส ปาลออกจากฮังการี ไปยังประเทศออสเตรียและต่อไปเยอรมนี ในขณะที่แม่ของเขารายงานต่อเจ้าหน้าที่ว่า เขาจมน้ำที่ทะเลสาบบาลาตอน ในที่สุดปาล ชาร์เคอซีได้ถึงเมืองบาเดน-บาเดน เยอรมนี ซึ่งอยู่ติดชายแดนฝรั่งเศส และยังเป็นสถานที่ตั้งของกองบัญชาการทหารฝรั่งเศสในเยอรมนีด้วย ที่นั้นเขาเข้าสมัครเป็นส่วนหนึ่งของกองทหารต่างฝรั่งเศส (Légion étrangère) เป็นเวลา 5 ปี และถูกส่งไปฝึกที่เมืองซิดี เบล อับแบส (Sidi Bel Abbès) ในประเทศแอลจีเรียในปกครองของฝรั่งเศส ซึ่งเป็นกองบัญชาการกองทหารต่างประเทศฝรั่งเศส เขาเกือบต้องไปประจำการที่อินโดจีน ในการปกครองของฝรั่งเศส เมื่อจบการฝึก ซึ่งอาจได้รับอันตรายจากสงครามกับเวียดมินห์ แต่แพทย์ผู้ตรวจร่างกายก่อนเดินทาง เป็นชาวฮังการีด้วยกัน ด้วยความเห็นใจจึงช่วยเหลือปาลไม่ให้ไปประจำการยังอินโดจีนฝรั่งเศส เขากลับไปใช้ชีวิตเป็นพลเรือนในเมืองมาร์เซย์เมื่อ พ.ศ. 2491 อย่างไรก็ตามเขาได้ขอสัญชาติฝรั่งเศสชั่วคราวจนถึงปลายคริสต์ทศวรรษ 1970 เท่านั้น (หลังจากนั้นจึงเป็นคนไร้สัญชาติ) กระนั้นเขาก็ได้เปลี่ยนชื่อจากเป็นภาษาฮังการีเป็นภาษาฝรั่งเศสว่า ปอล ซาร์โกซี เดอ นากี-โบคซา (Paul Sarközy de Nagy-Bocsa) และได้พบกับ อองเดร มัลละห์ แม่ของนิโกลาส์ ซาร์โกซี (ชื่อเล่นว่า '"ดาดู'" [7]) เมื่อ พ.ศ. 2492

[แก้] ประวัติตระกูลมารดา

อองเดร มัลละห์ (Mallah) นักเรียนกฎหมาย ลูกสาวของ เบเนดิกต์ มัลละห์ เศรษฐีผู้เชี่ยวชาญการแพทย์สาขาโรคระบบการขับถ่ายปัสสาวะและโรคติดต่อทางเพศ ผู้มีชื่อเสียงมานานในหมู่ชนชั้นกลาง ในเขตที่ 17 กรุงปารีส

ตามการศึกษาลำดับเครือญาติชาวยิว บรรพบุรุษของครอบครัวมัลละห์แห่งซาโลนิกา มาจากประเทศสเปน อพยพมาตั้งแต่ พ.ศ. 2035 เนื่องจากกษัตริย์คาทอลิกได้ขับไล่ชาวยิวจากประเทศ ต่อมาตั้งรกรากที่ เมืองโปรวองซ์ ตอนใต้ของฝรั่งเศส ประมาณ 100 ปีหลังจากนั้น อพยพมาที่ซาโลนิกา

เบเนดิกต์ มัลละห์ (เดิมชื่อ อารอน มัลละห์ ชื่อเล่น เบนิโก) เกิดเมื่อ พ.ศ. 2433 ในชุมชนเซพาร์ดิกยิว เมืองซาโลนิกา (เทสซาโลนิกิ) จักรวรรดิออตโตมัน ซึ่งในขณะนั้นประชากรส่วนมากเป็นชาวยิว เป็นลูกชายเจ้าของร้ายเพชรพลอย ออกจากซาโลนิกากับแม่ของเขาเมื่อ พ.ศ. 2447 ขณะอายุ 14 ปี เข้าเรียนที่ โรงเรียนลากานาล (Lycée Lakanal) โรงเรียนประจำที่มีชื่อเสียงใน เมืองสโกซ์ (Sceaux) ในชนบททางใต้ของปารีส และเรียนต่อสาขาแพทยศาสตร์ หลังจากจบปริญญาตรี กลบไปอาศัยที่ประเทศฝรั่งเศส และเป็นพลเมืองฝรั่งเศสในเวลาต่อมา

