ประเทศคาซัคสถาน
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
คาซัค: Қазақстан Республикасы Qazaqstan Respublïkası คาซัคสตาน เรสปูบลีคาซืย รัสเซีย: Республика Казахстан Respublika Kazakhstan ริสปูบลีคา คาซัคสตาน สาธารณรัฐคาซัคสถาน
|
||||||
---|---|---|---|---|---|---|
|
||||||
คำขวัญ: ไม่มี | ||||||
เพลงชาติ: My Kazakhstan |
||||||
เมืองหลวง | อัสตานา 51°10′N 71°30′E / 51.167°N 71.5°E |
|||||
เมืองใหญ่สุด | อัลมาตี | |||||
ภาษาทางการ | ภาษาคาซัคและภาษารัสเซีย | |||||
รัฐบาล | สาธารณรัฐ | |||||
ประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี |
นูร์ซุลตัน นาซาร์บาเยฟ ดานียัล อัคเมตอฟ |
|||||
ได้รับเอกราช | ||||||
ประกาศเอกราช อดีต |
จากสหภาพโซเวียต 16 ธันวาคม พ.ศ. 2534 สาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตคาซัค |
|||||
เนื้อที่ | ||||||
- | ทั้งหมด | 2,717,300 กม.² (ลำดับที่ 9) | ||||
- | พื้นน้ำ (%) | 1.7% | ||||
ประชากร | ||||||
- | 2548 ประมาณ | 15,185,844 (อันดับที่ 61) | ||||
- | ความหนาแน่น | 5.6/กม.² (อันดับที่ 182) | ||||
GDP (PPP) | 2005 ประมาณ | |||||
- | รวม | 132.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (อันดับที่ 56) | ||||
- | ต่อประชากร | 8,700 ดอลลาร์สหรัฐ (อันดับที่ 92) | ||||
HDI (2546) | 0.761 (กลาง) (อันดับที่ 80) | |||||
สกุลเงิน | เต็งเก (KZT ) |
|||||
เขตเวลา | (UTC+5 to +6) | |||||
- | ฤดูร้อน (DST) | (UTC+5 to +6) | ||||
รหัสอินเทอร์เน็ต | .kz | |||||
รหัสโทรศัพท์ | +7 |
คาซัคสถาน (อังกฤษ: Kazakhstan; คาซัค: Қазақстан, Qazaqstan [qɑzɑqˈstɑn]; รัสเซีย: Казахстан, Kazakhstán [kɐzəxˈstɐn]) มีชื่อทางการว่า สาธารณรัฐคาซัคสถาน (อังกฤษ: Republic of Kazakhstan) เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล มีพื้นที่ครอบคลุมกว้างขวางในทวีปเอเชีย และเป็นสาธารณรัฐในอดีตสหภาพโซเวียต มีพรมแดนติดกับประเทศรัสเซีย สาธารณรัฐประชาชนจีน และประเทศในเอเชียกลาง ได้แก่ คีร์กีซถาน อุซเบกิสถาน และเติร์กเมนิสถาน และมีชายฝั่งบนทะเลแคสเปียน คาซัคสถานเคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต
คาซัคสถานเป็นประเทศที่มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 9 ของโลก อย่างไรก็ดี มีพื้นที่กึ่งทะเลทราย (steppe) อยู่มาก จึงมีประชากรเป็นอันดับที่ 57 มีประมาณ 6 คน/ตร.กม.
