ลอร์ดโวลเดอมอร์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ตัวละครในหนังสือชุดแฮร์รี่ พอตเตอร์
ลอร์ด โวลเดอมอร์
ลอร์ดโวลเดอมอร์หลังฟื้นคืนชีพ
ลอร์ดโวลเดอมอร์
Lord Voldemort
เพศ ชาย
สีผม ดำ (ในตอนเป็นมนุษย์)
สีนัยน์ตา น้ำตาล
ภายหลังเปลี่ยนเป็นสีแดง (ในภาพยนตร์เป็นสีฟ้า)
บ้าน สลิธีริน
เชื้อสาย เลือดผสม
ผู้แสดงในภาพยนตร์ เอียน ฮาร์ต
แฮร์รี่ พอตเตอร์ 1

ริชาร์ด เบรมเมอร์
แฮร์รี่ พอตเตอร์ 1 (ให้เสียง)
เกรียงศักดิ์ เหรียญทอง
แฮร์รี่ พอตเตอร์ 1 (ให้เสียงไทย)
คริสเตียน โคลสัน
แฮร์รี่ พอตเตอร์ 2
ราล์ฟ ไฟนส์
ภาค 4-7
ดิลก ทองวัฒนา
ให้เสียงไทย ภาค 4-7
ฮีโร่ ไฟนส์-ทิฟฟิน
แฮร์รี่ พอตเตอร์ 6 (อายุ 11 ปี)
แฟรงค์ ดิลเลน
แฮร์รี่ พอตเตอร์ 6 (อายุ 16 ปี)

ปรากฎตัวครั้งแรกใน แฮร์รี่ พอตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์

ลอร์ดโวลเดอมอร์ (ฝรั่งเศส: Lord Voldemort; เสียงอ่านอังกฤษ: /ˈvoʊldəmɔrt, ˈvoʊldəmɔr/[1][2]) เป็นตัวละครร้ายในหนังสือชุดแฮร์รี่ พอตเตอร์ ของ เจ. เค. โรว์ลิ่ง ปรากฏตัวครั้งแรกในตอนแฮร์รี่ พอตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์ มีชื่อเดิมว่า ทอม มาโวโล่ ริดเดิ้ล และเป็นผู้สืบสกุลของซัลลาซาร์ สลิธีรินคนสุดท้าย โวลเดอมอร์เป็นตัวละครที่ได้รับการโหวตให้เป็นตัวละครร้ายอันดับหนึ่งทั้งในวรรณกรรมและในภาพยนตร์[3][4]

โวลเดอมอร์เป็นบุคคลที่ผู้คนจำนวนมากในโลกเวทมนตร์หวาดกลัว ถึงขนาดที่ว่าคนจำนวนมากไม่กล้าที่จะเอ่ยชื่อของเขาโดยตรง แต่เลี่ยงไปใช้คำเรียกว่า "คนที่คุณก็รู้ว่าใคร" หรือ "คนที่ไม่ควรเอ่ยนาม" แทน บุคคลที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่าไม่หวาดกลัวในการที่จะเอ่ยชื่อโวลเดอมอร์ได้แก่ อัลบัส ดัมเบิลดอร์ รีมัส ลูปิน ซิเรียส แบล็ก แฮร์รี่ พอตเตอร์ และ เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ ส่วนกลุ่มผู้เสพความตาย ที่เป็นสาวกของโวลเดอมอร์ จะไม่เรียกชื่อออกมา แต่มักจะเรียกเวลากล่าวถึงว่า "จอมมาร" และเรียกโวลเดอมอร์ว่า "นายท่าน"ยกเว้นอิกอร์ คาร์คารอฟ

ในภาษาฝรั่งเศส "Vol de mort" อาจจะมีความหมายได้ทั้ง "ปีกมรณะ" "การบินของความตาย" "การบินจากความตาย" หรือ "การขโมยความตาย" ในการพิมพ์ครั้งต้นๆของฉบับแปลภาษาไทย ผู้แปลได้ถอดชื่อของออกมาเป็น โวลเดอมอร์ต ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นโวลเดอมอร์ตามการออกเสียงของผู้แต่งตามแบบภาษาฝรั่งเศส[ต้องการอ้างอิง]