เขาเป็นแพทย์ในกองทัพฝรั่งเศสในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งเป็นเหตุให้เขาเจอกับหญิงม่ายจากสงคราม อแดล บูวิเยร์ (พ.ศ. 2434 - พ.ศ. 2499) ซึ่งมาจากครอบครัวชนชั้นกลางในลียง และได้แต่งงานกันเมื่อ พ.ศ. 2460 อแดล บูวิเยร์ ยายของนิโกลาส์ ซาร์โกซีนับถือคริสต์ศาสนานิกายโรมันคาทอลิก เช่นเดียวกับชาวฝรั่งเศสทั่วไป ส่วนเบนิโก มัลละห์ มิได้กล่าวถึงว่าเดิมนับถือศาสนาใด แต่เปลี่ยนมานับถือนิกายโรมันคาทอลิก หลังแต่งงานตามคำขอของพ่อแม่ฝ่ายหญิง พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อ

อย่างไรก็ตาม เขาและครอบครัวยังคงต้องหนีจากปารีส ไปลี้ภัยในจังหวัดกอร์แรซ ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อหลบหลีกการถูกจับควบคุมตัวไปเยอรมนี ในระหว่างการล้างชาติพันธุ์โดยนาซี ตระกูลมัลละห์ที่อาศัยในซาโลนิกา หรืออพยพมาฝรั่งเศส ถูกเนรเทศไปยังค่ายกักกัน ซึ่งทราบภายหลังว่า สมาชิกตระกูลมัลละห์เสียชีวิตเพราะนาซีไปทั้งสิ้น 57 คน [8]

[แก้] หลังจากนิโกลาส์เกิด

ปอล ซาร์โกซี และ อองเดร มัลละห์ ตั้งถิ่นฐานในเขตที่ 17 กรุงปารีส และมีบุตรด้วยกัน 3 คน ได้แก่

  • กีโยม ซาร์โกซี (Guillaume Sarkozy) (พ.ศ. 2494 — ) พ่อค้าในอุตสาหกรรมทอผ้า
  • นิโกลาส์ ซาร์โกซี (Nicolas Sarkozy) (พ.ศ. 2498 — ) นักการเมืองและประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศสคนปัจจุบัน
  • ฟรองซัวส์ ซาร์โกซี (François Sarkozy) (พ.ศ. 2500 — ) จบปริญญาโททางบริหารธุรกิจ และบริหารบริษัทที่ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ

เมื่อ พ.ศ. 2502 ปอล ซาร์โกซีได้หย่ากับอองเดร มัลละห์ และไปแต่งงานอีก 2 ครั้ง โดยมีลูกอีก 2 คนกับภรรยาคนที่สอง

โอลิวีเยร์ ซาร์โกซี พี่น้องร่วมบิดาของเขาได้ถูกเลือกให้เป็นหัวหน้าบริหารและจัดการร่วมในบริษัทคาร์ลีล เมื่อมีนาคม พ.ศ. 2551 [9]

[แก้] ชีวิตวัยเยาว์

ในวัยเด็กของซาร์โกซีนั้น บิดาของเขาได้ปฏิเสธในการให้เงินสนับสนุนครอบครัวเขา ทั้งๆ ที่ปอลได้ก่อตั้งบริษัทโฆษณาและเป็นเศรษฐี ครอบครัวของเขาจึงได้เพียงอาศัยอยู่ในคฤหาสน์เล็กๆ ของตาเขา (เบเนดิกต์ มัลละห์) ในเขตที่ 17 เท่านั้น ต่อมาครอบครัวของเขาย้ายไปยังเทศบาลเนยยี-ซูร์-แซน หนึ่งในเทศบาลที่ร่ำรวยที่สุดของแคว้นอีล-เดอ-ฟรองซ์ ซาร์โกซีเคยกล่าวว่า ตาของเขาซึ่งเป็นพวกนิยมโกลล์ มีอิทธิพลต่อเขามากกว่าบิดาเสียอีก ทั้งนี้ก็เพราะซาร์โกซีแทบไม่ได้เจอเขาเลย ตาของเขาเกิดมาเป็นพวกเซพาร์ดิกยิว ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนมานับถือโรมันคาทอลิก ซาร์โกซีจึงเติบโตมาด้วยการความเชื่อแบบคาทอลิก เขาและพี่น้องได้เข้าพิธีศีลจุ่มและล้างบาป ซึ่งทำให้เขาเป็นคาทอลิกอย่างสมบูรณ์ ซาร์โกซียังเคยกล่าวว่า คนต้นแบบที่เค้าชื่นชอบคนหนึ่งคือ สมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอลที่ 2

ปอล ซาร์โกซี พ่อของเขาไม่เคยสอนภาษาฮังการีให้แก่เขาหรือพี่น้องเลย และไม่มีหลักฐานว่ามีการพยายามสั่งสอนเรื่องพื้นหลังของครอบครัวหรือบรรพบุรุษเลย