เนื้อหา |
[แก้] ประวัติศาสตร์
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยวิกิพีเดียไทยได้โดยการเพิ่มเติมข้อมูลในส่วนนี้ |
[แก้] การเมือง
ประเทศคาซัคสถานแบ่งออกเป็น 14 จังหวัด (provinces - oblystar) และ 3 เทศบาลนคร (cities - qalalar) ทุกจังหวัดมีผู้ว่าราชการจังหวัด (Akim) ที่แต่งตั้งโดยประธานาธิบดี ส่วนอะคิมของเทศบาลได้รับการแต่งตั้งจากอะคิมของแคว้น (oblasts) รัฐบาลคาซัคสถานย้ายเมืองหลวงจากอัลมาตีไปอัสตานา เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2541
หมายเลข | รหัสภูมิศาสตร์ | เขตการปกครอง | เมืองหลวง | เนื้อที่ (ตร.กม.) |
จำนวนประชากร |
---|---|---|---|---|---|
1 | KZ-ALM | จังหวัดอัลมาตี (Almaty) | ตัลดีคอร์กัน (Taldykorgan) | 224,000 | 860,000 |
2 | นครอัลมาตี (Almaty) | ||||
3 | KZ-AKM | จังหวัดอัคโมลา (Aqmola) | คอคเชตาอู (Kokshetau) | 121,400 | 829,000 |
4 | KZ-AKT | จังหวัดอัคเตอเบ (Aqtöbe) | อัคเตอเบ (Aqtöbe) | 300,600 | 661,000 |
5 | กรุงอัสตานา (Astana) | ||||
6 | KZ-ATY | จังหวัดอะตีราอู (Atyrau) | อะตีราอู (Atyraū) | 118,600 | 380,000 |
7 | นครไบโคนูร์ (Baikonur) | ||||
8 | KZ-VOS | จังหวัดอีสต์คาซัคสถาน (East Kazakhstan) |
เอิสเคเมน (Öskemen) | 283,300 | 897,000 |
9 | KZ-MAN | จังหวัดมังกืย์สตาอู (Mangghystau) | อัคตาอู (Aqtau) | 165,600 | 316,847 |
10 | KZ-SEV | จังหวัดนอร์ทคาซัคสถาน (North Kazakhstan) |
เปโตรปัฟล์ (Petropavl) | 123,200 | 586,000 |
11 | KZ-PAV | จังหวัดปัฟโลดาร์ (Pavlodar) | ปัฟโลดาร์ (Pavlodar) | 124,800 | 851,000 |
12 | KZ-KAR | จังหวัดคารากันดี (Qaraghandy) |
คารากันดี (Qaraghandy) | 428,000 | 1,287,000 |
13 | KZ-KUS | จังหวัดคอสตาไน (Qostanay) | คอสตาไน (Qostanay) | 196,000 | 975,000 |
14 | KZ-KZY | จังหวัดคืยซิลออร์ดา (Qyzylorda) | คืยซิลออร์ดา (Qyzylorda) | 226,000 | 590,000 |
18 | KZ-YUZ | จังหวัดเซาท์คาซัคสถาน (South Kazakhstan) |
ชิมเคนต์ (Shymkent) | 118,600 | 1,644,000 |
16 | KZ-ZAP | จังหวัดเวสต์คาซัคสถาน (West Kazakhstan) |
โอรัล (Oral) | 151,300 | 599,000 |
17 | KZ-ZHA | จังหวัดจัมบิล (Zhambyl) | ตารัซ (Taraz) | 144,000 | 962,000 |
ในปี พ.ศ. 2538 รัฐบาลคาซัคสถานและรัสเซียได้ทำข้อตกลงให้รัสเซียเช่าพื้นที่ 6,000 ตร.กม. ล้อมรอบฐานปล่อยจรวดที่ไบกอนกีร์ (หรือไบโคนูร์) และเมืองไบโคนูร์ (เดิม เลนินสค์) เป็นเวลา 20 ปี
[แก้] ภูมิศาสตร์
ด้วยพื้นที่ 2.7 ล้านตารางกิโลเมตร (1.56 ล้านตารางไมล์) คาซัคสถานจึงเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 9 ของโลก โดยมีขนาดพอ ๆ กับภูมิภาคยุโรปตะวันตก
