สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น
Thai-Nichi Institute of technology
TNIlogo.gif
คติพจน์ สร้างนักคิด ผลิตนักปฏิบัติ
สร้างนักประดิษฐ์ ผลิตนักบริหาร
สถาปนา 29 กันยายน พ.ศ. 2549
ประเภท สถาบันอุดมศึกษาเอกชน
ที่ตั้ง 1771/1 ซ.พัฒนาการ37 ถนนพัฒนาการ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ 10250
เว็บไซต์ www.tni.ac.th

สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น (ส.ท.ญ.) เป็นสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ก่อตั้งโดย สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) เมื่อปี พ.ศ. 2549[1] ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการจัดอบรมสัมมนาด้านเทคโนโลยีและการจัดการ การให้บริการสอบเทียบเครื่องมือวัดทางอุตสาหกรรม และวิเคราะห์สิ่งแวดล้อม การจัดสอนภาษาต่างประเทศ การจัดพิมพ์หนังสือและวารสารทางด้านเทคโนโลยีและการจัดการใหม่ๆ และให้คำปรึกษาแก่สถานประกอบการในภาคอุตสาหกรรม

เนื้อหา

[แก้] ประวัติ

สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) หรือ ส.ส.ท.เป็นสถาบันที่ก่อตั้งขึ้นโดยความร่วมมือร่วมใจ และความเสียสละของกลุ่มบุคคลที่เคยไปศึกษาและฝึกงานในประเทศญี่ปุ่น โดยมี ฯพณฯ สมหมาย ฮุนตระกูล เป็นประธานคณะกรรมการก่อตั้ง และได้รับความช่วยเหลือเป็นอย่างดีจาก อาจารย์โงอิจิ โฮซุมิ อดีตประธานคณะกรรมการสมาคมความร่วมมือทางเศรษฐกิจญี่ปุ่น-ไทย ส.ส.ท.ได้รับการสนับสนุนด้านการดำเนินกิจกรรมจากกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและ อุตสาหกรรม (METI) ประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

ส.ส.ท.ก่อตั้งอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2516 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีใหม่ๆ แก่บุคลากรไทย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาการดำเนินงานของส.ส.ท.มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และสร้างชื่อเสียงในหลายด้าน อาทิเช่น การจัดอบรมสัมมนาด้านเทคโนโลยีและการจัดการ การจัดสอนภาษาต่างประเทศ คือ ภาษาญี่ปุ่น ภาษาอังกฤษ และภาษาจีน การให้บริการสอบเทียบเครื่องมือวัดทางอุตสาหกรรมและวิเคราะห์สิ่งแวดล้อม การจัดพิมพ์หนังสือและวารสารทางด้านเทคโนโลยีและการจัดการใหม่ๆ และให้คำปรึกษาแก่สถานประกอบการในภาคอุตสาหกรรมมากมาย จากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในด้านการฝึกอบรมวิชาการสาขาต่างๆ ให้กับสถานประกอบการในภาคอุตสาหกรรม ประกอบกับการเป็นศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขา จึงทำให้ ส.ส.ท.มีดำริที่จะจัดตั้งสถาบันอุดมศึกษาที่สร้างบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีเฉพาะทางขึ้น เพื่อป้อนบุคลากรให้แก่สถานประกอบการภาคอุตสาหกรรมของไทย และในปี พ.ศ. 2548 ส.ส.ท.จึงได้ดำเนินโครงการจัดตั้งสถาบันอุดมศึกษาขึ้นในนาม “สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น” โดยใช้คำย่อว่า ส.ท.ญ. หรือในชื่อภาษาอังกฤษว่า “Thai-Nichi Institute of Technology” โดยใช้คำย่อว่า “TNI” แล้วเสร็จพร้อมเปิดรับนักศึกษาในปี พ.ศ. 2550

[แก้] สัญลักษณ์และสีประจำสถาบันฯ

ตราสัญลักษณ์ TNI

[แก้] ความหมายของเครื่องหมาย

ฟันเฟือง หมายถึง การพัฒนาที่ต่อเนื่อง ไม่หยุดนิ่ง ซึ่งแสดงว่าเป็นคุณลักษณะของสถาบันฯ ที่เป็นสถาบันการศึกษาด้านเทคโนโลยีที่จะต้องมีความทันสมัย และพัฒนาตนเองให้ทันเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปอยู่ตลอดเวลา เพื่อสามารถผลิตบุคลากรได้ตรงกับความต้องการตามกาลเวลาที่เปลี่ยนแปลงไป