ซาร์โกซียังเคยกล่าวว่า การที่พ่อทิ้งเขาไปแต่เยาว์ทำให้เขาเป็นอย่างที่เขาเป็นในปัจจุบัน และในฐานะที่เขาเป็นเด็กและวัยรุ่น เขาเคยรู้สึกว่าเขามีปมด้อยเรื่องฐานะกับเพื่อนร่วมห้องที่มีฐานะทางการเงินสูงกว่าเขา เขายังมีความรู้สึกว่าไม่ปลอดภัย (เขาสูงเพียง 1.65 เมตร (5 ฟุต 5 นิ้ว) หรือไม่ก็ฐานะของครอบครัว — อย่างน้อยก็ต่ำกว่าผู้ที่อยู่อาศัยในเขตที่ 17) และได้เก็บความรู้สึกขุ่นเคืองใจที่มีต่อพ่อเขาเป็นอย่างมาก "สิ่งที่สร้างผมขึ้นมาทุกวันนี้คือความอับอายที่ผมได้รับมาในวัยเยาว์" เขากล่าว[10]

[แก้] การศึกษา

ซาร์โกซีสมัครเข้าโรงเรียนชัปตาล (Lycée Chaptal) โรงเรียนมัธยมศึกษาของรัฐในเขตที่ 8 ซึ่งเขาตกในระดับ 6 (Sixième) (เทียบเท่าประถมศึกษาปีที่ 6 ในสหรัฐอเมริกาหรือมัธยมศึกษาปีที่ 1 ในอังกฤษและเวลส์) ครอบครัวเขาจึงส่งเขาไปเรียนที่กูร์ แซงต์-หลุยส์ เดอ มงโซ (Cours Saint-Louis de Monceau) โรงเรียนคาทอลิกเอกชนในเขตที่ 17 ซึ่งเขาได้ถูกรายงานว่าเป็นนักเรียนระดับธรรมดา[11] ซึ่งเขาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีในปี พ.ศ. 2516 และต่อมาได้สมัครเข้ามหาวิทยาลัยปารีส 10 นองแตร์ (Université Paris X Nanterre) และเรียนจบปริญญาโทสาขากฎหมาย และที่นี้เองเป็นสถานที่เริ่มต้นและกำลังหลักของเหตุการณ์พฤษภา 2511 (Mai 68) ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวของนักเรียนหัวเอียงซ้าย แม้ว่าเขาจะถูกมองว่าเป็นคนเงียบ แต่เขาก็ได้ร่วมเป็นสมาชิกแนวร่วมปีกขวาของมหาวิทยาลัยซึ่งเขาก็ได้มีความตื่นตัวทางการเมือง หลังจบการศึกษา เขาเข้าศึกษาต่อที่สถาบันวิชาการเมืองปารีส (Institut d'Études Politiques de Paris) (พ.ศ. 2522 - พ.ศ. 2524) แต่ไม่จบเนื่องจากมีความรู้ทางด้านภาษาอังกฤษน้อยเกินไป[12] หลังจากผ่านการสอบแล้ว เขาได้เป็นทนายความกฎหมายด้านธุรกิจและครอบครัว[13]

[แก้] การแต่งงานและการหย่า

[แก้] มารี-โดมินิก กูลีโยลี

ในวันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2525 ซาร์โกซีได้แต่งงานกับมารี-โดมินิก กูลีโยลี (Marie-Dominique Culioli) ลูกสาวเภสัชกรจากวิโก (Vico) (หมู่บ้านทางตอนเหนือของอะฌัคซิโอ คอร์ซิกา) ทั้งสองมีลูกด้วยกัน 2 คนคือ

  • ปีแอร์ ซาร์โกซี (Pierre Sarkozy) (พ.ศ. 2528 — )
  • ฌอง ซาร์โกซี (Jean Sarkozy) (พ.ศ. 2530 — )

ผู้ที่เป็นสักขีพยานในการแต่งงานครั้งนี้ที่เด่นสะดุดตาคือนักการเมืองฝ่ายขวา ชาร์ลส์ ปาส์กา ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นคู่แข่งทางการเมืองที่สำคัญของซาร์โกซี ซาร์โกซีได้หย่ากับกูลีโยลีในปี พ.ศ. 2539 หลังจากแยกกันอยู่เป็นเวลาหลายปี

[แก้] เซซิลียา ซิกาเนร์-อัลเบนิซ

ในฐานะนายกเทศมนตรีเนยยี-ซูร์-แซน ซาร์โกซีก็ได้พบกับอดีตนางแบบและผู้บริหารความสัมพันธ์กับรัฐ เซซิลียา ซิกาเนร์-อัลเบนิซ (เหลนของนักประพันธ์เพลง ไอแซค อัลเบนิซโดยมีพ่อเป็นชาวรัสเซีย) เมื่อเข้าร่วมงานแต่งงานของเธอกับฌาคส์ มาแต็ง[14] ในปี พ.ศ. 2531 ซิกาเนร์-อัลเบนิซได้ทิ้งฌาคส์ มาแต็งเพื่อมาอยู่กับซาร์โกซี และได้หย่ากับฌาคส์ มาแต็งหนึ่งปีต่อมา ซาร์โกซีแต่งงานกับเธอในปี พ.ศ. 2539 มีสักขีพยานคือมาร์แต็ง บูอีกส์และแบร์นาร์ด อาร์โนลต์ โดยทั้งสองมีลูก 1 คนคือ