เมืองใหญ่ของประเทศได้แก่ อัสตานา (เป็นเมืองหลวงตั้งแต่มิถุนายน พ.ศ. 2541) อัลมาตี (อดีตเมืองหลวง เคยเป็นที่รู้จักกันในชื่อ อัลมา-อะตา (Alma-Ata) และก่อน พ.ศ. 2460 (1917) ในชื่อเวียร์นืย) การากันดี ชิมเคนต์ เซเมย์ (เซมีปาลาตินสค์) และตูร์เคสถาน เคยเป็นที่รู้จักในชื่อ ยาซี
ลักษณะภูมิประเทศแผ่ขยายจากตะวันออกจดตะวันตก ตั้งแต่ทะเลสาบแคสเปียนจนถึงแอ่งทาริม (ซินเจียง) และเทือกเขาอัลไต และจากเหนือจดใต้ ตั้งแต่ที่ราบไซบีเรียตะวันตกจนถึงโอเอซิสและทะเลทรายของภูมิภาคเอเชียกลาง
ลักษณะภูมิอากาศเป็นแบบภาคพื้นทวีป มีฤดูหนาวที่หนาวเย็นและฤดูร้อนแห้งแล้งและกึ่งแห้งแล้ง
ความยาวของพรมแดน: รัสเซีย 6,846 กิโลเมตร, อุซเบกิสถาน 2,203 กิโลเมตร, จีน 1,533 กิโลเมตร, คีร์กีซสถาน 1,051 กิโลเมตร และเติร์กเมนิสถาน 379 กิโลเมตร
- แม่น้ำและทะเลสาบสำคัญได้แก่
[แก้] เศรษฐกิจ
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยวิกิพีเดียไทยได้โดยการเพิ่มเติมข้อมูลในส่วนนี้ |
[แก้] โครงสร้างทางเศรษฐกิจ
คาซัคสถานเป็นประเทศที่มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับสองในกลุ่มประเทศอดีตสหภาพโซเวียต มีทรัพยากรที่สำคัญเป็นจำนวนมาก เช่น น้ำมันดิบ แร่ธาตุ ตลอดจนยังมีขีดความสามารถทางการเกษตรอันเนื่องมาจากพื้นที่สำหรับเพาะปลูกและทำปศุสัตว์ที่กว้างขวาง
ก่อนปี พ.ศ. 2533 ระบบเศรษฐกิจคาซัคสถานเป็นส่วนหนึ่งของระบบการแบ่งการผลิตของสหภาพโซเวียต โดยถูกกำหนดให้มีความชำนาญด้านเกษตรกรรม ตามโครงการดินแดนบริสุทธิ์ฮรุชชอฟ (Khrushchev Virgin Lands) ส่วนอุตสาหกรรมหลักขึ้นอยู่กับการขุดเจาะน้ำมันและการทำเหมืองแร่ การผสมโลหะ และการสกัดแร่ธาตุ ตลอดจนการผลิตเครื่องจักรขนาดใหญ่ เช่น เครื่องมือก่อสร้าง รถแทรกเตอร์ และเครื่องมือเครื่องใช้ในการเกษตร
ภายหลังการสลายตัวของสหภาพโซเวียต ความต้องการสินค้าเครื่องจักรกลหนักซึ่งเป็นสินค้าหลักของคาซัคสถานได้ลดลง ส่งผลให้สภาพเศรษฐกิจตกต่ำอย่างมากระหว่างปี พ.ศ. 2534-2537 อัตราเงินเฟ้อสูงและมูลค่า Real GDP ลดลงมากกว่าร้อยละ 5 ระหว่างปี พ.ศ. 2538-2540 รัฐบาลคาซัคสถานได้ปฏิรูประบบเศรษฐกิจและแปรรูปรัฐวิสาหกิจอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ทรัพย์สินส่วนใหญ่ตกสู่ภาคเอกชน อัตราการเจริญเติบโตของประเทศเริ่มฟื้นตัวขึ้น
ในปี พ.ศ. 2539 คาซัคสถานได้เข้าร่วมเป็นภาคีความร่วมมือก่อสร้างท่อส่งน้ำมันในทะเลแคสเปียน ซึ่งส่งผลให้สามารถส่งออกน้ำมันได้มากขึ้น
ในปี พ.ศ. 2541 สภาวะการตกต่ำของราคาน้ำมันในตลาดโลกได้ส่งผลให้เศรษฐกิจของคาซัคสถานตกต่ำลงชั่วขณะ แต่หลังจากปี พ.ศ. 2542 ราคาน้ำมันได้ถีบตัวสูงขึ้น ประกอบกับการลดค่าเงินที่ถูกจังหวะและการเกษตรที่ได้ผลดี ทำให้ภาวะเศรษฐกิจคาซัคสถานเจริญเติบโต