สัญลักษณ์ตัวอักษร A ที่มีรูปทรงคล้ายหน้าจั่วทรงไทย หมายถึง การเป็นสถาบันฯ แห่งภูมิภาคเอเชียที่คงเอกลักษณ์ความเป็นไทย ส่วนปลายยอดทะลุฟันเฟืองออกไป แสดงถึงองค์ความรู้และปัญญาที่ไม่มีกรอบ ไม่มีพรมแดน ซึ่งแทนความเป็นสถานศึกษาด้านเทคโนโลยี และนวัตกรรมที่มีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ที่ไร้พรมแดน

[แก้] สีประจำสถาบันฯ

สีน้ำเงิน เป็นสีประจำ สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) ซึ่งเป็นองค์การผู้ก่อตั้งและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์นอกจากนี้สีน้ำเงินยังหมายถึง สติปัญญา ความกว้างไกล ความสูงส่งและมีเกียรติ ซึ่งสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของผู้ก่อตั้งที่ต้องการให้สถาบันฯ แห่งนี้ เป็นสถานศึกษาที่ส่งเสริมการศึกษาของบุคลากรของไทยให้มีวิสัยทัศน์ ความรู้และสติปัญญาที่กว้างไกล สามารถนำความรู้ไปปฏิบัติได้ด้วยความภาคภูมิ ด้วยเกียรติและศักดิ์ศรี

สีแดง เป็นสีของพระอาทิตย์และทิศตะวันออก ซึ่งบ่งบอกความเป็นสถาบันฯ ที่มุ่งสั่งสมและถ่ายทอดความรู้ แนวคิด ปรัชญา และเทคโนโลยีตะวันออก โดยเฉพาะจากญี่ปุ่น นอกจากนี้สีแดง ยังเป็นสีแห่งความเจริญรุ่งเรือง ความสำเร็จ และคุณธรรม ซึ่งถือเป็นเจตนารมณ์ของผู้ก่อตั้งที่ต้องการให้บัณฑิตที่จบจากสถาบันฯ เป็นบุคลากรที่มีคุณธรรม มีความสำเร็จ สามารถสร้างความเจริญรุ่งเรืองแก่ตนเอง องค์การ และประเทศชาติ

[แก้] หลักสูตรที่เปิดสอน

[แก้] คณะวิศวกรรมศาสตร์ (Faculty of Engineering)

  • หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต (Bachelor of Engineering)

- สาขาวิศวกรรมยานยนต์ (Automotive Engineering)

- สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ (Computer Engineering)

- สาขาวิศวกรรมการผลิต (Production Engineering)

- สาขาวิศวกรรมอุตสาหการ (Industrial Engineering)

- สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า (Electrical Engineering)

  • หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (Master of Engineering)

- สาขาเทคโนโลยีวิศวกรรม (Engineering Technology)

[แก้] คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ (Faculty of Information Technology)

  • หลักสูตรวิทยาศาสตร์บัณฑิต (Bachelor of Science)

- สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology)

- สาขาเทคโนโลยีมัลติมีเดีย (Multimedia Technology)

- สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศทางธุรกิจ (Business Information Technology)

  • หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (Master of Science)

- สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology)

[แก้] คณะบริหารธุรกิจ (Faculty of Business Administration)

  • หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต (Bachelor of Business)

- สาขาบริหารธุรกิจอุตสาหกรรม (Industrial Management)

- สาขาบริหารธุรกิจญี่ปุ่น (Business Japanese)

- สาขาการจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ (International Business Management)

  • หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต (Master of Business)

- สาขาการจัดการอุตสาหกรรม (Industrial Management)

- สาขาการจัดการวิสาหกิจสำหรับผู้บริหาร (Executive Enterprise Management)

[แก้] เกียรติยศ

  • พ.ศ. 2550

- ทีมนักศึกษาระดับปริญญาตรีปี 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์เข้ารอบระดับประเทศ ในการแข่งขันรถยนต์ประหยัดน้ำมัน (Honda Econo) เป็นลำดับที่ 20 ของภาค เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2550

- นักศึกษาปริญญาโทคณะบริหารธุรกิจได้รับรางวัลชนะเลิศ ในการประกวดแผนธุรกิจใหม่แห่งชาติ ครั้งที่ 3 (MOOT BIZ 2007) เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2550