ระหว่างปี พ.ศ. 2545 ถึง พ.ศ. 2548 ทั้งสองได้ออกงานตามที่สาธารณะเป็นประจำ โดยที่ซิกาเนร์-อัลเบนิซทำหน้าที่เสมือนกับหัวหน้าคนสนิทของซาร์โกซีก็ว่าได้ ในวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2548 หนังสือพิมพ์เลอ มาแต็ง (Le Matin) ของสวิตเซอร์แลนด์ ได้เปิดเผยว่าซิกาเนร์-อัลเบนิซได้ทิ้งซาร์โกซีเพื่อไปอยู่กับชายชาวฝรั่งเศสโมร็อกโกชื่อว่า ริชาร์ด อัตติอัส (Richard Attias) ซึ่งเป็นหัวหน้าบริษัทโฆษณาและการสื่อสารปุบลิซิส (Publicis) สาขานิวยอร์ก[15] ทั้งนี้ยังมีการกล่าวหาเรื่องส่วนตัวอีกหลายๆ อย่างซึ่งทำให้ซาร์โกซีฟ้องหนังสือพิมพ์ดังกล่าว ในขณะเดียวกันซาร์โกซีเองก็มีข่าวฉาวกับอานน์ ฟุลดา นักหนังสือพิมพ์เลอ ฟิกาโร[16]

ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2549 การคืนดีกันของทั้งสองได้เกิดขึ้น ต้นปี พ.ศ. 2549 ซาร์โกซีได้กล่าวกับหนังสือพิมพ์ว่า เขาได้ต้อนรับการกลับมาของซิกาเนร์-อัลเบนิซจากสหรัฐอเมริกา แต่อย่างไรก็ตามไม่มีใครทราบว่าสภาวะของการคืนดีเป็นอย่างไร

ซาร์โกซีและบรูนีในประเทศอียิปต์


ในวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2550 สำนักงานประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้ประกาศการหย่าของนิโกลาส์ ซาร์โกซี กับเซซิลียา ซิกาเนร์-อัลเบนิซด้วยการยินยอมของทั้งสอง (Divorce par consentement mutuel) ในวันที่ 15 ตุลาคม[17] เป็นที่น่าสนใจว่าเซซีเลียไม่สามารถฟ้องซาร์โกซีได้เนื่องจากมีความคุ้มกันโดยตำแหน่งประธานาธิบดีของซาร์โกซี (Immunity)

[แก้] คาร์ลา บรูนี

ปลายปี พ.ศ. 2550 ได้มีรายงานว่าคาร์ลา บรูนีกำลังมีความสัมพันธ์กับประธานาธิบดีฝรั่งเศส นิโกลาส์ ซาร์โกซี [18] หลังจากที่ช่างถ่ายภาพถ่ายภาพทั้งคู่กำลังเข้าชมดิสนีย์แลนด์ รีสอร์ท ปารีส และพักผ่อนที่ลูซอร์ ประเทศอียิปต์และเปตรา ประเทศจอร์แดน ระหว่างเทศกาลคริสต์มาส [19]

ในระหว่างการให้สัมภาษณ์แก่นักข่าวและหนังสือพิมพ์ที่เอลิเซ่ในวันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2551 นั้น ประธานาธิบดีซาร์โกซีได้ยืนยันความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองและพูดเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการแต่งงานของทั้งสอง [20] ซึ่งทั้งสองได้แต่งงานในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550 ที่พระราชวังเอลิเซ่ในกรุงปารีส การแต่งงานครั้งนี้เป็นการแต่งงานครั้งแรกของคาร์ลา บรูนีและเป็นครั้งที่ 3 ของซาร์โกซี

[แก้] ฐานะการเงินส่วนตัว

ซาร์โกซีได้ประกาศต่อคณะกรรมาธิการรัฐธรรมนูญว่าเขามีทรัพย์สินทั้งหมด 2 ล้านยูโร โดยที่ทรัพย์สินส่วนใหญ่จะมาจากกรมธรรม์ประกันภัยของเขา ในฐานะประธานาธิบดีฝรั่งเศส เขาได้รับเงินจำนวน 101,000 ยูโรต่อปี และเขายังได้เบี้ยบำนาญจากการเป็นนายกเทศมนตรีเนยยี-ซูร์-แซนจนกระทั่งปี พ.ศ. 2545 และยังได้เบี้ยบำนาญเป็นปีจากการเป็นสมาชิกสภาจังหวัดโอต์-เดอแซนอีกด้วย เงินปีของซาร์โกซีจะได้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเป็น 240,000 ยูโร เนื่องจากการแก้ไขงบประมาณในปี พ.ศ. 2551