เนื้อหา

[แก้] การพัฒนาตัวละคร

[แก้] การปรากฏตัว

[แก้] การถือกำเนิด

ทอม มาร์โวโล ริดเดิ้ล เกิดจากมารดาในตระกูลก็อนท์ ครอบครัวทางฝ่ายแม่ของโวลเดอมอร์ ซึ่งมีสมาชิกคือ มาร์โวโล่ มอร์ฟีน และเมโรเพ ผู้เป็นแม่ของโวลเดอมอร์ เมโรเพ ก็อนท์ได้ตกหลุมรักกับ ทอม ริ้ดเดิ้ล ลูกของเศรษฐีประจำหมู่บ้านลิตเติลแฮงเกลตัน เมโรเพหวังที่จะให้ทอมริ้ดเดิ้ลตกหลุมรักตน แต่ริดเดิ้ลไม่ได้รักเมโรเพสักนิด จนกระทั่ง มาร์โวโล่และมอร์ฟีน ก็อนท์ต้องโทษจำคุกอัซคาบันข้อหาทำร้ายมักเกิ้ล เมโรเพจึงได้โอกาสที่จะวางยาเสน่ห์ทอม ริ้ดเดิ้ล และเมื่อในวันหนึ่งที่ทอม ริ้ดเดิ้ลเหน็ดเหนื่อยเนื่องจากขี่ม้ามาไกล เขาจึงได้ดื่มยาเสน่ห์ของเมโรเพ และตกหลุมรักเมโรเพ เมโรเพจึงใช้ยาเสน่ห์ประคองความรักทั้งคู่ไว้ จนเมโรเพตั้งท้อง ในภายหลังเมโรเพหยุดใช้ยาเสน่ห์กับริดเดิล เขาจึงทอดทิ้งเธอไว้ เมโรเพได้ไปคลอดลูกที่โรงเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งหนึ่ง และเสียชีวิตหลังคลอดเป็นเวลาไม่นาน

โวลเดอมอร์อาศัยอยู่ที่โรงเลี้ยงเด็กกำพร้าเป็นเวลานาน เขามีความสามารถมากมาย เขาพูดกับงูได้ เขามีเวทมนตร์ และนิสัยชอบเก็บตัวและชอบสะสมของต่าง ๆ มาก จนวันหนึ่ง อัลบัส ดัมเบิลดอร์มาชวนริดเดิ้ลไปเรียนที่โรงเรียนฮอกวอตส์ และโวลเดอมอร์ตกลงใจที่จะไปศึกษาต่อที่นั่น

[แก้] การศึกษาที่ฮอกวอตส์

ริดเดิลเข้าเรียนที่โรงเรียนฮอกวอตส์ด้วยวัย 11 ปีและได้รับการคัดสรรให้ไปอยู่บ้านสลิธิลีน เขาเป็นเด็กที่ชาญฉลาด เก่งกาจ เป็นพรีเฟ็ต ประธานนักเรียน และยังเป็นเด็กที่เก่งที่สุดในโรงเรียน แต่ในระหว่างที่ริดเดิลเข้าศึกษาอยู่ในฮอกวอตส์นั้น ได้เกิดเหตุร้ายกาจขึ้นมากมาย ซึ่งเหตุการณ์ครั้งที่ร้ายแรงที่สุด คือ การเปิดห้องแห่งความลับ และวันหนึ่ง ในขณะที่เขาศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 6 ที่ฮอกวอตส์ เขาได้ถามเรื่องฮอร์ครักซ์กับศาสตราจารย์ซลักฮอร์น และเป็นการปูทางไปสู่อำนาจมืดในเวลาต่อมา

ในช่วงระหว่างการศึกษาในฮอกวอตส์นี้เองที่เขาได้ฆาตกรรมตระกูลริดเดิ้ล ตระกูลทางฝ่ายพ่อของตนเอง และได้ฮอครักซ์ภายในบ้านของตระกูลก๊อนท์ทางฝ่ายแม่ มอร์ฟีนถูกจับกุมโดยมีหลักฐานผิด ๆ ว่าเขาเป็นผู้สังหารตระกูลริดเดิ้ล และถูกจำขังที่เรือนจำอัซคาบันจนกระทั่งเสียชีวิต