  • พ.ศ. 2551

- ทีมนักศึกษาระดับปริญญาตรีปี 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์แข่งขันรถยนต์ประหยัดน้ำมัน (Honda Econo) เป็นลำดับที่17ของระดับอุดมศึกษาในประเภทการจ่ายน้ำมันทุกระบบ และลำดับ6ของเครื่องยนต์ระบบหัวฉีดด้วยสถิติใช้น้ำมัน 393 กิโลเมตร/ลิตร เมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2551

- นายสุรพงษ์ การะเกด นักศึกษาคณะเทคโนโลยีสารสนเทศปี 2 ได้รับรางวัลชนะเลิศในการแข่งขันออกแบบและสร้างหุ่นยนต์แห่งประเทศไทย (Robot Design Contest 2008) และได้เป็นตัวแทนของประเทศไทยไปเข้าร่วมการแข่งขัน ระดับนานาชาติในงาน International Design Contest RoBoCon 2008 หรือ IDC RoboCon 2008 ที่ประเทศบราซิล เมื่อเดือนพฤษภาคม 2551

  • พ.ศ. 2553

- ทีมนักศึกษาระดับปริญญาตรี ทำผลงานในการแข่งขัน Student Formula เป็นอันดับที่ 1 ของประเทศไทย เป็นอันดับที่ 90 ของโลกจากการจัดอันดับล่าสุด เมื่อเดือนธันวาคม 2553

- ทีมนักศึกษาระดับปริญญาตรี ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 จากการแข่งขัน TSAE Auto Challenge 2010 -11 Student Formula และรางวัลชนะเลิศในประเภท Endurance

- นักศึกษาระดับปริญญาตรี ได้รับรางวัลชนะเลิศ และรองชนะเลิศการประกวด Thailand EcoDesign Award 2010 ภายใต้แนวคิด "ลดโลกร้อนด้วยการออกแบบผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม"

- ทีมนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ในการแข่งขัน TPA PLC Robo Girl Dunker Competition 2010 พร้อมเงินรางวัล 10,000 บาท เหรียญรางวัล และโล่เกียรติยศ

  • พ.ศ. 2554

- ทีม Sazan นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ได้รับรางวัลชนะเลิศ ในการแข่งขัน TPA Robo's Hoop Takraw Competition 2011 พร้อมเงินรางวัล 50,000 บาท เหรียญรางวัล และโล่เกียรติยศ

- ทีมชมพูพันทิพย์ นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ในการแข่งขันหุ่นยนต์ ABU TPA Robot Contest 2011 พร้อมเงินรางวัล 10,000 บาท เหรียญรางวัล และโล่เกียรติยศ

[แก้] ข้อมูลอื่นๆ

  • ลักษณะเด่นของสถาบัน

- ผลิตนักศึกษาที่มีความเชี่ยวชาญทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติตามแนวคิด (ものづくり monozukuri) ทำให้นักศึกษามีความรู้ความสามารถตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน

- ฝึกงานจริงในสถานประกอบการ จบแล้วมีโอกาสได้งานทำทันที นักศึกษามีโอกาสได้เลือกฝึกงานในสถานประกอบการในส่วนที่ตนเองถนัด และสนใจเป็นเวลา 1 ภาคเรียน ทำให้มีประสบการณ์ในการทำงาน และมีโอกาสที่จะได้รับการว่าจ้างงานต่อในบริษัทนั้นๆเมื่อเรียนจบ

- เน้นภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษ การสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญในการสื่อสารกับชาวต่างประเทศ และทางสถาบันได้มีการมุ่งเน้นไปที่บริษัทญี่ปุ่น จึงมีการเรียนภาษาญี่ปุ่นเป็นวิชาบังคับอีกหนึ่งภาษา นอกเหนือจากภาษาอังกฤษ

- มีโครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษากับมหาวิทยาลัยในประเทศญี่ปุ่น ทางสถาบันได้มีการทำสัญญาร่วมมือทางการศึกษา (MOU) กับมหาวิทยาลัยในประเทศญี่ปุ่น นักศึกษาจะมีโอกาสไปศึกษาต่อยังประเทศญี่ปุ่น

- มีทุนการศึกษาสนับสนุนจากองค์กรและบริษัทต่างๆ สถาบันได้รับการสนับสนุนทางด้านอุปกรณ์ สถานที่ฝึกงาน และเงินทุนจากองค์กรและบริษัทต่างๆ โดยเฉพาะบริษัทญี่ปุ่น มากกว่า200องค์กร

[แก้] อ้างอิง