[แก้] สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

ประเทศฝรั่งเศส
Logo de la République française.svg

บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของ:
ระบบการปกครองของ
ประเทศฝรั่งเศส



นักการเมืองทั้งซ้ายและขวาต่างยอมรับว่า ซาร์โกซีเป็นนักการเมืองและนักปราศรัยโจมตีทางการเมืองที่ช่ำชองที่สุดคนหนึ่ง[21] ผู้ที่สนับสนุนเขาในประเทศฝรั่งเศสต่างเล็งไปที่ความสามารถพิเศษของเขาและการนำนวัตกรรมการทางเมืองเข้ามาให้มีบทบาทในประเทศฝรั่งเศสอย่างไม่คาดคิด หลายคนมองว่าเขาต้องการปลีกออกจากสังคมนิยมฝรั่งเศสแบบเดิมๆ ไปสู่การปฏิรูปเศรษฐกิจแบบอเมริกา โดยรวมแล้ว เขาถูกจัดว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องสหรัฐอเมริกาและอิสราเอลมากกว่านักการเมืองฝรั่งเศสคนอื่นๆ

ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2548 ซาร์โกซีเป็นประธานพรรคสหภาพเพื่อการเคลื่อนไหวของปวงชน (Union pour un Mouvement Populaire : UMP) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองปีกขวาที่สำคัญพรรคหนึ่งและยังได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในคณะรัฐมนตรีของโดมินิก เดอ วิลล์แป็ง โดยมีตำแหน่งอันทรงเกียรติคือรัฐมนตรีแห่งรัฐ (Ministre d'État) ซึ่งทำให้เขาอยู่ในอันดับ 3 ของประเทศรองจากประธานาธิบดีฌาคส์ ชีรัคและนายกรัฐมนตรีโดมินิก เดอ วิลล์แปง ภาระหน้าที่ในฐานะรัฐมนตรีของซาร์โกซีนั้นจะต้องดูแลด้านการดำเนินการทางกฎหมายและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกลางและท้องถิ่น รวมถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศาสนา (เขายังได้ตั้งสภาความเชื่อแห่งมุสลิมฝรั่งเศส (CFCM) อีกด้วย) ก่อนหน้านั้นเขาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอีกด้วย ซึ่งเขาถูกบังคับให้ลาออกจากตำแหน่งจากการดำรงตำแหน่งในคณะรัฐบาล เขายังเคยเป็นรัฐมนตรีหลายสมัยซึ่งรวมถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอีกด้วย

[แก้] ในรัฐบาล

อาชีพทางการเมืองของซาร์โกซีเริ่มต้นเมื่อเขามีอายุเพียง 22 ปี โดยการเป็นสมาชิกสภาเทศบาลเนยยี-ซูร์-แซน เขาเป็นสมาชิกพรรครวมพลเพื่อสาธารณรัฐ (Rassemblement pour la République : RPR) ซึ่งต่อมาได้รับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีเมืองนั้น หลังจากการเสียชีวิตอย่างกะทันหันของอะชิลล์ เปอเรตติ นายกเทศมนตรีคนก่อน ซาร์โกซีสนิทสนมกับเปอเรตติเนื่องจากแม่ของเขาเป็นเป็นเลขาธิการของเปอเรตติ นักการเมืองอาวุโสของพรรครวมพลเพื่อสาธารณรัฐในขณะนั้นคือ ชาร์ลส์ ปาส์กา ต้องการเป็นนายกเทศมนตรีจึงขอให้ซาร์โกซีจัดตารางการรณรงค์หาเสียงให้เขา แต่เขากลับนำข้อเสียของชาร์ลส์ ปาส์กาไปเป็นประโยชน์และขับเคลื่อนให้เขาได้เป็นนายกเทศมนตรี ซาร์โกซีเป็นนายกเทศมนตรีที่มีอายุน้อยที่สุดในประเทศฝรั่งเศสโดยที่เทศบาลมีประชากรมากกว่า 50,000 คน เขาดำรงตำแหน่งตั้งแต่พ.ศ. 2526 - พ.ศ. 2545 ในปีพ.ศ. 2531 เขาได้เป็นสภาผู้แทนราษฎร

ในปี พ.ศ. 2536 เขาได้ออกข่าวไปทั่วประเทศหลังจากที่เขาทำการเจรจาเป็นการส่วนตัวกับ มนุษย์ระเบิด ซึ่งเป็นคนลักพาตัวเด็กเล็กๆ ไปเป็นตัวประกันในอนุบาลแห่งหนึ่งในเทศบาลเนยยี-ซูร์-แซน มนุษย์ระเบิด ดังกล่าวถูกสังหาร 2 วันหลังจากการเจรจาของตำรวจสังกัดหน่วย RAID (Recherche Assistance Intervention Dissuasion) ซึ่งเป็นหน่วยงานลับต่อต้านการก่อการร้ายของประเทศฝรั่งเศส โดยการสังหารครั้งนี้กระทำขณะที่ผู้ร้ายกำลังพักผ่อนอยู่