ริ้ดเดิ้ลในตอนถามเรื่องฮอร์ครักซ์กับศาสตราจารย์ซลักฮอร์น

[แก้] สำเร็จการศึกษา อำนาจมืดและการสูญเสียอำนาจครั้งแรก

หลังจากสำเร็จการศึกษาที่ฮอกวอตส์ โวลเดอมอร์ได้ออกค้นหาฮอครักซ์เพิ่มเติม สองปีหลังจากสำเร็จการศึกษา ขณะกำลังทำงานอยู่ที่ร้านเบอร์เจ็นและเบริกซ์ ร้านขายอุปกรณ์ศาสตร์มืดในตรอกน็อกเทรินท์ ซึ่งสร้างความตกใจและความผิดหวังให้กับอาจารย์ที่เคยสอนที่ฮอกวอตส์ทั้งสิ้น และขณะทำงานอยู่ที่นี่เอง โวลเดอมอร์พบฮอครักซ์อีกสองชิ้นจาก เฮปซิบาห์ สมิท และสังหารเธอเสีย ในช่วงนี้ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับโวลเดอมอร์เลย จนกระทั่งอีกหลายปีต่อมา ซึ่งโวลเดอมอร์มาเข้าขอทำงานสอนวิชาการป้องกันตัวจากศาสตร์มืดในโรงเรียนเวทมนตร์ฮอกวอตส์ แต่ก็ถูกปฏิเสธจากดัมเบิลดอร์

หลังจากนั้น โวลเดอมอร์จึงได้เปิดเผยความชั่วร้ายออกมา เขามีจุดประสงค์ที่จะปฏิวัติ สร้างโลกที่ปราศจากมักเกิ้ล และให้ผู้วิเศษสามารถเปิดเผยตัวตนได้อย่างอิสระ โวลเดอมอร์สมัครพรรคพวกรวบรวมทั้งพ่อมด แม่มด และสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในความพยายมเพื่อครอบครองโลกผู้วิเศษ ในขณะเดียวกัน ดัมเบิลดอร์เองก็ได้ตั้งกองทัพพ่อมดต่อต้านโวลเดอมอร์ในนามของ ภาคีนกฟีนิกซ์

จนกระทั่งเกิดคำทำนายเรื่องผู้มีอำนาจที่จะปราบโวลเดอมอร์ เขาหวาดกลัวมากและพยายามที่จะกำจัดคนผู้นั้น โดยตามเนื้อหาของคำทำนายนั้น เขาคาดว่าน่าจะอยู่ระหว่าง แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเนวิลล์ ลองบัตท่อม โวลเดอมอร์เลือกแฮร์รี่ พอตเตอร์ และมาสังหารครอบครัวพอตเตอร์ทั้งหมด แต่โวลเดอมอร์สังหารแฮร์รี่ไม่สำเร็จ และทำให้ร่างกายของโวลเดอมอร์ทนทานไม่ไหวจึงสลายไปในคืนนั้น จนเหลือแต่เพียงวิญญาณ

[แก้] การฟื้นคืนชีพ

หลังจากโวลเดอมอร์สูญเสียอำนาจมืดมาเป็นเวลากว่า 11 ปี โวลเดอมอร์ที่สูญเสียอำนาจ จนร่างกายแทบไม่เหลือจิตวิญญาณถูกเก็บได้และโวลเดอมอร์รวมร่างเป็นส่วนหนึ่งกับควีเรลล์ ระหว่างที่เขาเข้ามาทำงานที่ฮอกวอตส์ โวลเดอมอร์หวังว่าตนจะสามารถคืนร่างกายของตนได้จากการยึดครองศิลาอาถรรพ์ แต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะถูกแฮร์รี่ขัดขวาง ทำให้วิญญาณของโวลเดอมอร์ต้องเร่ร่อนไปอีกครั้งหนึ่ง

หลังจากนั้น 3 ปี แฮร์รี่จับถ้วยไตรภาคีซึ่งเป็นกุญแจนำทางมาโผล่ที่หลุมศพในลิตเติ้ลแฮงเกิลตัน และพบกับโวลเดอมอร์และหางหนอน หางหนอนทำพิธีเพื่อให้โวลเดอมอร์กลับมาอีกครั้งโดยใช้เลือดของแฮรี่ และมือของตัวเองเป็นกษัยยา หลังจากรอดชีวิตกลับมาได้ แฮรีพยายามบอกทุกคนว่า โวลเดอมอร์คืนชีพกลับมาแล้ว แต่กระทรวงไม่เชื่อกลับส่งผู้ตรวจสอบมาที่ฮอกวอร์ต เพื่อสอดส่องการกระทำของดัมเบิ้ลดอ ยกเลิกภาคปฏิบัติของวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืด ทำให้แฮรี่และเพื่อน ๆ จัดตั้งกองทัพดัมเบิลดอร์ต่อฝึกฝนการต่อสู้ เพื่อต่อกรกับโวลเดอมอร์อีกครั้งหนึ่ง