[แก้] ภาคเกษตรกรรม
เกษตรกรรมเป็นภาคอุตสาหกรรมที่มีการจ้างงานมากที่สุด คิดเป็นหนึ่งในสามของการส่งออก หรือ ร้อยละ 20-25 ของแรงงานภาคอุตสาหกรรม ผลผลิตหลักได้แก่ เมล็ดพันธุ์พืช
แต่การเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ไม่แน่นอนและการปฏิรูประบบเศรษฐกิจอย่างลุ่ม ๆ ดอน ๆ ทำให้การเก็บเกี่ยวเมล็ดพันธุ์พืชที่เคยสูงสุดในปี พ.ศ. 2535 กลับตกต่ำที่สุดในปี พ.ศ. 2538 และการผลิตภาคการเกษตรซึ่งเคยมีส่วนแบ่งรายได้ประชาชาติร้อยละ 23 ในปี พ.ศ. 2532 กลับลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 8.6 ในปี พ.ศ. 2543 ส่วนภาคการบริการที่ถูกละเลยภายใต้ระบอบคอมมิวนิสต์ กลับมีการขยายตัวขึ้นอย่างเห็นได้ชัดนับแต่ได้รับเอกราช
ส่วนด้านการค้า ที่อยู่อาศัย และการคมนาคม ก็มีการขยายตัวอย่างรวดเร็วเช่นกัน สำหรับการลงทุนนั้นมีมูลค่าร้อยละ 19 ของ GDP โดยหนึ่งในสี่ของการลงทุนนั้น มาจากบริษัทต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมน้ำมันและโลหะ
[แก้] การครอบครองกรรมสิทธิ์ที่ดิน
การโอนธุรกิจที่ดินให้เป็นของภาคเอกชนดำเนินไปอย่างช้า ๆ และรัฐบาลอนุญาตให้ชาวคาซัคเท่านั้นเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินเกษตรกรรมได้ ในกรณีที่ชาวต่างชาติและประชาชนทั่วไปต้องการครอบครองกรรมสิทธิ์ที่ดินอื่น ๆ จะต้องมีบ้านหรือทรัพย์สินอยู่บนที่ดินผืนนั้น ส่วนที่ดินนอกเหนือจากนั้นถูกครอบครองโดยภาครัฐ
[แก้] การปฏิรูปเศรษฐกิจ
ประธานาธิบดีนาซาร์บาเยฟได้นำความล้มเหลวและข้อผิดพลาดของการปฏิรูปเศรษฐกิจในยุโรปตะวันออกมาเป็นพื้นฐานในการกำหนดนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะข้อผิดพลาดเกี่ยวกับการเร่งสร้างระบบเศรษฐกิจแบบตะวันตก ด้วยการปฏิเสธบทบาทของรัฐในระบบเศรษฐกิจและนำกลไกตลาดมาใช้ทันทีโดยมิได้มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้สามารถรองรับการพัฒนาของระบบอย่างสอดคล้องกันเสียก่อน ด้วยเหตุนี้ คาซัคสถานจึงให้ความสำคัญกับการดำเนินบทบาทของรัฐในการควบคุม การผลิต การหมุนเวียนเงินทุน และการดำเนินความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับต่างประเทศต่อไป พร้อมทั้งผสมผสานกลไกของรัฐและกลไกตลาดเข้าด้วยกัน
สภาพเศรษฐกิจของคาซัคสถานกำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาไปสู่ระบบการตลาดแบบเสรี ในปี พ.ศ. 2539 คาซัคสถานเริ่มฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและมีเสถียรภาพทางการเงินมากขึ้น สังเกตได้จากอัตราเงินเฟ้อของราคาผู้บริโภคลดลงเหลือเพียงร้อยละ 39.1 ในปี พ.ศ. 2539 เมื่อเทียบกับปี พ.ศ. 2538 ที่มีอัตราร้อยละ 175 และปี พ.ศ. 2537 ที่มีอัตราถึงร้อยละ 1,900 ส่วนอัตราการว่างงานนั้นอยู่ในระดับที่ต่ำ