ตั้งแต่ พ.ศ. 2536 - พ.ศ. 2538 เขาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงงบประมาณและเป็นโฆษกรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีเอดูอาร์ด บัลลาดูร์ ช่วงแรกของชีวิตทางการเมืองของเขานั้น เขาถูกมองว่าเป็นผู้อยู่ภายใต้การอุปถัมภ์ของฌาคส์ ชีรัค ในช่วงที่เขาดูแลกระทรวงนั้น เขาได้เพิ่มหนี้สาธารณะของประเทศฝรั่งเศสมากกว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงงบประมาณคนใด (ยกเว้นรัฐมนตรีก่อนหน้าเขา) ด้วยเงินจำนวนเท่ากัน (200,000 ล้านยูโร / 260,000 ล้านดอลลาร์) (งบประมาณปี 2537 - 2539)

ในปี พ.ศ. 2538 ซาร์โกซีได้ดูถูกชีรัคแล้วหนุนหลังบัลลาดูร์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส พ.ศ. 2538 และหลังจากที่ชีรัคชนะการเลือกตั้งแล้ว ซาร์โกซีก็ถูกปลดจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงงบประมาณและรู้ตัวดีว่าเขาหลุดออกจากวงจรอำนาจเสียแล้ว

ซาร์โกซีกับนายกรัฐมนตรีฌอง-ปีแอร์ ราฟฟาแรง ในการประชุมกับสำนักงานตำรวจฝรั่งเศสแห่งชาติวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2545

อย่างไรก็ตาม เขาได้กลับมาหลังจากการชนะของฝ่ายขวาในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2540 ในอันดับสองของพรรครวมพลเพื่อสาธารณรัฐ (RPR) เมื่อหัวหน้าพรรค ฟิลิปป์ เซกูแอ็งลาออกในปี พ.ศ. 2542 เขาได้ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค (ชั่วคราว) แต่ก็ประสบความล้มเหลวในการเลือกตั้งรัฐสภายุโรป พ.ศ. 2542 ได้คะแนนเพียง 12.7% จากผลการเลือกตั้งทั้งหมด น้อยกว่าพรรครวมพลเพื่อฝรั่งเศส (RPF) ของชาร์ลส์ ปาส์กาเสียด้วยซ้ำไป ด้วยเหตุนี้ทำให้ซาร์โกซีถูกปลดจากการเป็นหัวหน้าพรรคโดยทันที

ในปี พ.ศ. 2545 หลังชีรัคชนะการเลือกตั้งเป็นครั้งที่สองในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส พ.ศ. 2545 เขาแต่งตั้งให้ซาร์โกซีเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในคณะรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีฌอง-ปีแอร์ ราฟฟาแรงโดยไม่คำนึงถึงความขัดแย้งของทั้งสอง[22] จากคำปราศรัยของชีรัคในด้านความปลอดภัยบนท้องถนนเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคมนั้น ซาร์โกซีในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ผลักดันให้มีการจัดซื้อกล้องวงจรปิดและรณรงค์เพื่อให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนน้อยลง

ซาร์โกซีในการประชุมของพรรคในวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2547

ในการปรับคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2547 ซาร์โกซีถูกย้ายไปรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ความตรึงเครียดระหว่างซาร์โกซีและชีรัคได้ดำเนินต่อไปในพรรคสหภาพเพื่อการเคลื่อนไหวของปวงชน (UMP) เมื่อซาร์โกซีมีเป้าหมายที่จดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ภายหลังที่อแลง ฌูป์เปลาออก และยังไม่พอ เขายังต้องการที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งในการเลือกตั้งประธานาธิบดีอีกด้วย หลังจากเขาได้เอ่ยเรื่องนี้ขึ้นในสถานีโทรทัศน์ช่อง 2 ของประเทศฝรั่งเศสและถูกถามว่าเขาคิดเรื่องการเลือกตั้งประธานาธิบดีตอนโกนหนวดเมื่อเช้านี้หรือไม่ เขากล่าวว่า "ไม่ใช่แค่ตอนโกนหนวด"[23]

ในการเลือกตั้งภายในพรรคเมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2547 ซาร์โกซีได้กลายเป็นหัวหน้าพรรคสหภาพเพื่อการเคลื่อนไหวของปวงชน (UMP) ด้วยคะแนนกว่า 85% ของทั้งหมด ซึ่งเขาได้ปรึกษาชีรัคและมีความคิดตรงกันว่า เขาควรลาออกจากการเป็นรัฐมนตรี ซึ่งเขาได้ลาออกเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2547 ภายในพรรคได้ถูกแบ่งออกเป็นสองกลุ่มได้แก่ ซาร์โกไซต์ (Sarkozystes) เช่นมือขวาของเขา บรีซ ออร์ตเฟอซ์ และผู้จงรักภักดีของชีรัค เช่น ฌอง-หลุยส์ เดอเบร เป็นต้น