อีกสองปีถัดมา โวลเดอมอร์จึงเริ่มดำเนินการอย่างรุนแรง และเริ่มต้นการก้าวขึ้นสู่อำนาจของตนอีกครั้งหนึ่ง ทำให้ผู้คนพากันหวาดกลัว และมีคนหายตัวไปและยังมีคนถูกฆ่าจากฝีมือของผู้เสพความตาย โวลเดอมอร์วางแผนที่จะโจมตีฮอกวอตส์และสังหารดัมเบิลดอร์ ซึ่งแผนการดังกล่าวดำเนินการโดยเดรโก มัลฟอย ระหว่างการศึกษาในปีที่ 6 ของแฮร์รี่ที่ฮอกวอตส์ แฮร์รี่และดัมเบิลดอร์รู้ถึงเรื่องฮอร์ครักซ์ และพยายามกำจัดทิ้ง แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าเพิ่มเติม และดัมเบิลดอร์ยังหมดอายุไขไปแล้ว

[แก้] บั้นปลายและจุดจบ

และในปีที่แฮร์รี่อายุครบ 17 ปี โวลเดอมอร์ได้ก้าวขึ้นสู่อำนาจอย่างสมบูรณ์ หลังจากที่เขาสามารถยึดครองกระทรวงเวทมนตร์ได้อย่างเด็ดขาด เขาวางแผนจะฆ่าแฮร์รี่เพื่อให้ตนดำรงอยู่ชั่วนิรันดร์ โวลเดอมอร์จึงพยายามค้นหาและครอบครองไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสามของเครื่องรางยมทูต กระนั้นเอง โวลเดอมอร์ก็ไม่เคยรู้ว่าไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์เป็นเครื่องรางยมทูตที่มีพลังอำนาจร้ายกาจ

จนกระทั่งโวลเดอมอร์ทราบว่าพวกแฮร์รี่กำลังทำลายฮอครักซ์ของตน เขาจึงนำกองทัพโจมตีปราสาทฮอกวอตส์เพื่อป้องกันฮอครักซ์สุดท้ายของตน แฮร์รี่ตามไปในป่าต้องห้ามเพื่อไปสู้กับโวลเดอมอร์และถูกยิงด้วยคำสาปพิฆาต แต่ที่คำสาปนั้นได้เป็นการทำลายฮอกครักซ์อีกอันหนึ่งด้วย ซึ่งก็คือ ตัวแฮร์รี่เอง แฮร์รี่ได้สติมาและต่อสู้กับโวลเดอมอร์และนากินีถูกทำลายลงด้วยฝีมือของเนวิลล์ ลองบัตทอม ด้วยการฟาดฟันโดยดาบกริฟฟินดอร์ การต่อสู้ย้ายเข้าไปในห้องโถงกลางของปราสาท โวลเดอมอร์ยิงคำสาปพิฆาตใส่แฮร์รี่ แต่ด้วยอำนาจของไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์ ซึ่งแฮร์รี่เป็นเจ้าของเนื่องจากสามารถชนะเดรโกมัลฟอยซึ่งได้ปลดไม้ของดัมเบิลดอร์ คำสาปพิฆาตจึงสะท้อนกลับมายังตัวของโวลเดอมอร์ และถูกสังหารอย่างถาวรจากคำสาปของตัวเอง

[แก้] ลักษณะประจำตัว

[แก้] ในวัฒนธรรมอื่น

[แก้] อ้างอิง

  1. ^ Harry Potter: Pronunciation Guide. Scholastic. เรียกข้อมูลเมื่อวันที่ 2007-08-22
  2. ^ Enchanted with Potter Literature: Fans line up for hours to get their books signed. The Orange County Register, Santa Ana, CA (1999-10-26). เรียกข้อมูลเมื่อวันที่ 2006-12-28
  3. ^ Lord Voldemort Is Favourite Literary Villain. LifeStyleExtra. เรียกข้อมูลเมื่อวันที่ 2008-01-21
  4. ^ Lord Voldemort Number One Movie Villain According to Moviefone


เครื่องมือส่วนตัว
สิ่งที่แตกต่าง
การกระทำ
ป้ายบอกทาง
มีส่วนร่วม
พิมพ์/ส่งออก
เครื่องมือ
ภาษาอื่น