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ทางเศรษฐกิจก็ยังมีความเปราะบางอยู่ โดยเฉพาะในส่วนของอุตสาหกรรมผลิตเหล็กและเหมืองแร่ยังตกต่ำอยู่ เพราะขาดแคลนเงินทุนและปัจจัยในการผลิต ทำให้มีส่วนเกินของแรงงานและประสิทธิภาพ ส่วนทางภาคเกษตรกรรมนั้น ผลผลิตก็ยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าที่คาดหมายกันไว้ การลงทุนขุดเจาะน้ำมันที่บ่อน้ำมัน Tengiz ของคาซัคสถาน ซึ่งรัฐบาลคาซัคสถานลงทุนร่วมกับบริษัท Chevron ของสหรัฐฯ ได้รับผลกระทบจากการดำเนินนโยบายของรัสเซียที่จะจำกัดการส่งออกน้ำมันของคาซัคสถานผ่านท่อส่งน้ำมันของตน โดยล่าสุด บ่อน้ำมัน Tengiz สามารถส่งออกน้ำมันได้เพียง 880,000 บาร์เรลต่อเดือนเท่านั้น ในขณะที่เป้าหมายการผลิตในปี พ.ศ. 2540 คือ 30,000 บาร์เรลต่อวัน
อย่างไรก็ตาม คาซัคสถาน รัสเซีย ตุรกี อาเซอร์ไบจาน และสหรัฐอเมริกา ก็ได้ร่วมกันหารือเพื่อแก้ไขปัญหาการส่งออกน้ำมันผ่านท่อของประเทศต่าง ๆ ของคาซัคสถานแล้ว เนื่องจากคาซัคสถานมีโครงการสร้างท่อขนส่งน้ำมันและแก๊สผ่านรัสเซีย ไปยังชายฝั่งทะเลดำ โดยได้เริ่มดำเนินการในปี พ.ศ. 2541 และจะสิ้นสุดโครงการภายในสิ้นปี พ.ศ. 2543 แต่เส้นทางที่ท่อส่งน้ำมันและก๊าซผ่านนั้น เป็นประเทศคู่แข่งทางด้านนี้กับคาซัคสถานทั้งสิ้น เช่น อาเซอร์ไบจาน อิหร่าน และรัสเซีย และต้นทุนของการสร้างท่อก็มีราคาแพง ซึ่งในระยะยาวแล้ว คาซัคสถานจะต้องให้ความคุ้มครองแก่เส้นทางของท่อส่งออกน้ำมันและแก๊สทั้งด้านการค้าและการเมือง
เท่าที่ผ่านมา ประเทศที่ดูจะประสบความสำเร็จมากที่สุดในการดำเนินธุรกิจน้ำมันกับคาซัคสถาน ได้แก่ ตุรกี ซึ่งบรรลุข้อตกลงกับคาซัคสถานที่จะร่วมกันพัฒนาบ่อน้ำมันและแก๊สธรรมชาติในคาซัคสถานถึง 7 แห่ง โดยตุรกีจะได้รับส่วนแบ่งเป็นน้ำมันจำนวน 2.1 พันล้านบาร์เรลและแก๊สธรรมชาติจำนวน 208.9 พันล้านลูกบาศก์เมตร คาซัคสถานมีน้ำมันสำรองถึง 2.5% ของปริมาณน้ำมันโลก และคาดว่าภายในปี 2560 จะติดอันดับ 1 ใน 10 ผู้ส่งออกน้ำมัน [1]
สำหรับการดึงดูดนักลงทุนจากต่างชาติ คาซัคสถานจะต้องแก้ปัญหาการทุจริตและปัญหาความไม่โปร่งใสของการลงทุน ซึ่งพบอยู่ทั่วไป โดยเฉพาะการครอบครองด้านเศรษฐกิจโดยกลุ่มผู้จัดการน้ำมันที่มีอำนาจทางการเมือง จะทำให้รัฐบาลมีรายได้จากการเก็บภาษีน้อยลง
[แก้] สถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน
ก่อนวิกฤตเศรษฐกิจของรัสเซีย คาซัคสถานได้รับการกล่าวถึงจากนานาชาติค่อนข้างดี ในแง่ของความพยายามและผลของการพัฒนาประเทศ แต่โดยที่รัสเซียเป็นประเทศคู่ค้าหลักของคาซัคสถาน จึงทำให้คาซัคสถานได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจครั้งนี้ด้วย โดยเมื่อวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2542 รัฐบาลและธนาคารชาติคาซัคสถานได้ประกาศจะยุติการแทรกแซงเพื่อพยุงอัตราการแลกเปลี่ยนของเงินเต็งเก (Tenge) และปล่อยค่าเงินลอยตัว เพื่อให้สินค้าของคาซัคสถานสามารถแข่งขันกับสินค้าจากประเทศอื่นที่ได้ลดค่าเงินในตลาดโลกได้ ทั้งนี้ ค่าเงินเต็งเกอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง จากอัตราแลกเปลี่ยน 1 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ 88 เต็งเก ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2542 จนเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2546 อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ เท่ากับ 146.37 เต็งเก
อย่างไรก็ดี คาซัคสถานได้พัฒนาระบบการเงินการธนาคารเป็นอย่างมาก รวมทั้งมีการปฏิรูประบบเศรษฐกิจและการเงิน จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2543 คาซัคสถานเป็นประเทศแรกของอดีตสหภาพโซเวียตที่สามารถจ่ายชำระหนี้คืนแก่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ล่วงหน้าก่อนกำหนดถึง 7 ปี และในปี พ.ศ. 2545 ได้มีความร่วมมือกับรัฐบาลสหรัฐอเมริกาในด้านการวางแผนระบบเศรษฐกิจ ทั้งนี้ การปรับเปลี่ยนกฎระเบียบเกี่ยวกับภาษีและระบบการคลังมีส่วนช่วยในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศเป็นอย่างมาก
น้ำมันและแก๊สธรรมชาติยังคงเป็นอุตสาหกรรมหลักที่ทำรายได้ให้แก่ประเทศ ทั้งนี้ มีการพิสูจน์แล้วว่าคาซัคสถานเป็นแหล่งสำรองน้ำมันของโลกร้อยละ 2.5 และจะสามารถผลิตน้ำมันได้วันละ 3 ล้านบาร์เรลภายในปี พ.ศ. 2558 ซึ่งจะทำให้คาซัคสถานอยู่ในกลุ่ม 1 ใน 10 ของประเทศผู้ส่งออกน้ำมันของโลก
[แก้] ประชากร
เริ่มจากชนเผ่าเร่ร่อนเชื้อสายผสมมองโกล-เตอร์กิช เรียกตนเองว่า "คาซัค" ชาวคาซัคส่วนใหญ่พูดภาษารัสเซีย [1]คาซัคสถานมีจำนวนประชากร 16,741,519 คน (พ.ศ. 2545)
[แก้] เชื้อชาติ
- ชาวคาซัค 53.4%
- ชาวรัสเซีย 30%
- ชาวยูเครน 3.7%
- ชาวเยอรมัน 2.4%
- ชาวอุซเบก 2.5%
- ชาวตาตาร์ 1.7%
- ชาวอุยกูร์ 1.4%
- ชาวเกาหลี 0.7%
- อื่นๆ 4.2%
[แก้] ศาสนา
- ศาสนาอิสลาม 47%
- ศาสนาคริสต์ 46% (นิกายออร์ทอดอกซ์ 44% นิกายโปรเตสแตนต์ 2%)
- อื่นๆ 7%
[แก้] วัฒนธรรม
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยวิกิพีเดียไทยได้โดยการเพิ่มเติมข้อมูลในส่วนนี้ |
[แก้] ศาสนา
ส่วนใหญ่ชาวคาซัคนับถือศาสนาอิสลาม 47% ชาวยุโรปส่วนใหญ่นับถือ ศาสนาคริสต์ 53% ไสยศาสตร์ ศาสนาพุทธ และศาสนาอื่น ๆ
[แก้] อ้างอิง
|