ซาร์โกซีได้รับเครื่องรัฐอิสริยาภรณ์โดยเป็น Chevalier de la Legion d'honneur โดยประธานาธิบดีฌาคส์ ชีรัคในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548 เขาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2548 (หลังจากรัฐธรรมนูญบังคับให้ออกจากการเป็นสมาชิกภาพเมื่อดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรี)

เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2548 สถานีวิทยุฟรองซ์ แองโฟ (France Info) สถานีวิทยุใหญ่ของประเทศฝรั่งเศสได้รายงานข่าวลือว่าจะมีการแต่งตั้งซาร์โกซีเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยอีกครั้งหนึ่งในคณะรัฐมนตรีของโดมินิก เดอ วิลล์แป็ง โดยไม่มีการลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคสหภาพเพื่อการเคลื่อนไหวของปวงชน (UMP) ซึ่งก็เป็นความจริงเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2548 หลังมีประกาศสมาชิกคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการในวันเดียวกัน

[แก้] รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยสมัยแรก

ตลอดระยะเวลาการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของซาร์โกซีนั้น เขาถูกมองทั้งในด้านบวกและลบหลังการสำรวจในต้นปี พ.ศ. 2547 นโยบายการควบคุมและปราบปรามอาชญากรรมอย่างเข้มงวดของเขา ซึ่งเป็นผลให้มีจำนวนตำรวจบนท้องถนนมากขึ้นกว่าเดิมและจำนวนคดีอาชญากรรมลดลง ทั้งนี้มีทั้งผู้เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยจำนวนมากมาย

บางครั้งซาร์โกซียังช่วยบรรเทาความขัดแย้งระหว่างชาวฝรั่งเศสทั่วไปกับชุมชนมุสลิมในประเทศฝรั่งเศส คริสต์ศาสนานิกายคาทอลิกและโปรเตสแตนท์ต่างมีโครงสร้างทางการปกครอง แต่ว่าชุมชมมุสลิมไม่มีโครงสร้างดังกล่าว ซึ่งทำให้เกิดปัญหากับรัฐบาลอยู่เป็นประจำ ซึ่งซาร์โกซีรู้สึกว่าพวกเขาต้องการมูลนิธิหรือองค์กร ซาร์โกซีสนับสนุนสภาศรัทธามุสลิมฝรั่งเศส (Conseil Français du Culte Musulman / CFCM) ซึ่งเป็นองค์กรตัวแทนของชาวฝรั่งเศสมุสลิม[24] และซาร์โกซียังเสนอความเห็นในการแก้ไขกฎหมายการแยกศาสนาออกจากรัฐ พ.ศ. 2448 (Loi du 9 décembre 1905 concernant la séparation des Églises et de l'État) เพื่อให้กองทุนในประเทศสามารถลงทุนสร้างมัสยิดได้ ทำให้ไม่ต้องพึ่งเงินทุนจากต่างประเทศในการดำเนินการ

[แก้] รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

ในระยะเวลาสั้นๆ ที่เขาดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เขาได้เสนอและดำเนินนโยบายต่างๆ มากมาย ต่อมาเขาลาออกจากการเป็นรัฐมนตรีหลังจากการเขาถูกเลือกให้เป็นประธานพรรคสหภาพเพื่อการเคลื่อนไหวของปวงชน (UMP)

[แก้] อ้างอิง

  1. ^ Astier, Henri; What now for Nicolas Sarkozy?, BBC News, 16 May 2007
  2. ^ Bennhold, Katrin; Sarkozy pledges quick action on French economy, International Herald Tribune, 7 May 2007.
  3. ^ Anderson, John Ward and Molly Moore; Sarkozy Wins, Vows to Restore Pride in Franc, Washington Post, 7 May 2007.
  4. ^ BBC News Profile: Nicolas Sarkozy
  5. ^ Nicola Sarkozy’s Thessaloniki Roots GreekInsight Newspaper 27 ธันวาคม พ.ศ 2550
  6. ^ Weekly Standard, France girds for the Sarko-Ségo showdown
  7. ^ The tough new president still loves his mum, France’s real first lady - The Guardian - Angelique Chrisafis - May 14, 2007
  8. ^ Sarkozy's Jewish roots Australian JewishNews May 8, 2007
  9. ^ Nick Clarck, Carlyle poaches Olivier Sarkozy, The Independent, 4 March 2008 (อังกฤษ)
  10. ^ see Catherine Nay’s semi-official biography
  11. ^ Un pouvoir nommé désir, Catherine Nay, 2007
  12. ^ Augustin Scalbert, Un soupçon de vantardise sur les CV ministériels, Rue 89, 18 September 2007 (ฝรั่งเศส)
  13. ^ See Catherine Nay’s semi-official biography
  14. ^ Cécilia Sarkozy: The First Lady vanishes
  15. ^ Events company Publicis had organised a large UMP meeting in 2004, nominating Sarkozy as party-head
  16. ^ The Sarkozy saga
  17. ^ French president Sarkozy separation is 'divorce' - official UPDATE
  18. ^ French president, supermodel-singer linked USA Today, 17 Dec. 2007
  19. ^ Paparazzi throng for Sarkozy trip, BBC News, 25 December 2007
  20. ^ Sarkozy: avec Carla, c'est du sérieuxLe Figaro January 9, 2008 (ฝรั่งเศส)
  21. ^ “French Populism”, by Ignacio Ramonet, Le Monde Diplomatique, June 2007 Edition, French version (ฝรั่งเศส), English translation (อังกฤษ)
  22. ^ Sauced Sarkozy Felice E. Baker, The Dartmouth Independent, October 31, 2007
  23. ^ Broadcast of “France 2", 19 November 2003
  24. ^ JO associations, 28 May 2003

[แก้] แหล่งข้อมูล

Commons


[แก้] เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

[แก้] สำนักพิมพ์

[แก้] เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง


สมัยก่อนหน้า นิโกลาส์ ซาร์โกซี สมัยถัดไป
ฌาคส์ ชีรัค 2leftarrow.png Armoiries république française.svg
ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส
(พ.ศ. 2550 —)
2rightarrow.png ยังคงดำรงตำแหน่ง
ฌาคส์ ชีรัค 2leftarrow.png Coat of arms of Andorra.svg
ผู้ปกครองร่วมแห่งอันดอร์รา
ร่วมกับ ฮวน เอ็นริก วิเวส อี ซิซิเลีย

(พ.ศ. 2550 —)
2rightarrow.png ยังคงดำรงตำแหน่ง
โดมินิก เดอ วิลล์แป็ง 2leftarrow.png รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
รัฐบาลโดมินิก เดอ วิลล์แป็ง

(พ.ศ. 2548 - พ.ศ. 2550)
2rightarrow.png ฟรองซัวส์ บารวง
อแลง ฌูป์เป 2leftarrow.png ประธานพรรคอูแอ็มเป (UMP)
(พ.ศ. 2547 - พ.ศ. 2550)
2rightarrow.png ฌอง-ปีแอร์ ราฟฟาแรง
ฌอง-โกลด โกแด็ง
ปีแอร์ เมเอเญอรี
ฟรองซีส แมร์ 2leftarrow.png รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมและการจัดหางาน
รัฐบาลฌอง-ปีแอร์ ราฟฟางแรง 3

(พ.ศ. 2547)
2rightarrow.png แอร์เว เกมาร์ด
ชาร์ลส์ ปาส์กา 2leftarrow.png Blason département fr Hauts-de-Seine.svg
ประธานสภาจังหวัดโอต์-เดอ-แซน
(พ.ศ. 2547 - พ.ศ. 2550)
2rightarrow.png ปาทริค เดอเวดเฌียง
ดานีแอล เวยองต์ 2leftarrow.png รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
รัฐบาลฌอง-ปีแอร์ ราฟฟาแรง 1 และ 2

(พ.ศ. 2545 - พ.ศ. 2547)
2rightarrow.png โดมินิก เดอ วิลล์แป็ง
ฟิลิปป์ เซกูแอ็ง 2leftarrow.png ประธานพรรคแอร์เปแอร์ (RPR)
(ชั่วคราว)

(พ.ศ. 2542)
2rightarrow.png มิแชล อัลลิโอต์-มารี
อแลง การิญง 2leftarrow.png รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการสื่อสาร
รัฐบาลเอดูอาร์ด บัลลาดูร์

(พ.ศ. 2537 - พ.ศ. 2538)
2rightarrow.png กาเตอรีน โทรต์มันน์
หลุยส์ แมร์มาซ 2leftarrow.png โฆษกรัฐบาลเอดูอาร์ด บัลลาดูร์
(พ.ศ. 2536 - พ.ศ. 2538)
2rightarrow.png ฟิลิปป์ ดูสต์-บลาซี
มาร์แต็ง มาลวี 2leftarrow.png รัฐมนตรีว่าการกระทรวงงบประมาณ
รัฐบาลเอดูอาร์ด บัลลาดูร์

(พ.ศ. 2536 - พ.ศ. 2538)
2rightarrow.png ฟรองซัวส์ โดแบร์ต
อะชิลล์ เปอเรตติ 2leftarrow.png Blason ville fr Neuilly-sur-Seine (Hauts-de-Seine).svg
นายกเทศมนตรีเนยยี-ซูร์-แซน
(พ.ศ. 2526 - พ.ศ. 2545)
2rightarrow.png หลุยส์-ชาร์ลส์ บารี